Feature

วิคตอร์ โอซิเมน : จากชีวิตปากกัดตีนถีบ สู่ศูนย์หน้าเนื้อหอมสะท้านยุโรป | Main Stand

หนล่าสุดที่นาโปลีคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 1989-90 ในเวลานั้นถือเป็น “ยุคทอง” ยุคหนึ่งของสโมสร มีดาวดังผู้ล่วงลับอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า เป็นตัวชูโรง แต่หลังจากนั้นทัพ “อัซซูร่า” ยังไม่เคยสัมผัสความสำเร็จดังกล่าวอีกเลย

 

อย่างไรก็ดี ฤดูกาล 2022-23 นี้ สโมสรกลับมาอยู่ในเส้นทางสู่แชมป์ลีกสูงสุดของอิตาลีอีกครั้ง และปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากความสุดยอดของ วิคตอร์ โอซิเมน สตาร์สไตล์อึด ถึก แกร่ง ที่ซัลโวประตูจนครองใจแฟน ๆ ชาวเนเปิลส์ พาตัวเองมาเป็นจอมซัลโวที่ทีมดังยุโรปจ้องตาเป็นมัน 

แต่กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ โอซิเมนมีเรื่องราวชีวิตไม่ต่างไปจากแข้งคนอื่น ๆ ที่ต้องสู้ชีวิตเพื่ออนาคตที่ดีกว่าตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ซ้ำยังเคยผ่านอุปสรรคบนถนนลูกหนังกับช่วงเวลาที่เกือบจะสูญเสียการมองเห็น 

มาติดตามเส้นทางชีวิตและฟุตบอลของ วิคตอร์ โอซิเมน ไปพร้อม ๆ กันกับ Main Stand

 

ความยากลำบากในวัยเยาว์

กว่าจะมาเป็น วิคตอร์ โอซิเมน ที่แฟนฟุตบอลรู้จักกันในเวลานี้ ดาวเตะที่ปัจจุบันอายุ 24 ปี มีช่วงชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน 

วิคตอร์เกิดและเติบโตขึ้นมาที่กรุงลากอส โดยคุณพ่อคุณแม่เลือกพาครอบครัวมาตั้งรกรากใหม่ ณ อดีตเมืองหลวงของไนจีเรีย ซึ่งปัจจุบันได้รับขนานนามว่าเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อแสวงหาโอกาสและชีวิตที่ดีกว่าให้กับลูก ๆ ทั้ง 6 คน รวมถึง วิคตอร์ ในฐานะลูกชายคนสุดท้อง

จุดหักเหสำคัญในชีวิตมาเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเยาว์ หลังตระกูลโอซิเมนต้องมาเสียคุณแม่อันเป็นที่รัก ซ้ำคุณพ่อยังเผชิญช่วงที่ตกงาน ทำให้ลูก ๆ จำเป็นจะต้องช่วยกันออกไปทำงานนอกบ้านเพื่อนำรายได้มาจุนเจือครอบครัว ประทังชีวิตในแต่ละวัน และเพื่อการศึกษา

หน้าที่หลัก ๆ ของ วิคตอร์ โอซิเมน และพี่ ๆ คือการรอในช่วงที่รถหยุดตามสัญญาณไฟจราจรแล้วจึงขายสินค้าที่แต่ละคนแบกหามกันมา ไล่มาตั้งแต่หนังสือพิมพ์กีฬายันน้ำดื่ม

“ผมเสียแม่ไปในเดือนตุลาคม ผมจำปีที่แม่ผมเสียไม่ได้ด้วยซ้ำ ผมยังเล็กมาก สามเดือนต่อมาพ่อของผมก็ตกงานอีก ครอบครัวของเราลำบากมาก พี่ชายของผมขายหนังสือพิมพ์กีฬา พี่สาวขายส้มตามท้องถนน ส่วนผมขายน้ำดื่มแบบบรรจุขวดตามข้างถนนในลากอส” วิคตอร์ ให้สัมภาษณ์กับ France Football

"ส่วนหนึ่งของชีวิตผมคือการดิ้นรนเพื่ออยู่รอด แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมเป็นผมในทุกวัน มันยากที่จะเจาะลึกลงไป แต่ทุก ๆ เหตุการณ์มันหล่อหลอมให้เป็นตัวผมทุกวันนี้"

เพราะการที่ วิคตอร์ โอซิเมน ยังอยู่ในวัยเด็ก แน่นอนว่าถ้าเอ่ยถึงวัยนี้คนเราย่อมนึกถึงความสนุกซุกซนและได้วิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ 

ทว่าด้วยฐานะทางบ้านที่ไม่ได้เริศหรูอะไร ทำให้สถานที่ที่มอบความสนุกสนานให้กับตัววิคตอร์รวมถึงเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกันไม่ใช่สถานที่ไกลตัว แต่เป็นบริเวณละแวกบ้านที่มีพื้นที่กองขยะขนาดใหญ่

“ที่ที่ผมเติบโตมา คนจะอยู่อีกฟากหนึ่งของพื้นที่ทิ้งขยะ” กองหน้าคนปัจจุบันของนาโปลี ว่าต่อ

“ผมกับเพื่อน ๆ ของผมจะไปที่นั่นทุกวันศุกร์หรือไม่ก็วันอาทิตย์เพื่อหารองเท้าเก่า ๆ เราอยู่ที่นั่นกันนานมากนะ ก็ตลกดี พวกเรามองว่ามันเป็นเกมครับ ให้คุณลองคิดดู … เรามักจะมีเรื่องทะเลาะกันเสมอ บางครั้งคุณเห็นคุณเจอรองเท้าไนกี้ (Nike) ข้างขวา จากนั้นคุณจะเริ่มมองหารองเท้าอีกข้าง” 

“และในที่สุดคุณก็จะพบรองเท้าข้างซ้าย แต่มันคือรีบ็อค (Reebok) พี่สาวของผมซ่อมทุกอย่างให้เรียบร้อย มันอยู่ในสภาพดีเลยครับ นี่ก็เพื่อความอยู่รอด”

 

แจ้งเกิดจากฟุตบอลโลกเยาวชน

เพราะ “ความฝัน” ของเด็กหลาย ๆ คนเกิดขึ้นจากการซึบซับเรื่องราวใดเรื่องราวหนึ่ง บวกกับการได้ลองลงมือทำในสิ่งนั้น ๆ โดยที่ไม่มีใครมากดดัน 

นั่นทำให้ใครหลาย ๆ คนมีโอกาสมุ่งไปสู่เส้นทางนี้จนถึงฝั่ง

เช่นเดียวกับเจ้าหนูวิคตอร์ที่ซึมซับเกมลูกหนังใบกลมมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าพ่อของเขาจะฝันอยากให้ลูกชายเป็นหมอมากกว่า แต่ถึงอย่างไร “ฟุตบอล” คือเรื่องเดียวที่เขาปรารถนา

“ใช่เลย จริงครับ พ่อฝันอยากให้ผมเป็นหมอ แต่ผมอยากเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะลูกฟุตบอลเป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขเสมอ และมันช่วยให้ผมลืมสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว” โอซิเมน กล่าวกับ Napoli Magazine 

“แม้แต่ตอนที่ผมเล่นเท้าเปล่าในไนจีเรียก็ด้วย ตอนนั้นผมไม่ได้ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ผมคิดแต่เรื่องเอาตัวรอด และสำหรับเด็กคนหนึ่งมันไม่ง่ายเลย”

และการได้ชมศึกพรีเมียร์ลีก ได้เห็น ดิดิเยร์ ดร็อกบา กองหน้าที่เสมือนเป็นตัวแทนจากคนในทวีปแอฟริกาโลดแล่นอยู่ แถมยังโชว์ฟอร์มสุดสะเด่าให้กับเชลซี ทำให้เขาอยากจะเป็นให้ได้เหมือนกับตำนานดาวยิงรายนี้ หรือก้าวไปไกลยิ่งกว่า

“ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นแบบอย่างของผมเลย เขาเป็นตัวแทนนักฟุตบอลและบุคคลที่ผมยึดถือเป็นแบบอย่าง ผมหวังจะพัฒนาความสามารถแบบเดียวกับเขา เขาเป็นไอคอน เป็นตำนาน ผมรักเขามาก ผมอยากเล่นให้ได้เหมือนเขาหรือดีกว่านั้น” โอซิเมน เผยผ่าน FIFA.com

นั่นทำให้ความฝันของเด็กชายคนนี้ที่วาดไว้ในอนาคตคือการเป็น “นักฟุตบอลอาชีพ”

หลังจากที่ แอนดรูว์ ผู้เป็นพี่ชาย ชวนไปดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกร่วมกับคนในชุมชนบ่อย ๆ 

มารู้ตัวอีกที วิคตอร์ได้กลายเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งของอคาเดมีฟุตบอลสมัครเล่นในกรุงลากอส ซึ่งที่นั่นก็ถือว่าโด่งดังมาก ๆ ที่หนึ่งในทวีปแอฟริกา นั่นคือ อัลติเมต สไตร์เกอร์ อคาเดมี (Ultimate Strikers Academy) 

แม้จะไม่ได้เป็นนักเตะสังกัดเยาวชนสโมสรฟุตบอลใด ๆ เลย สังกัดแค่ระบบฟุตบอลสมัครเล่นในประเทศ ทว่าจุดที่นำพาให้เขากลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองจากบรรดาทีมน้อยใหญ่ในยุโรปคือการติดทีมชาติไนจีเรีย ลงเล่นฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เมื่อปี 2015 ในวัย 16 ปี

ความโชคดีอยู่ที่ เอ็มมานูเอล อามูนิเก้ (Emmanuel Amunike) อดีตนักเตะทีมชาติไนจีเรียและบาร์เซโลน่า ในเวลานั้นเป็นกุนซือให้ทัพอินทรีมรกต รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เป็นคนเห็นฝีเท้าของเจ้าหนูวิคตอร์ที่มีทั้งความเร็วและความแข็งแกร่ง

อามูนิเก้ ชักชวนให้ วิคตอร์ โอซิเมน ไปซ้อมร่วมกับทีมชาติรุ่น U-17 ก่อนจะเห็นแววว่ามีดีพอที่จะเป็นส่วนหนึ่งของขุมกำลังไปลุยเวิลด์คัพเยาวชนที่ชิลี ในฐานะกองหน้าตัวเป้า

โอซิเมนตอบแทนโอกาสล้ำค่าด้วยผลงาน 10 ประตู ดีพอที่จะกลายเป็นดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ เป็นรองแข้งยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน พร้อมชูโทรฟี่แชมป์ฟุตบอลโลกร่วมกับทีมอินทรีมรกต

เพราะจุดเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังเริ่มต้นกับระบบอคาเดมีสมัครเล่น ไม่ได้เริ่มจากอคาเดมีของสโมสรอาชีพ นั่นทำให้เรื่องราวของดาวซัลโวบอลโลก U-17 ปี 2015 ที่ชิลี เริ่มเป็นที่ถูกพูดถึง 

ก่อนจะเป็น โวล์ฟสบวร์ก ทีมจากบุนเดสลีกา ที่ในช่วงเวลานั้นจับมือเป็นพันธมิตรกับ อัลติเมต สไตร์เกอร์ อคาเดมี ได้ลายเซ็นของ วิคตอร์ โอซิเมน มา โดยเซ็นสัญญาล่วงหน้าในปี 2016 กระทั่งเมื่อถึงวัย 18 ปี ก็ถึงเวลาพอดิบพอดีกับการโบยบินสู่ประเทศเยอรมนี

เป็นอีกครั้งที่ชีวิตของเขาไม่ได้ราบรื่นไปทั้งหมด กับช่วงเวลาร่วมกับทีมหมาป่าเมืองเบียร์ วิคตอร์ โอซิเมน ก็ชวดการแจ้งเกิดกับทีม 

โดยเฉพาะกับอาการบาดเจ็บที่เผชิญจนถูกปล่อยออกไปเก็บประสบการณ์ภายใต้รูปแบบการยืมตัวกับ สปอร์ติง ชาร์เลอรัว ทีมในลีกสูงสุดของเบลเยียม 

และชาร์เลอรัวก็กลายเป็นจุดแจ้งเกิดอย่างแท้จริงในฐานะนักเตะอาชีพ เขาทำประตูแรกได้ในวัย 19 ปี แถมในฤดูกาลที่ได้ลงเล่นเต็มอัตราศึก หัวหอกรายนี้ยังทำผลงานชวนให้เป็นที่ภาคภูมิ ผ่านผลงาน 20 ประตู จากการลงเล่น 36 เกม 

แม้ชาร์เลอรัวอยากจะเซ็นเขามาร่วมทีมแบบซื้อขาด ทว่าพวกเขากลับเจอทีมคู่แข่งลุ้นแย่งตัวที่ดูมีภาษีที่ดีกว่า นั่นคือ ลีลล์ หนึ่งในทีมชื่อดังจากฝรั่งเศส โดยลีลล์อยากให้เขาเข้ามาเป็นความหวังใหม่ของทีมต่อจาก นิโกลาส์ เปเป้ ที่ย้ายไปอาร์เซนอล

ท้ายสุด วิคตอร์ โอซิเมน กลายเป็นสมาชิกใหม่ของอดีตแชมป์ลีกสูงสุดแดนน้ำหอม 3 สมัย (ในเวลานั้น) และเวลาต่อจากนั้นกราฟลูกหนังของโอซิเมนก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ในวันที่เกือบเสียการมองเห็น

โอซิเมนย้ายมาอยู่กับลีลล์แค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้นเพราะความโดดเด่นที่ฉายให้เห็นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับผลงาน 18 ประตู ตลอดการลงเล่น 38 นัด เป็นดาวซัลโวของสโมสร ทำให้ นาโปลี ที่มีแผนเสริมผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าเข้ามาใหม่กางชื่อของสตาร์ไนจีเรียนเป็นแคนดิเดต 

ก่อนที่ทีมจะยอมทุ่มงบกว่า 70 ล้านยูโร กลายเป็นค่าตัวแพงสุดในประวัติการณ์สโมสร เพื่อดึงโอซิเมนมาเติมเกมรุก และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นนักเตะแอฟริกันที่แพงที่สุดอีกด้วย

อย่างไรก็แล้วแต่ ชีวิตในถิ่นสตาดิโอ ดิเอโก้ อาร์มานโด มาราโดน่า ของ วิคตอร์ โอซิเมน ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบตั้งแต่แรก สาเหตุสำคัญที่ฉุดโอกาสเฉิดฉายมาจากอาการบาดเจ็บที่เผชิญอยู่เป็นระลอก

สังเกตจากข้อมูลของเว็บไซต์ transfermarkt.com หากนับช่วงเวลาสองซีซั่นแรกกับยอดทีมแห่งเนเปิลส์ ซูเปอร์สตาร์เจ้าของส่วนสูง 185 เซนติเมตร เจออาการบาดเจ็บเล่นงานรวมกันถึง 168 วัน ชวดลงเล่นให้ทีมมากถึง 39 เกม ด้วยกัน

หนึ่งในอาการเจ็บที่เขาเจอมาหนักสุดถึงขั้นที่ว่าเกือบจะสูญเสียการมองเห็น คือเหตุปะทะกับ มิลาน สคริเนียร์ กองหลังของ อินเตอร์ มิลาน เมื่อปลายปี 2021 ทำเอากระดูกใบหน้าแตก ถึงขั้นที่ต้องผ่าตัดฝังแผ่นโลหะ 6 แผ่นพร้อมน็อต 18 ตัวลงไปในใบหน้า และต้องพักฟื้นอาการนานร่วม 54 วัน

“เนื่องจากกระดูกเบ้าตาถูกรักษาได้ทัน เพราะมันทำให้โอซิเมนอาจถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น กระดูกส่วนนั้นอาจสร้างปัญหาให้กับส่วนอื่นได้ แต่โชคดีที่ปัจจัยบางอย่างช่วยให้เรานำลูกตาของเขากลับเข้าสู่เบ้าตาได้ แผ่นเหล็กไม่จำเป็นต้องถูกนำออกไปเว้นเสียแต่มีกรณีฉุกเฉิน ยกตัวอย่างถ้ามันเกิดการติดเชื้อ ไทเทเนียมสามารถทำให้ผลการเอ็กซ์เรย์ผิดเพี้ยนไปได้” จานเปาโล ทาร์ทาโร ศัลยแพทย์ เผยอาการที่โอซิเมนเผชิญ

“แต่ผมไม่คิดว่าโอซิเมนอยากนำมันออกมานะ ตอนที่เราลงมือผ่าตัด เราใช้แผ่นโลหะคุณภาพดีที่สุดในโลกและต้องศึกษาอย่างระมัดระวังที่สุดเพื่อฝังมันลงไป มันเป็นการป้องกันหากนักเตะจำเป็นต้องโหม่งลูกฟุตบอล”

เป็นเหตุให้เขาต้องสวมหน้ากากป้องกันบริเวณดังกล่าวทุกครั้งที่ลงเล่น และแม้ช่วงซัมเมอร์ 2022 จะมีการยืนยันจากทีมแพทย์สโมสรว่าโอซิเมนไม่ต้องสวมหน้ากากลงเล่นอีกแล้ว 

แต่กลับกลายเป็นว่าเขายังคงเลือกใส่ต่อมาจนถึงปัจจุบันเพราะทำให้รู้สึกว่าปลอดภัยกว่า จนกลายมาเป็นภาพจำของแฟนฟุตบอลไปแล้ว

 

พานาโปลีลุ้นแชมป์ จนทีมใหญ่จ้องตาเป็นมัน

เมื่อรักษาอาการบริเวณใบหน้าจนกลับมาลงสนามได้ โอซิเมนกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของนาโปลีอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2021-22 

และด้วยศักยภาพที่มีในตัว กอปรกับเมื่ออาการบาดเจ็บไม่ได้เข้ามารบกวนอีกแล้วในช่วงนั้น เขาก็เริ่มมีชื่อบนสกอร์บอร์ดในฐานะแข้งที่ทำประตูได้อยู่บ่อยครั้ง ก่อนจะปิดฉากปีนั้นด้วยผลงาน 18 ประตูรวมทุกรายการ เป็นดาวซัลโวของสโมสร

แม้ 2021-22 จะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่นาโปลีร้างความสำเร็จ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็มีดาวยิงอย่างโอซิเมนที่สวมหน้ากากดุจเครื่องรางสร้างความมั่นใจคอยล่าตาข่าย และพร้อมจะล่าความสำเร็จให้ทีมในฤดูกาลต่อไปเต็มตัว

กระทั่งฤดูกาล 2022-23 เริ่มต้นขึ้น นาโปลีก็กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด นอกจากจะยืดแกนหลักชุดเดิมบางส่วนไว้ ซึ่งรวมถึงชื่อของ วิคตอร์ โอซิเมน ทีมของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ยังเติมเต็มในจุดที่ขาดได้อย่างเนียนสนิท

ความวูบวาบของ ควิชา ควารัตสเคเลีย ปีกจอร์เจีย หนึ่งในนักเตะใหม่ ได้สร้างความฮือฮาให้แผงรับคู่แข่งร่วมลีก การดึงกองหลังรายใหม่อย่าง คิม มิน-แจ เข้ามาทดแทน คาลิดู คูลิบาลี่ ซึ่งแนวรับเกาหลีใต้ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่มีเคอะเขิน

ทางฝั่งดาวยิงหมายเลข 9 เอง แน่นอนว่านี่คือฤดูกาลฟุตบอลอาชีพที่ดีที่สุดของเขา จากจุดเด่นทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง ไว้ใจได้เรื่องลูกกลางอากาศ จบสกอร์คม แถมยังมีประโยชน์ยามที่ไม่ได้อยู่กับลูกฟุตบอลด้วย โดยเฉพาะการวิ่งดึงตัวประกบ 

ทั้งหมดนี้ส่งให้หัวหอกทีมชาติไนจีเรียแปรเปลี่ยนเป็นผลงานซัลโวแตะหลัก 21 ประตู จากการลงเล่น 27 เกม รวมทุกรายการ และมีส่วนพาสโมสรรั้งจ่าฝูงกัลโช่ เซเรีย อา อย่างเหนียวแน่น ชนิดทำแต้มทิ้งอันดับสองอย่าง อินเตอร์ มิลาน ถึง 18 คะแนน (สถิติหลังจบแมตช์เดย์ที่ 26) อยู่ในเส้นทางลุ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดในรอบ 33 ปี นับตั้งแต่ฤดูกาล 1989-90

ไม่แปลกที่เขาจะกลายเป็นหนึ่งในนักเตะเนื้อหอมคนหนึ่งในเวลานี้ สโมสรระดับท็อปมากมายล้วนให้ความสนใจ โดยเฉพาะสโมสรในพรีเมียร์ลีก ลีกที่เขาเคยติดตามการแข่งขันมาตั้งแต่เด็ก

โอซิเมนเองก็ยอมรับว่าการเล่นในลีกสูงสุดอังกฤษคือความฝัน แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นเรื่องของอนาคต สิ่งที่เขาวางเป้าหมายในเวลานี้คือรักษาระดับการเล่นของตัวเองให้สม่ำเสมอ

“คนทั่วโลกมองว่าพรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ดีที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด แต่ตอนนี้ผมอยู่ในลีกที่ดีที่สุดในโลก นั่นคือกัลโช่ เซเรีย อา ตอนนี้ผมทำงานอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าผมจะได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกตามความฝันในสักวันหนึ่ง”

“แต่อย่างที่ผมพูด มันเป็นเรื่องของกระบวนการครับ ผมแค่ต้องการรักษาโมเมนตัมนี้ไว้และทำผลงานให้ดีต่อไป” สตาร์วัย 24 ปี ทิ้งท้าย

ไม่แน่ว่าในวันข้างหน้า หากความสม่ำเสมอยังคงอยู่กับตัว วิคตอร์ โอซิเมน เขาอาจได้ก้าวตามรอยไอดอลลูกหนังของเขาอย่าง ดิดิเยร์ ดร็อกบา 

มากไปกว่านั้น หากไม่บาดเจ็บหนักจนพรากโอกาสบู๊ในสนาม การก้าวไปได้ไกลกว่าตำนานหัวหอกไอวอรี่โคสต์ดังที่เคยตั้งเป้าหมายก็อาจจะเกิดขึ้นจริงก็ได้

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.babagol.net/blog/2019/12/13/victor-osimhen 
https://www.thesun.co.uk/sport/18375463/arsenal-transfer-target-victor-osimhen-tragic-story/ 
https://theathletic.com/4280870/2023/03/06/victor-osimhen-premier-league/
https://theathletic.com/4240300/2023/03/03/victor-osimhen-napoli-anaysis/
https://www.90min.com/posts/why-does-victor-osimhen-wear-a-mask 
https://www.thesun.co.uk/sport/21549734/man-utd-chelsea-transfer-victor-osimhen-horror-facial-injury/ 
https://www.espn.com/soccer/blog-football-nigeria/story/2686372/nigeria-u17-striker-victor-osimhen-didier-drogba-my-idol 
https://www.goal.com/en/news/dad-wanted-me-to-be-a-doctor-osimhen-reveals-alternative-career-path-away-from-napoli/bltb323f68376f4c566 
https://www.transfermarkt.com/victor-osimhen/verletzungen/spieler/401923 
https://www.goal.com/en-us/news/victor-osimhen-could-have-lost-sight-surgeon-horror-injury-napoli-man-utd-striker/bltdf14f281c875f537 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น