2023 หรือก้าวสู่ปีที่ 6 ติดต่อกัน ที่ “คาราบาว” ได้เข้ามาให้การสนับสนุนฟุตบอลถ้วยลีกอาชีพสำคัญของประเทศอังกฤษ ภายใต้ชื่อที่แฟน ๆ ทั่วโลกคุ้นหูอย่าง “คาราบาว คัพ” ที่มีมนต์เสน่ห์ช่วยให้ตามติดในทุก ๆ ฤดูกาล
นี่เป็นเครื่องการันตีถึงการยืนหนึ่งในฐานะแบรนด์สัญชาติไทยแบรนด์เดียวที่ประสบความสำเร็จผ่านกลยุทธ์ Sport Marketing สู่ระดับเวทีโลกอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกับแวดวงลูกหนัง และนับเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จผ่านการสนับสนุนสโมสรฟุตบอลเชลซี ในช่วงก่อนหน้านี้
มากไปกว่านั้น ด้วยการที่แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังซึ่งคนไทยคุ้นหูกับสโลแกน “นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่” ให้การสนับสนุนถ้วยลีก คัพ ยังได้นำประสบการณ์ระดับโลกมาสู่ระดับประเทศและภูมิภาคอาเซียนด้วยอีกทางหนึ่ง
คาราบาว ใช้ “ฟุตบอล” ในฐานะกีฬาสากลที่เข้าถึงคนทั่วโลกมายกระดับและต่อยอดความสำเร็จได้อย่างไร ติดตามไปพร้อม ๆ กันที่ Main Stand
รุกวงการกีฬาโลก ด้วยกลยุทธ์ “Sport Marketing”
หากเอ่ยถึงบริบทของวงการกีฬา โดยเฉพาะการก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ จะเห็นได้ว่าองค์ประกอบของการแข่งขันในหลาย ๆ ชนิดกีฬา ไม่ได้ให้ความสำคัญกับแค่ผลการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือการทำการตลาดที่เกี่ยวข้องกับกีฬา หรือ Sport Marketing
Sport Marketing มีนิยามให้ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง แต่ประเด็นสำคัญประการหนึ่งที่บ่งชี้ว่ากลยุทธ์ดังกล่าว ถูกนำมาปรับใช้จนประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ครั้ง ก็คือการที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเข้ามามีส่วนร่วมกับภาคส่วนการกีฬา ไล่มาตั้งแต่นักกีฬา สโมสรกีฬา ไปจนถึงรายการการแข่งขัน นำมาซึ่งการขยายฐานผู้บริโภคสู่วงกว้าง ก่อให้เกิดการสร้างการรับรู้ ส่งผลต่อยอดขายในอนาคต เป็นต้น
ยิ่งโลกยุคสมัยใหม่มีความไร้พรมแดน กอปรกับการติดต่อสื่อสารที่ไม่ได้ถูกจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ (Time and Space) อีกต่อไป ทำให้หลาย ๆ แบรนด์เริ่มจับตลาดใหม่ ๆ ที่ไปไกลเกินกว่าระดับประเทศ หนึ่งในนั้นก็คือ “คาราบาว”
สำหรับประเทศไทย มีข้อสังเกตว่าแบรนด์คาราบาวเลือกใช้ภาพจำจากตัวบุคคลเป็นสำคัญ รวมถึงกลยุทธ์ Music Marketing มาเป็นส่วนหนึ่ง
เพราะหากเอ่ยถึงคำว่า “คาราบาว” คนไทยก็ย่อมนึกถึงชื่อของกลุ่มศิลปินเพื่อชีวิต ที่มี “แอ๊ด คาราบาว” นักร้องนำ มาเป็นชื่อแรก หรือแม้แต่การสื่อสารผ่านโฆษณาทางสื่อ ตลอดจนคำฮิตติดหูของใครหลายคน สโลแกนดั่งจิตวิญญาณความเป็นคาราบาว มักจะมีคำที่ว่า "นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่" ปรากฏอยู่เสมอ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องดังกล่าว ส่งผลให้แบรนด์คาราบาว ภายใต้ผลิตภัณฑ์ “คาราบาวแดง” มีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังที่ใครหลายคนได้เข้ามามีส่วนร่วม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ยิ่งกว่านั้น คาราบาวกรุ๊ปยังเลือกตีตลาดจากกลุ่มประเทศร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างกลุ่มประเทศเป้าหมาย CLMV ประกอบไปด้วยกัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ และ เวียดนาม จนประสบความสำเร็จ ก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของตลาดอาเซียน
เมื่อขยายความสำเร็จได้ทั้งในระดับประเทศและอาเซียนแล้ว ก็ถึงเวลาที่คาราบาวจะได้ขยายความยิ่งใหญ่ออกไปอีกขั้น กับการตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งเครื่องดื่มชูกำลังระดับสากล ผ่านผลิตภัณฑ์ชื่อสากล “Carabao” ด้วยวิสัยทัศน์ “สินค้าระดับโลก แบรนด์ระดับโลก (World Class Product World Class Brand)”
ด้วยการที่เครื่องดื่มประเภท เอเนอร์จี้ ดริงก์ (Energy Drink) แบรนด์ระดับโลกเกือบทุกแบรนด์ล้วนแต่มีส่วนสนับสนุนในอุตสาหกรรมกีฬา ซึ่งเติบโตไม่แพ้อุตสาหกรรมอื่น ๆ บนโลก
เช่นเดียวกัน คาราบาว ก็ได้ขยับเข้าสู่หมุดหมายใหม่ ๆ ร่วมกับวงการนี้ที่ประเทศอังกฤษ เริ่มเดินเครื่องสู่กลยุทธ์ Sport Marketing กับการเข้าเป็นผู้สนับสนุนสโมสรและรายการแข่งขัน “ฟุตบอล” ในประเทศที่กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
จากสิงห์บลูส์ สู่ คาราบาว คัพ
คาราบาวแดง หรือ Carabao ชื่อที่ตีตลาดอังกฤษ เริ่มขยับสู่วงการกีฬาช่วงแรก ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฟุตบอลอังกฤษ เริ่มจาก เรดดิ้ง ในฤดูกาล 2015-2016 โดยในเวลานั้น ทัพ “เดอะ รอยัลส์” มีกลุ่มทุนไทยร่วมถือหุ้นสโมสร จนครั้งหนึ่งสโมสรแห่งนี้เคยเดินทางมาแข่งขันอุ่นเครื่องที่ประเทศไทย ในศึก “เรดดิ้ง เอฟซี ไทยแลนด์ ทัวร์ 2015” มาแล้ว
จากนั้น คาราบาว ขยับสู่เวทีที่ใหญ่ขึ้น ด้วยการเข้าไปเป็นพันธมิตรหลัก (Principal Partner) ให้กับหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบนเกาะเกรตบริเตน อย่าง เชลซี ในระหว่างปี 2016-2019
โดยตราสัญลักษณ์ Carabao ไปปรากฏอยู่บนเสื้อซ้อมของนักเตะ ชุดของผู้จัดการทีม และสตาฟ ไปจนถึงพนักเก้าอี้ที่สนามแข่งขันสแตมฟอร์ดบริดจ์ ป้ายโฆษณาดิจิทัลรอบสนาม ตลอดจนช่องทางสื่อสารต่าง ๆ ของสโมสร เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกของแบรนด์สายเลือดไทยที่ได้มายืนอยู่ในจุดที่เป็นพันธมิตรหลักของสโมสร
ทำให้ คาราบาว สามารถนำภาพของนักเตะเดอะ บลูส์ ไปใช้บนผลิตภัณฑ์ และสื่อโฆษณาต่าง ๆ ที่จะนำออกสู่ตลาดทุกประเทศในโลกได้เต็มอัตรา และนั่นก็ส่งให้ภาพลักษณ์ความเป็นสากลเกิดขึ้นอย่างเต็มตัว
นอกจากนี้ ในช่วงที่ คาราบาว เข้าให้การสนับสนุนทีมสิงโตน้ำเงินคราม ถือเป็นช่วงเวลาที่ทีมกวาดความสำเร็จมากที่สุดช่วงหนึ่ง ไล่มาตั้งแต่แชมป์พรีเมียร์ลีก 2016/17, แชมป์เอฟเอ คัพ 2017/18 รวมถึงแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2018/19
ดังนั้น หากจะกล่าวว่า คาราบาว อยู่ในทุก ๆ ความสำเร็จดังกล่าวก็คงไม่ผิดอะไร
จริงอยู่ที่ คาราบาว เริ่มเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศมากขึ้นแล้ว แต่เมื่อแบรนด์มีศักยภาพที่พร้อมก้าวไปไกลกว่าเดิม นำมาซึ่งการขยับจากการสนับสนุนทีมฟุตบอลมายังการเป็นผู้สนับสนุนหลัก (Main Sponsorship) ของการแข่งขันฟุตบอลบ้าง
กระทั่งเกิดปรากฏการณ์เซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนฟุตบอลลีก คัพ อังกฤษ หรือ อีเอฟแอล คัพ (EFL Cup) ภายใต้ชื่อ “คาราบาว คัพ (Carabao Cup)” เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2017/2018 ตามด้วยการขยายสัญญาเรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน โดยในปี 2023 นี้ เข้าสู่ปีที่ 6 พอดิบพอดี
นอกจากจะเป็นก้าวสำคัญ และเป็นความท้าทายในแง่ของการทำการตลาดในระดับสากลแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่รายการแข่งขันฟุตบอลเก่าแก่ที่ริเริ่มแข่งขันมาเป็นเวลากว่า 60 ปี มีแบรนด์ที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ และเข้ามาให้การสนับสนุน
สำหรับการแข่งขันคาราบาว คัพ หรือ ลีก คัพ ก็เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์มาช้านาน กับการชิงชัยของบรรดาสโมสรจากลีกสูงสุดของประเทศ ไล่ลดหลั่นลงไปยังดิวิชั่น 2, 3 และ 4 รวม ๆ แล้วกว่า 92 ทีมจากทั่วเกาะอังกฤษ
ดังที่แฟนฟุตบอลได้เห็นมาตลอดหลายฤดูกาล ไม่ว่าจะเหตุการณ์ “ทีมเล็กล้มทีมใหญ่” อย่างเกมที่ บริสตอล ซิตี้ จากลีกรอง เปิดบ้านดับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 เมื่อปี 2017 หรือปีต่อมา (2018) เบอร์ตัน อัลเบียน จากลีกระดับสาม ล้ม เบิร์นลีย์ จากลีกสูงสุด 2-1 เป็นต้น
ไปจนถึงการปล่อยของของเหล่านักเตะดาวรุ่ง ที่หลายคนถูกผลักดันสู่ทีมชุดใหญ่ในอนาคต ตลอดจนการห้ำหั่นของเหล่าสโมสรใหญ่ ที่ต่างก็จัดเต็มเพื่อหวังถึงการชูโทรฟี่แชมป์เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดยาว เหล่านี้ล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่ถูกขีดเขียนขึ้นในทุก ๆ ปี
และยังไม่นับการตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังสัญชาติไทยท่ามกลางเวทีโลก ด้วยกลยุทธ์ Sport Marketing อื่น ๆ ที่หลากหลาย
อย่างการไลฟ์สดการจับสลากประกบคู่รอบแรก ของฤดูกาล 2017-18 ที่ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การจัดการแข่งขันฟุตบอลอังกฤษที่อนุญาตให้มีการจับสลากนอกประเทศ หรือแนวทางการตีตลาดกีฬาผ่านตัวบุคคล ดังการปรากฏตัวของ แอ๊ด คาราบาว และ คุณเสถียร เสถียรธรรมะ ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ที่เป็นผู้มอบถ้วยให้กับทีมผู้ชนะ นับเป็นการตอกย้ำเชิงประจักษ์ถึงการที่คนไทยและแบรนด์ไทยได้ไปไกลในระดับโลก อย่างแท้จริง
แน่นอนว่าทุก ๆ โมเมนต์ดังตัวอย่างล้วนแต่ปรากฏสู่สายตาคอลูกหนังทั่วมุมโลก จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ถูกเผยแพร่ออกไปในทั่วทุกทวีป และทั้งหมดนี้ได้ตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์แบรนด์ กับการก้าวสู่การเป็น “สินค้าระดับโลก แบรนด์ระดับโลก” (World Class Product World Class Brand)
นำประสบการณ์ระดับโลกมายังประเทศไทยและอาเซียน
ในระหว่างที่ คาราบาว เลือกทำการตลาดระดับโลกผ่านการเป็นผู้สนับสนุนฟุตบอลลีก คัพ อยู่เรื่อยมา สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังจากประเทศไทยยึดเป็นแนวทางอยู่เรื่อยมา คือการนำ “ประสบการณ์” ระดับโลกมาสู่ระดับประเทศและภูมิภาค
สำหรับในประเทศไทย การมอบโอกาสพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิตให้คอฟุตบอลอังกฤษ กับการบินลัดฟ้าไปชมการแข่งขันแบบติดขอบสนาม เป็นสิ่งที่คาราบาวใช้กลยุทธ์ดังกล่าวกับแฟนฟุตบอลชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
อย่างล่าสุดนี้ ในนัดชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ 2023 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมแตงโม ผู้ชนะการแข่งขัน Carabao 7-a-Side Cup หรือทัวร์นาเมนต์ฟุตบอล 7 คน ที่ทางคาราบาวจัดขึ้นในปี 2022 ก็จะได้เดินทางมาชมเกมคู่นี้ที่เวมบลีย์กันแบบยกทีม
นอกจากนี้แล้ว ในระหว่างแข่งขันหาทีมแชมป์ ยังมี หลุยส์ ซาฮา และ เดวิด เจมส์ อดีตสองแข้งชื่อดังที่ผ่านการเป็นแชมป์ลีกคัพมาแล้วร่วมเป็นสักขีพยาน และมาเป็นเกียรติมอบถ้วยรางวัลแชมป์ถึงประเทศไทยอีกด้วย
การพัฒนาในส่วนของวงการฟุตบอลไทยก็มีให้เห็นเช่นกัน ดังโครงการ Carabao Coach the Coaches ภายใต้ความร่วมมือกับฟุตบอลลีกอังกฤษ (EFL) หรือฝ่ายจัดการแข่งขันคาราบาว คัพ กับการมอบโอกาสให้กับผู้ฝึกสอนฟุตบอลชาวไทย ผ่านการส่งผู้ฝึกสอนฟุตบอลที่มีความรู้ความสามารถจากเกาะอังกฤษ นำประสบการณ์มาถ่ายทอดความรู้ ทักษะ ศาสตร์ และเทคนิคฝึกสอนฟุตบอลระดับเยาวชนให้กับผู้ฝึกสอนชาวไทย
โครงการดังกล่าว เป็นหนึ่งในฟันเฟืองเตรียมพร้อมของโค้ชสายเลือดไทย สู่การปลุกปั้นเยาวชนเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเตะอาชีพในอนาคต
ขณะเดียวกัน คาราบาว ยังได้มอบประสบการณ์ล้ำค่าผ่านการตีตลาด และยกระดับฟุตบอลระดับอาเซียนเพื่อให้มีมาตรฐานระดับโลกไปในเวลาเดียวกัน
อย่างล่าสุด ในปี 2023 นี้ กับการเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฟุตบอลฮอง อันห์ ยา ลาย (Hoang Anh Gia Lai) หนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่แห่งเวียดนาม ที่มี “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตำนานนักเตะชาวไทย เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน
ขึ้นสู่ปีที่ 6 ที่ คาราบาว ให้การสนับสนุนศึกฟุตบอลลีก คัพ แน่นอนว่าช่วงเวลาต่อจากนี้ คาราบาว ก็จะยังคงยึดการใช้กลยุทธ์ตลาดกีฬามาขยายความยิ่งใหญ่สู่ระดับสากลแบบไม่มีลดละ
ทำนองเดียวกัน การนำประสบการณ์ระดับโลกเข้ามายกระดับแวดวงฟุตบอลในระดับประเทศ ตลอดจนอาเซียน ผ่านกิจกรรมและการสนับสนุนอันหลากหลาย ก็จะยังคงปรากฏให้เห็นต่อไป
ทั้งหมดล้วนแต่ตอกย้ำ DNA ของความเป็น “นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่” อย่างแท้จริง
#คาราบาว #CarabaoCup #คาราบาวคัพ #Carabao #WorldClassProduct #WorldClassBrand
แหล่งอ้างอิง
https://www.carabao.co.th/news
https://mainstand.co.th/th/features/5/article/2746
https://en.wikipedia.org/wiki/EFL_Cup
https://www.longtunman.com/36081
https://www.brandcase.co/34208