Feature

รีเทิร์นเพื่อลูก : เหตุผลที่ ริอานน่า ทิ้งบทบาทแม่ค้ามาจับไมค์ในโชว์พักครึ่งซูเปอร์โบวล์ | Main Stand

ศึกอเมริกันฟุตบอลนัดชิงแชมป์ประจำฤดูกาล หรือ ซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 57 รูดม่านไปพร้อมใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของเหล่าสาวก แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เมื่อทีมรักของพวกเขาเอาชนะ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ไปแบบสุดมัน 38-35 แต้ม คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์สมัยที่ 3 ต่อหน้าคนดูถึง 67,827 คน ที่สเตด ฟาร์ม สเตเดียม เมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่น

 


ขณะที่แฟนเพลงของ ริอานน่า ป๊อปสตาร์หญิงระดับโลก ก็มีความสุขกลับไปเช่นกัน เมื่อเธอหวนกลับมาจับไมโครโฟนครั้งแรกในรอบ 7 ปี ขึ้นเวทีขนเพลงฮิตมาเอ็นเตอร์เทนแฟน ๆ ที่ดูสดในสนามและทางทีวีที่บ้านตลอด 13 นาที ในช่วงโชว์พักครึ่ง หรือ ฮาล์ฟไทม์โชว์ อันเป็นสิ่งที่พวกเขารอคอยมาแสนนาน เพราะคิดว่าเธอคงไม่กลับมาร้องเพลงอีกแล้ว นับตั้งแต่ผันตัวไปเป็นแม่ค้าขายความงามระดับพันล้าน

ว่าแต่เหตุผลอะไรที่ทำให้นักร้องหญิงชาวบาร์เบโดสกลับมาปรากฏตัวในช่วงพักครึ่งของศึกซูเปอร์โบวล์ เวทีศักดิ์สิทธิ์ที่ศิลปินทั่วโลกใฝ่ฝันอยากขึ้นแสดงสักครั้งในชีวิต ทั้งที่เคยปฏิเสธโอกาสนี้ไปเมื่อปี 2019 Main Stand ขอพาแฟนเพลงของริอานน่ามาติดตามกัน

 

การรีเทิร์นสุดเซอร์ไพรส์

ย้อนไปเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2022 NFL ผู้จัดการแข่งขันนัดชิงซูเปอร์โบวล์ และ APPLE แบรนด์เทคโนโลยีระดับโลก ได้เข้ามาเป็นสปอนเซอร์รายใหม่ของช่วงฮาล์ฟไทม์โชว์ร่วมกันประกาศว่า ศิลปินที่จะขึ้นเวทีแสดงสดช่วงพักครึ่งการแข่งขัน ฮาล์ฟไทม์โชว์ ในศึกซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 57 ก็คือ ริอานน่า ป๊อปสตาร์หญิงชาวบาร์เบโดส

การประกาศบนโลกออนไลน์ครั้งนั้นทำเอาสาวกแฟนคลับของริอานน่าทั่วโลกตื่นเต้นอย่างมากและสมหวังไปด้วย เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาและพวกเธอต่างเรียกร้องอยากเห็นนักร้องหญิงเจ้าของเพลงในตำนาน Umbrella กลับมาร้องเพลงอีกครั้ง เนื่องจากเธอหายหน้าหายตาจากวงการไปนานแล้ว

หากถามว่าหายไปนานแค่ไหน ? ก็ต้องบอกว่า 7 ปีเลยทีเดียว นับตั้งแต่อัลบั้ม ANTI งานชุดที่ 8 ของเธอ เมื่อปี 2016 ซึ่งมีเพลงฮิตติดหูอย่าง Work, Needed Me และ Love On The Brain ขณะที่คอนเสิร์ตที่เล่นแบบเต็มโชว์ที่เธอขึ้นเวทีครั้งล่าสุดก็คือคอนเสิร์ตในการแข่งขัน Formula 1 รายการอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2016 จากนั้นก็พักไมค์แบบยาว ๆ

อันที่จริงหลังจบทัวร์โปรโมตอัลบั้ม ANTI ริอานน่าก็วางแผนทำเพลงและออกอัลบั้มใหม่ ซึ่งมีข่าวว่าจะออกตั้งแต่ปี 2019 แต่ด้วยช่วงเวลานั้นที่เธอสวมหมวกเป็นนักธุรกิจในวงการความงาม จากการปั้นแบรนด์ของตัวเองที่ชื่อ Fenty เมื่อปี 2017 ที่อยู่ในความร่วมมือของ Louis Vuitton และประสบความสำเร็จทำรายได้มหาศาลจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์อย่าง Fenty Beauty ซึ่งมีทั้งแป้งเมกอัพ ลิปสติก รองพื้น น้ำหอม อันเป็นสิ่งที่สาว ๆ ทั่วโลกใช้กันในชีวิตประจำวัน บวกกับที่เธอต้องการให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น ทำให้เธอเลือกที่จะวางไมค์พักงานเพลงแบบไม่มีกำหนด

Forbes สื่อธุรกิจชั้นนำของโลก เปิดเผยว่ายอดขายอันถล่มทลายของแบรนด์เครื่องสำอางค์ Fenty รวมถึงรายได้ต่าง ๆ และยอดขายซิงเกิลอัลบั้มเพลงที่เธอทำมาทั้งหมด ทำให้ริอานน่ามีทรัพย์สินส่วนตัวรวมแล้วมากกว่า 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 47,250 ล้านบาท) พร้อมยกสถานะตนเองเป็นศิลปินที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อยประจำปีนี้

ด้วยเงินทองและทรัพย์สินที่มีให้ใช้ไปตลอดชีวิต บวกกับการไม่ออกผลงานเพลงใหม่มานานมากแล้ว ทำให้แฟนเพลงและสื่อบันเทิงมากมายพากันแซวเธอว่าเป็น "แม่ค้าที่ร้องเพลงได้นิดหน่อย" และถึงจะเรียกร้องอ้อนวอนให้ริอานน่ากลับมาทำเพลงอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากศิลปินที่ท่านเรียก จนหลายคนคิดว่าเธอคงจะไม่กลับมาร้องเพลงอีก

แต่ถึงอย่างนั้น วันที่ 25 กันยายน 2022 ฝันของแฟนเพลงของริอานน่าทั่วโลกก็เป็นจริงจนได้

 

เรียกน้ำย่อยกับ "วาคานด้า ฟอร์เอฟเวอร์"

เมื่อประกาศว่าริอานน่าจะรีเทิร์นจับไมค์แสดงสดอีกครั้งในรอบ 7 ปี เธอก็ได้เตรียมตัวสำหรับงานใหญ่ครั้งสำคัญนี้ด้วยการวางหมวกนักธุรกิจชั่วคราวแล้วกลับมาฝึกร้องเพลง เรียกน้ำเสียงเก่า ๆ ของตัวเอง เมื่อเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยก็ปล่อยซิงเกิลใหม่ที่เป็นงานเดี่ยวของตัวเองอย่าง Lift Me Up กับ Born Again ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ฮีโร่ Black Panther: Wakanda Forever ที่ออกฉายเมื่อปี 2022

การกลับมาหนนี้ แฟนเพลงและสื่ออ้าแขนต้อนรับริอานน่าอย่างอบอุ่น เมื่อเพลงโปรโมตอย่าง Lift Me Up พุ่งทะยานขึ้นไปติดอันดับ 2 ของชาร์ตเพลงกระแสหลักใน Billboard Top 100 และได้ชิงรางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ขณะที่ตัวเพลงก็ถูกนำเสนอในสไตล์เพลงป๊อปผสมอาร์แอนด์บีแบบที่เธอถนัด ส่วนเนื้อหาก็พูดถึงการโหยหาความอบอุ่นและกำลังใจจากคนที่จากโลกนี้ไปแล้ว เพื่อใช้มันเป็นพลังพยุงตัวเองให้กลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง

Tems หนึ่งในผู้เขียนเพลง Lift Me Up ร่วมกับริอานน่า พูดถึงที่มาและความภาคภูมิใจที่ได้เห็นศิลปินคนโปรดถ่ายทอดเพลงนี้ด้วยน้ำเสียงเข้าถึงอารมณ์ว่า "ตอนที่พูดคุยกับ ไรอัน คูเกลอร์ (ผู้กำกับภาพยนตร์ Black Panther ทั้ง 2 ภาค) ได้ฟังทิศทางของหนังและเนื้อเพลง ฉันก็อยากเขียนเพลงถึงบางสิ่งที่ชวนให้นึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของคนที่จากฉันไป ฉันพยายามจินตนาการว่าถ้าหากร้องเพลงนี้ให้พวกเขาได้ก็อยากบอกว่าฉันคิดถึงพวกเขาขนาดไหน ขณะเดียวกันริอานน่าก็คือแรงบันดาลใจของฉัน การได้ฟังเธอร้องเพลงที่ฉันเขียนนี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง"

แม้เพลงจะไม่ได้ขึ้นอันดับ 1 เหมือนเพลงอื่นของริอานน่า แต่การกลับมาพร้อมกับ Lift Me Up และน้ำเสียงอันทรงพลังที่แฟนเพลงคุ้นเคย ก็ทำให้แฟน ๆ อดตื่นเต้นไม่ได้และนับถอยหลังรอดูศิลปินคนโปรดของพวกเขาฉายแสงบนสังเวียนนัดชิงชนะเลิศที่ สเตด ฟาร์ม สเตเดียม แบบอดใจรอแทบไม่ไหว

 

เวทีนี้เพื่อลูก

หากจำกันได้ ศึกซูเปอร์โบวล์ ปี 2019 ริอานน่าเคยได้รับการทาบทามจาก NFL และ PEPSI สปอนเซอร์เพื่อชวนมาขึ้นแสดงช่วงพักครึ่ง ฮาล์ฟไทม์โชว์ เวทีที่ศิลปินทั่วโลกเฝ้าใฝ่ฝันอยากแสดงสักครั้งในชีวิต แต่นักร้องหญิงที่มีชื่อจริงว่า "โรบิน เฟนตี้" ตอบปฏิเสธ แล้วเป็น Maroon 5 วงป๊อปร็อกขวัญใจสาว ๆ รับงานขึ้นเป็นเฮดไลน์ช่วงพักครึ่งเกมคู่ระหว่าง นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ กับ แอลเอ แรมส์ ซึ่งก็เป็น "นักรบกู้ชาติ" คว้าแชมป์ไป

เหตุผลที่ริอานน่าปฏิเสธขึ้นเวทีฮาล์ฟไทม์โชว์หนนั้น เพราะเธอต้องการสนับสนุนเจตนารมณ์ของ โคลิน เคเปอร์นิก อดีตควอเตอร์แบ็กของ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ซึ่งแสดงออกด้วยการคุกเข่าตอนเปิดเพลงชาติสหรัฐอเมริกา ก่อนการแข่งขัน NFL ฤดูกาล 2016 โดยสิ่งที่เคเปอร์นิกทำก็เพื่อเป็นการประท้วงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติต่อคนผิวดำ หรือชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายแอฟริกันอย่างไม่เป็นธรรม

โดยเฉพาะคดีที่ พอล โอนีล เด็กหนุ่มผิวดำวัย 18 ปี ถูกตำรวจวิสามัญทั้งที่อีกฝ่ายไม่มีอาวุธปืนหรือขัดขืน จนทำให้แคมเปญ Black Lives Matter ที่เป็นการรณรงค์เรียกร้องความยุติธรรมแก่คนผิวดำกลายเป็นแคมเปญขับเคลื่อนสังคมระดับโลก 

ทว่าสิ่งที่เคเปอร์นิกได้รับกลับมาคือการถูกต่อต้านจากผู้คนในวงการ NFL จนกลายเป็นผู้เล่นไร้สังกัด ไม่มีทีมใดเซ็นสัญญาด้วยจนถึงปัจจุบัน จนทำให้ริอานน่าตัดสินใจเลือกยืนเคียงข้างเขา และปฏิเสธข้อเสนอจาก NFL

ทว่ากาลเวลาผันผ่าน ริอานน่าตัดสินใจเลี้ยวรถยูเทิร์นกลับมารับข้อเสนอขึ้นเป็นศิลปินเฮดไลน์ของฮาล์ฟไทม์โชว์ ปี 2023 โดยเหตุผลสำคัญก็คือ เธออยากสร้างผลงานชิ้นพิเศษนี้ให้แก่ลูกชายตัวน้อยของเธอที่เพิ่งลืมตาดูโลกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 กับ ASAP Rocky แรปเปอร์ชายคนดังที่คบหากันอยู่ เพื่อให้ลูกชายได้รู้สึกภาคภูมิใจในสิ่งที่คุณแม่ทำ เมื่อถึงวันหนึ่งที่เขาเติบโตขึ้น

"ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสิ่งที่ฉันจะทำในปีนี้ (ฮาล์ฟไทม์โชว์) มันเปรียบเสมือนเครื่องหมายและเป็นสิ่งสำคัญต่อลูกชายของฉันที่เขาจะได้เห็นมันในอนาคต" นักร้องหญิงวัย 34 ปี เปิดใจในงานแถลงข่าว 

จะว่าไปแล้ว โชว์พักครึ่งฮาล์ฟไทม์โชว์ถือเป็นอีเวนต์ที่ริอานน่ายอมรับว่าเป็นเวทีที่เธอเคยอยากขึ้นเล่นสักครั้ง นับตั้งแต่ได้ดูโชว์พักครึ่งของ Prince ศิลปินเพลงป๊อปผู้ล่วงลับ ที่สุดแสนยอดเยี่ยมเมื่อปี 2007 อันเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ และก่อนจะถึงคิวของเธอ ริอานน่า ยังบอกว่าเธอได้เปิดดูโชว์ของ บียอนเซ่ เมื่อปี 2013 เพื่อเป็นการเตรียมตัวที่ดีด้วย

 

โชว์รวมฮิต และแขกรับเชิญสุดพิเศษ

และแล้วมาถึงวันดีเดย์ 12 กุมภาพันธ์ 2023 หลังจากที่ อีเกิลส์ ขึ้นนำ ชีฟส์ 24-14 แต้มในช่วงครึ่งแรก ก็ถึงเวลาที่ริอานน่าจะได้ปรากฏกายที่กลางสนามสเตด ฟาร์ม สเตเดียม ต่อหน้าผู้ชมที่ซื้อบัตรมาชมเกมในสนาม 67,827 คน

ริอานน่าปรากฏตัวบนเวทีลอยฟ้าที่ผูกสลิงไว้และยกขึ้นลงได้ เธอมาในชุดบอดี้สูทสีแดง พร้อมกับแดนเซอร์หลายชีวิตในคอสตูมสีขาว เธอใช้เวลา 13 นาทีตลอดโชว์อย่างคุ้มค่า ด้วยการเสิร์ฟเพลงฮิตที่เธอสร้างไว้ตลอดชีวิตศิลปินอย่าง Better Have My Money, Where Have You Been, Only Girl (In The World), We Found Love, Rude Boy, Work, Wild Thoughts, Birthday Cake, Pour It Up, All of the Lights, Run This Town และสองเพลงไม้ตายที่ขาดไม่ได้ Umbrella กับ Diamonds พร้อมแอบขายของด้วยการหยิบแป้งพับยี่ห้อ Fenty รุ่น Invisimatte Instant Setting + Blotting Powder มาซับหน้าเล็กน้อย เรียกรอยยิ้มจากคนดูที่ต่างคาดการณ์ไว้แล้วว่า "งานขาย Fenty ต้องมาแน่ ๆ"

ตลอดการแสดง 13 นาที จะเรียกว่าเป็น "คอนเสิร์ตรวมฮิต" ก็ว่าได้ เพราะริอานน่าขนเพลงฮิตมาเสิร์ฟให้แฟนเพลงทั่วโลกฟังแบบเต็มอิ่มเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย ซึ่งเธอให้สัมภาษณ์ว่าการทำเซ็ตลิสต์เพลงหนนี้เป็นงานที่ท้าทายที่สุด เพราะต้องคัดสรรเลือกเพลงที่คนรู้จักเป็นวงกว้างมาใส่ในโชว์ "การอัดผลงานที่ฉันทำมาตลอด 17 ปีให้อยู่ในโชว์เวลา 13 นาที สำหรับฉันมันเป็นสิ่งที่ยากเหลือเกิน"

โชว์นี้ริอานน่าไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องโปรดักชั่น ความอลังการ หรือพรีเซนเทชั่นยิ่งใหญ่เหมือนศิลปินคนอื่น ๆ ไม่มีแม้กระทั่งศิลปินรับเชิญมาสร้างสีสัน เพราะเธอต้องการเน้นความเป็นโชว์ที่เรียบง่าย โดยมีเธอเป็นจุดศูนย์กลางของโชว์ 

ขณะเดียวกัน เซอร์ไพรซ์ที่ไม่มีใครรู้ก็ได้ถูกเปิดเผย เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง ซึ่งเธอเรียกว่า "แขกรับเชิญสุดพิเศษบนเวที" สังเกตได้จากการที่เธอใช้มือลูบหน้าท้องบอกคนดูเป็นระยะ และทำให้เธอไม่สามารถขยับหรือโชว์ท่วงท่าต่าง ๆ เช่น โหนสลิงเหมือน เลดี้ กาก้า ในปี 2017 หรือโยกย้ายตัวเองไปกับฉากสุดอลังการเหมือน The Weeknd เมื่อปี 2021 ได้สะดวก ทำได้แค่ถือไมโครโฟนร้องเพลง เดินไปซ้ายขวาง่าย ๆ เท่านั้น

แม้โชว์จะไม่ตูมตามเท่าศิลปินคนอื่น แต่แฟนเพลงตัวจริงของริอานน่าที่ชมถ่ายทอดสดและบันทึกการแสดงย้อนหลังทาง YouTube ก็พอใจมากแล้วที่ได้เห็นศิลปินคนโปรดกลับมาสวมวิญญาณศิลปินที่รอคอยมานานถึง 7 ปี

 

สัญญาณถึงเพลงและอัลบั้มใหม่

การขึ้นเวทีซูเปอร์โบวล์หนนี้ของริอานน่า แม้จะไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นเม็ดเงินและมาเล่นฟรีเฉกเช่นศิลปินคนอื่น ๆ เนื่องจากทาง NFL ไม่มีนโยบายจ่ายค่าตอบแทนให้ศิลปินที่มาเล่นฮาล์ฟไทม์โชว์ (แต่ให้พื้นที่สื่อโปรโมตเพลงและให้งบประมาณในการทำโปรดักชั่นจัดเต็มแทน) แต่ดูจากกระแสบนโลกโซเชียลที่มีแต่คะแนนบวกและยอดวิวของโชว์ที่ทะลุ 3 ล้านวิวบน YouTube อย่างรวดเร็วเพียงแค่ 6 ชั่วโมงหลังคลิปถูกอัปโหลด ก็ทำให้แฟน ๆ ต่างคาดหวังว่าจะได้ฟังเพลงใหม่หรืออัลบั้มใหม่ของเธอในอนาคตอันใกล้

เรื่องนี้ริอานน่าตอบคำถามแฟนเพลงว่าจากนี้เธอจะมีซิงเกิลออกมาอีกแน่นอน ส่วนอัลบั้มเต็มชุดใหม่เธอยังไม่มองถึงตรงนั้น "ฉันไม่รู้เลย ฉันเพียงแค่อยากจะปล่อยเพลงออกมาแล้วสนุกกับมันแค่นั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องอัลบั้มก็คงต้องใช้เวลาสักหน่อย"

เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับงานศิลปะแขนงต่าง ๆ ที่ศิลปินมักใช้เวลาสร้างสรรค์งานของตัวเอง ภายใต้ระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป บางคนทำเมื่อมีไอเดียใหม่ บางคนทำเมื่อเกิดแพชชั่นอยากจะทำขึ้นมาจริง ๆ ดังนั้น เพลงใหม่ อัลบั้มใหม่ และทัวร์คอนเสิร์ตครั้งใหม่ของริอานน่าก็อาจต้องใช้เวลารอคอยกันสักหน่อย ยิ่งมองว่าเธอต้องทำธุรกิจของ Fenty ด้วยแล้วคงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แน่

แต่ที่แน่ ๆ หากริอานน่ากลับมาทำผลงานเพลงใหม่ อัลบั้มใหม่ และทัวร์ครั้งใหม่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ผลงานที่ออกมาย่อมคุ้มค่าแก่การรอคอยของแฟนเพลงอย่างแน่นอน

 

แหล่งอ้างอิง :

https://www.voanews.com/a/rihanna-performs-hits-at-super-bowl-with-a-very-special-guest/6960276.html
https://edition.cnn.com/2023/02/12/entertainment/rihanna-super-bowl-halftime-show/index.html
https://www.mirror.co.uk/sport/other-sports/american-sports/rihannas-controversial-super-bowl-sellout-29196928
https://www.investopedia.com/rihanna-net-worth-7108308
https://www.forbes.com/sites/maddieberg/2021/08/04/fentys-fortune-rihanna-is-now-officially-a-billionaire/?sh=36b58b107c96

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา