ข่าวใหญ่ในแวดวงลูกหนังอังกฤษรับช่วงต้นปี 2023 หนีไม่พ้นเรื่อง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกพรีเมียร์ลีกตั้งข้อหาละเมิดกฎทางการเงินมากถึง 115 กระทง จากการสืบสวนเป็นเวลาร่วม 4 ปี
นี่ถือเป็นการเผชิญคลื่นใหญ่ “ระลอกสอง” ของทัพเรือใบสีฟ้า ต่อจากการถูกสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ตั้งข้อหาไว้เมื่อปี 2020 และเมื่อกระแสนี้ถูกพูดถึงบนหน้าสื่อ สิ่งสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา เพราะนี่คือประเด็นที่แปลกใหม่มากครั้งหนึ่ง ในวงการลีกอาชีพอังกฤษ
ในระหว่างนี้อยู่ในช่วงการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบว่า แมนฯ ซิตี้ ทำผิดจริงก็ถึงขั้นเสี่ยงถูกหักแต้มไปจนถึงการถูกขับออกจากพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว
สถานการณ์ล่าสุดของ แมนฯ ซิตี้ มีความเหมือนหรือต่างกับช่วงก่อนหน้าที่โดนยูฟ่าแจ้งข้อหามากน้อยเพียงใด และทีมที่มีกลุ่มทุนจากอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเจ้าของ จะเผชิญเรื่องราวใดสืบเนื่องในช่วงต่อจากนี้ ติดตามไปพร้อม ๆ กันกับ Main Stand
ข้อมูลรั่วไหล เป็นเหตุถึงยูฟ่า
เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 มาร์ติน ซีกเลอร์ บรรณาธิการข่าวกีฬาของเดอะ ไทมส์ รายงานว่า พรีเมียร์ลีก โดยคณะกรรมการอิสระ ได้ตั้งข้อกล่าวหาสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่าได้ละเมิดกฎการเงิน จากการทุ่มงบประมาณ อัดฉีดเงินสู่การยกระดับทีมในระหว่างปี 2009-2018 คิดเป็นช่วงเวลาถึง 9 ปีเต็ม
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งเรื่องระอุขึ้นมาแบบทันควัน ก่อนหน้านี้ แมนฯ ซิตี้ เคยมีปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ แบบหนักหน่วงมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 ที่สโมสรถูกสหพันธ์ฟุตบอลแห่งยุโรป (ยูฟ่า) แจ้งข้อหาละเมิดกฎแฟร์เพลย์ทางการเงิน (Financial Fair Play - FFP)
กล่าวคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปละเมิดเรื่องการใช้เงินต่างจากข้อกำหนดที่ FFP ให้ความสำคัญในเรื่องของ “กำไร” ที่จะต้องใช้จ่ายให้อยู่ใต้เพดานผลกำไรในแต่ละปี ไม่อนุญาตให้นำเงินนอกระบบเข้ามาใช้จ่าย ไม่อนุญาตให้เจ้าของทีมนำเงินส่วนตัวมาใช้จ่าย ฯลฯ โดยใจความหลักคือรายรับกับรายจ่ายจะต้องสมดุลกัน
โดยหลักฐานที่ยูฟ่าได้รับมาเริ่มจากชุดข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอล ถูกแฮกเกอร์ชาวโปรตุกีสนาม รุย ปินโต้ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Football Leaks ค้นเจอ ก่อนจะนำมาเผยแพร่ต่อลงเว็บไซต์ของเขาเอง เมื่อปี 2015
เอกสารลูกหนังพร้อมข้อมูลเชิงลึก (แต่ไม่ลับ) ประกอบไปด้วยเนื้อหาจากหลายเรื่องราว เช่นการเปิดเผยข้อมูลเรื่องค่าตัวของ แกเร็ธ เบล ที่ย้ายจาก ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ไปยัง เรอัล มาดริด ว่าแท้จริงแล้วมันมีมูลค่าสูงเกิน 100 ล้านยูโร นับว่ามากกว่าสมัยที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โยกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปยังถิ่นราชันชุดขาวเสียอีก
กลับมาที่เคสของอีกหนึ่งสโมสรดังแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ที่เผ็ดร้อนไม่แพ้กัน คือสโมสรไปเกี่ยวโยงกับเรื่องการใช้จ่ายแบบไม่ชอบมาพากล ว่ากันว่าสื่อเจ้าแรก ๆ ที่หยิบกรณีนี้มาเผยแพร่ต่อมวลชนคือ แดร์ สปีเกล (Der Spiegel) สื่อสัญชาติเยอรมัน ในเดือนพฤศจิกายน 2018
สื่อดังจากเมืองเบียร์ได้รวบรวมข้อมูลจนแสดงให้เห็นว่าแมนฯ ซิตี้ พยายามใช้กลยุทธ์จ่ายเงินแบบ “เอาเงินจากกระเป๋าซ้ายมาจ่ายให้กระเป๋าขวา” ที่ลึก ๆ แล้ว ชีค มานซูร์ ในฐานะเจ้าของทีม ควักเงินตัวเองมาเป็นทุนให้ทีมแบบเต็มไม้เต็มมือ โดยกระทำผ่านสปอนเซอร์ “เจ้าอื่น” ที่มหาเศรษฐีจากยูเออีผู้นี้เป็นเจ้าของ
เรื่องราวดำเนินมาถึงปี 2019 เมื่อหน่วยควบคุมการเงินของยูฟ่า (CFCB) ตรวจสอบจนได้หลักฐานที่แน่นพอว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้ใช้เงินที่บวกลบแล้วตรงกับผลประกอบการแต่ละปีของสโมสรตามที่ FFP กำหนด กล่าวคือสโมสรมีเม็ดเงินในบัญชีผิดกฎกว่า 200 ล้านปอนด์ ในระหว่างปี 2012 ถึง 2016 ทั้งยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการสอบสวน
เมื่อพบว่าสโมสรแห่งนี้มีการตกแต่งบัญชีรายรับ ในฐานะองค์กรลูกหนังแห่งทวีปยุโรปจึงตั้งข้อกล่าวหาทันที
โดยโทษที่ทางแมนฯ ซิตี้ จะได้รับจากทางยูฟ่าคือ ห้ามแข่งแชมเปี้ยนส์ลีก 2 ฤดูกาล เริ่มในฤดูกาล 2020-21 พร้อมปรับเงินอีก 30 ล้านยูโร (26.8 ล้านปอนด์)
อย่างไรก็แล้วแต่ ทัพเรือใบสีฟ้ายืนยันถึงความบริสุทธิ์ในเรื่องนี้แบบไม่มีรีรอ ด้วยการยื่นเรื่องต่อไปให้ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา หรือศาลกีฬาโลก (CAS) เป็นผู้ตัดสินคดีความ
“คดีที่เริ่มต้นโดยยูฟ่า ดำเนินคดีโดยยูฟ่า และตัดสินโดยยูฟ่า เมื่อกระบวนการที่ไม่เป็นธรรมนี้เสร็จสิ้นแล้วสโมสรจะตามหาคำตัดสินที่เป็นธรรมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นอันดับแรกเราจะมีการอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลกให้เร็วที่สุด” เว็บไซต์ทางการของแมนฯ ซิตี้ ระบุ
นำมาสู่ผลการตัดสินของ CAS ที่คะแนนออกมาแบบไม่เอกฉันท์จากเสียง 2 ต่อ 1 ที่ยืนยันว่า แมนฯ ซิตี้ “ไม่มีความผิด” เนื่องจากมองว่าหลักฐานที่ชัดเจนไม่เพียงพอ และความผิดหลัก ๆ ของซิตี้ที่ปรากฏคือ ไม่ให้ความร่วมมือกับทางยูฟ่าในการตรวจสอบเท่าที่ควร
"สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้ทำการปลอมแปลงบัญชีใช้จ่ายของผู้สนับสนุน เพียงแต่พวกเขาล้มเหลวในการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของยูฟ่า การตัดสินของ CAS เน้นไปที่การละเมิดที่ถูกกล่าวหาโดยหน่วยควบคุมการเงินของยูฟ่า (CFCB) ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไข" ถ้อยแถลงบางส่วนจากคำตัดสินของศาลกีฬาโลก
“เนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการปกปิดบัญชีรายรับรายจ่ายที่ไม่โปร่งใสชัดเจนน้อยกว่าเรื่องการขัดขวางการสืบสวนของทาง CFCB มันจึงไม่เหมาะสมหากจะลงโทษแบนการเข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่าของ แมนฯ ซิตี้ เพียงเพราะเรื่องที่ล้มเหลวในการให้ความร่วมมือในการสืบสวนของ CFCB เพียงอย่างเดียว”
จากนั้นก็มีบทวิเคราะห์ผ่านการตั้งข้อสังเกตว่าที่หลักฐานไม่เพียงพอเป็นเพราะนี่คือข้อมูลในลักษณะของการแฮกหรือขโมยออกมา
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ รุย ปินโต้ นำข้อมูลลงเว็บไซต์ที่เขาตั้งขึ้น ไม่นานก็ถูกองค์กรตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือตำรวจสากล ควบคุมตัวทันที
อีกประการหนึ่งมาจากฝั่งทีมเรือใบสีฟ้าก็งัดหลักฐานมาโต้แย้งว่า ที่จริงแล้วยูฟ่ามีการออกกฎลงโทษทีมที่ทำผิดกฎการเงินภายในกรอบระยะเวลา 5 ปี แต่สำหรับ แมนฯ ซิตี้ แล้วช่วงเวลา 5 ปีนี้คือในระหว่างปี 2015-2019 สโมสรมีรายได้หลักมาจากสปอนเซอร์แล้ว หาใช่แบบที่กล่าวหาไม่
เรื่องนี้จึงทำให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่มีความผิดและได้ลงแข่งยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกต่อ โทษที่ได้รับก็มีแค่โดนปรับเงินหลัก 10 ล้านยูโร (8.8 ล้านปอนด์) เพราะไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบของยูฟ่ามากพอเท่านั้น
พรีเมียร์ลีกจ้องจะเล่นงานคุณ
ดูเหมือนว่าเรื่องราวคดีความเกี่ยวกับการเงินของ แมนฯ ซิตี้ จะจบลงตรงนี้ ทว่ากลับมีหน่วยงานลูกหนังที่เลือกทำการตรวจสอบต่อ คราวนี้เป็นหน่วยงานที่ใกล้ตัวสโมสรมากที่สุด นั่นก็คือ “พรีเมียร์ลีก”
เมื่อพ้นข้อกล่าวหาจากยูฟ่า คราวนี้พรีเมียร์ลีกตัดสินใจตั้งคณะกรรมการอิสระ หรือ The Independent Commission ออกมาแบบเป็นความลับและไม่เคยมีการเผยแพร่ผ่านสื่อจนกระทั่งวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 โดยคณะกรรมการอิสระชุดนี้ใช้เวลาถึง 4 ปีเต็ม ในระหว่างปี 2018-2022 เพื่อเสาะแสวงหาข้อมูลจนตั้งข้อกล่าวหาได้
หลังการรวบรวมข้อมูลจนได้หลักฐานที่เพียงพอต่อการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวสู่สาธารณชน ที่สุดแล้วพรีเมียร์ลีกได้ข้อมูลที่บ่งชี้ความผิดทางการเงินที่ แมนฯ ซิตี้ ได้ทำไว้ในระหว่างฤดูกาล 2009-2010 ไปจนถึงฤดูกาล 2017-18
ข้อสังเกตประการหนึ่ง จะเห็นว่าในช่วงฤดูกาลแรกคาบเกี่ยวกับปี 2009 ที่ถือเป็นปีแรกที่ยูฟ่ากำหนดกฎแฟร์เพลย์ทางการเงินขึ้นมาพอดี
แมนฯ ซิตี้ ถูกพรีเมียร์ลีกตั้งข้อกล่าวหาว่าละเมิดกฎเรื่องผลกำไรและความยั่งยืนในฤดูกาล 2015-16, 2016-17 และ 2017-18 รวมถึงการไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของยูฟ่าเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตสโมสร (คลับ ไลเซนซิ่ง) รวมถึงเคส FFP ในระหว่างฤดูกาล 2013-14, 2014-15 และ 2017-18
โดยรวมแล้ว คณะกรรมการอิสระชุดนี้ชี้ความผิดของทีมสีฟ้าจากเมืองแมนเชสเตอร์ถึง 115 ข้อหา นอกจากข้อกล่าวหาในย่อหน้าก่อนหน้าแล้วยังมีเรื่องรายได้ส่วนใหญ่ที่เป็นการใส่รายได้เกินจริงไว้ในบัญชีรายรับรายจ่าย ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับที่ยูฟ่าเคยตั้งข้อหา
ไปจนถึงการปกปิดรายละเอียดเรื่องค่าสัญญาและสวัสดิการต่าง ๆ ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่เคยคุมทีมในช่วงปี 2009-2013 ด้วย
เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ได้ต่างไปจากที่ รุย ปินโต้ เป็นคนเสาะหา รวมถึง แดร์ สปีเกล เคยรายงาน
มากไปกว่านั้นยังสามารถหยิบยกข้อกล่าวหาได้มากกว่าที่ยูฟ่าเคยตั้งข้อหาไว้เมื่อปี 2020 นั่นเพราะพรีเมียร์ลีกไม่มีกรอบกำหนดบทลงโทษทีมทำผิดทางการเงิน ต่างกับยูฟ่าที่มีกำหนดไว้ 5 ปี
ทำให้พรีเมียร์ลีกสามารถตรวจสอบเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของ แมนฯ ซิตี้ แบบย้อนหลังได้
ความแตกต่างอีกประการหนึ่งของการตรวจสอบจากพรีเมียร์ลีกและยูฟ่าคือการถูกตั้งข้อกล่าวหาคราวนี้ ทีมเรือใบสีฟ้าไม่สามารถยื่นเรื่องไปยังศาลกีฬาโลกได้
เรื่องนี้ มาร์ติน ซีกเลอร์ คนแรก ๆ ที่นำเสนอเรื่องราวนี้ บอกว่าตามกฎพรีเมียร์ลีกแล้วจะไม่อนุญาตให้สโมสรสมาชิกนำเรื่องไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก
ทำให้ด่านแรกในการโต้แย้งของสโมสรคือต้องยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมพิจารณาไต่สวนอิสระที่พรีเมียร์ลีกแต่งตั้งกันขึ้นมา นำโดย เมอร์เรย์ โรเซน หัวหน้าทีมทนายความสืบสวน ที่มีสื่อไปค้นว่าเป็นแฟนบอลอาร์เซนอล
และนั่นก็ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องทำงานหนักทั้งในสนามที่อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ไปจนถึงคดีความนอกสนามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ
“สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รู้สึกประหลาดใจกับการออกข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดกฎของพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางและเนื้อหารายละเอียดจำนวนมหาศาลที่พรีเมียร์ลีกได้จัดเตรียมไว้ให้” แถลงการณ์จากเว็บไซต์ทางการ แมนฯ ซิตี้ ระบุหลังถูกตั้งข้อหาเมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023
“สโมสรยินดีเข้ารับการพิจารณาเรื่องนี้โดยคณะกรรมการอิสระ เพื่อการพิจารณาอย่างเป็นกลางเกี่ยวกับหลักฐานที่ครอบคลุมที่ไม่สามารถหักล้างได้กับการมีอยู่เพื่อสนับสนุนจุดยืนของสโมสร ดังนั้นพวกเราจึงตั้งตารอที่จะทำให้เรื่องนี้ได้บทสรุปโดยเร็วที่สุด”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการต่อสู้เพื่อหักล้างข้อกล่าวหาของ แมนฯ ซิตี้ จะทวีความเข้มข้นในช่วงเวลาต่อจากนี้ เรียกได้ว่าถ้ามีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าพวกเขาไม่ผิดก็ต้องงัดออกมาทุกกระบวนท่า
เพราะผลที่จะตามมาหากสโมสรกระทำผิดเรื่องการฝ่าฝืนและละเมิดงบการเงินจริง ตามกฎของพรีเมียร์ลีกแล้ว สโมสรนั้น ๆ มีโอกาสต้องโทษทั้งการปรับเงิน ถูกตัดแต้ม โดนปรับตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก รวมไปถึงการริบแชมป์
หนึ่งในนั้นคือการจ้างทนายฝีมือดี ลอร์ด เดวิด แพนนิค ผู้มีประสบการณ์กว่า 25 ปี และเคยว่าความให้สโมสรชนะคดียูฟ่ามาแล้ว อีกทั้งยังมีข่าวว่าค่าจ้างต่อสัปดาห์ของทนายความวัย 66 ปีรายนี้ที่มีมูลค่าเทียบเท่า เควิน เดอ บรอยน์ เลยทีเดียว
อย่างไรเสีย กระบวนการของเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของอนาคตที่จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน สิ่งที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องผนึกกำลังในช่วงเวลานี้มากที่สุดคือการยกระดับสภาพจิตใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะกับทั้งนักเตะเพื่อผลการแข่งขันที่ดีในสนาม หรือแม้แต่แฟนบอลของสโมสรที่คอยสนับสนุนทีมเรื่อยมา
หนึ่งในคนที่ดึงสปิริตของทีมในเวลานี้กลับมาได้ดีที่สุดก็หนีไม่พ้นผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของสโมสรอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ดังบทสัมภาษณ์ครั้งแรกต่อหน้าสื่อมวลชนหลังสโมสรถูกตั้งข้อกล่าวหา
กุนซือสแปนิชกล่าวถึงความเชื่อใจที่มีต่อสโมสร และยืนกรานว่าจะอยู่คุมทีมต่อไป
“สิ่งแรกที่ผมคิดคือเราถูกประณามไปแล้ว ทุกคนตัดสินว่าแมนฯ ซิตี้ ผิด” กวาร์ดิโอลา เผย
“ตอนนี้ผมต้องการที่จะอยู่ที่นี่มากกว่าเดิม ผมเชื่อใจคนของผม บางครั้งผมก็สงสัย แต่ผมไม่เคยมั่นใจที่จะอยู่ที่นี่มากเท่านี้มาก่อน ผมจะไม่ลุกไปจากตำแหน่งนี้ ผมรับรองกับคุณได้เลย ผมอยากที่จะอยู่ต่อมากกว่าที่เคยด้วยซ้ำ”
“ผมมั่นใจว่าพวกเขาไม่ได้โกหกผม คุณดูสิ่งที่เกิดขึ้นตอนเกิดเรื่องกับยูฟ่าสิ เราไม่ได้ทำอะไรผิดทั้งนั้น ตอนนี้มันก็เป็นกรณีเดียวกันเลย แล้วทำไมผมถึงไม่ควรไว้ใจคนของผมล่ะ”
แหล่งอ้างอิง
https://twitter.com/martynziegler/status/1622539544078827520?s=20&t=PFDDmqvb3WPsBloNJPmfxA
https://www.mancity.com/news/club-news/club-news/2020/february/manchester-city-club-statement
https://www.mancity.com/news/club/club-statement-premier-league-63811282
https://www.facebook.com/jingjungfootball/photos/a.1763433500538559/3266858130196081
https://www.goal.com/th/%E0%B8%82%%A5%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B/fe4nv1adprc51krzsccymvcff
https://www.goal.com/en/news/live/manchester-city-transfer-news-and-rumours-today/bltfc968957f7c55a61
https://theathletic.com/4164077/2023/02/08/lawyer-on-what-other-clubs-could-do-about-manchester-city-allegations/
https://theathletic.com/4160806/2023/02/07/manchester-city-charges-premier-league/
https://www.telegraph.co.uk/football/2023/02/06/manchester-city-charged-premier-league-breaches-ffp-rules/
https://www.theguardian.com/football/2020/jul/28/uefa-claim-against-manchester-city-over-sponsor-money-time-barred-cas-rules