Feature

แม็ค อัลลิสเตอร์ : ตระกูลที่มีพ่อเป็นเพื่อนร่วมทีมมาราโดน่า ส่วนลูกลงเล่นกับเมสซี่ในฟุตบอลโลก | Main Stand

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นนักฟุตบอลทั้งรุ่นพ่อและรุ่นลูกได้ลงสนามเคียงข้างนักฟุตบอลระดับตำนานของประเทศหนึ่ง ทว่ามีครอบครัวหนึ่งในประเทศอาร์เจนตินาที่หลงใหลในเกมลูกหนังจนก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพแบบรุ่นต่อรุ่น และได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์นี้

 


“แม็ค อัลลิสเตอร์” คือครอบครัวที่ได้สัมผัสความรู้สึกและโอกาสลงสนามในทีมชุดเดียวกับสองสตาร์ผู้โด่งดังที่สุดของอาร์เจนตินา นั่นคือ “ดิเอโก้ มาราโดน่า” และ “ลิโอเนล เมสซี่” โดยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

คาร์ลอส แม็ค อัลลิสเตอร์คนพ่อ เคยเป็นเพื่อนร่วมสโมสรเดียวกับตำนานผู้ล่วงลับฉายา “เสือเตี้ย” ส่วน อเล็กซิส ลูกชาย ได้ลงเล่นเคียงข้าง ลิโอเนล เมสซี่ ในฟุตบอลโลก 2022 และกำลังจะได้เข้าไปลุยนัดชิงชนะเลิศด้วยกัน

Main Stand ขอชวนมาติดตามเรื่องราวซึ่งเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจของตระกูลแม็ค อัลลิสเตอร์ จากต้นตระกูลคนไอริชอพยพ สู่โอกาสลงสนามเคียงข้างสองไอคอนลูกหนังแดนฟ้าขาว

 

แม็ค อัลลิสเตอร์ ในดินแดนฟ้าขาว

ว่ากันว่ากลุ่มคนไอริช หรือกลุ่มชนที่ปัจจุบันคือประชากรหลักในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เคยถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์เรื่องการอพยพย้ายถิ่นฐานมากที่สุดชนชาติหนึ่งของโลก โดยปรากฏขึ้นตั้งแต่ช่วงยุคกลางของทวีปยุโรปไปจนถึงช่วงที่ได้รับการจดบันทึกในศตวรรษที่ 17

สาเหตุของการย้ายถิ่นฐานประกอบไปด้วยการถูกรุกรานจากอังกฤษ ดินแดนบ้านใกล้เรือนเคียง ภาวะเศรษฐกิจ ประชากรเผชิญเรื่องข้าวยากหมากแพง ไปจนถึงลัทธิล่าอาณานิคม เป็นเหตุให้ชนชาวไอริชอพยพเดินทางกระจายไปทั่วทุกมุมโลก

อาร์เจนตินา เป็นหนึ่งในประเทศที่คนไอริชข้ามน้ำข้ามมหาสมุทรมาตั้งรกราก ว่ากันว่าในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ดินแดนแห่งนี้มีคนเชื้อสายไอริชกว่า 38,000 ที่คนอพยพมาสร้างชีวิตใหม่ ปัจจุบันมีคนเชื้อสายดังกล่าวเป็นพลเมืองของประเทศเกิน 1 ล้านคน 

อีกหนึ่งตัวเลขที่น่าสนใจและสื่อให้ถึงความเป็นปึกแผ่นของชุมชนคนไอริชพลัดถิ่นมาจากข้อมูลของ IrishCentral สื่อในไอร์แลนด์ ที่ระบุว่าประเทศที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของอเมริกาใต้แห่งนี้มีคนเชื้อสายไอริชอาศัยอยู่มากเป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นกลุ่มชนเชื้อสายจากเกาะไอร์แลนด์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ

สำหรับตระกูลแม็ค อัลลิสเตอร์ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่นามสกุลที่มีรากศัพท์ความเป็นอาเจนไตน์แต่อย่างใด โดยคำว่า แม็ค หรือ Mc นั้น เป็นคำนำหน้านามสกุลที่ให้ความหมายว่า “บุตรของ (son of)” ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในนามสกุลเก่าแก่ของคนไอริช

“ครอบครัวของเรามาจากไอร์แลนด์” คาร์ลอส พ่อของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เผย “เรามาที่อาร์เจนตินา มาอยู่ที่เปอร์กามิโน (Pergamino เมืองในบัวโนสไอเรส) เราย้ายมาสามหรือสี่ชั่วอายุคนแล้วครับ ต่อมาพ่อและแม่ของผมก็แต่งงานกันและย้ายไปอยู่ที่อื่น นั่นคือซานตาโรซา (Santa Rosa) ในจังหวัดลาปัมปา (La Pampa) ซึ่งเป็นที่ที่อเล็กซิสเกิด”

“นามสกุล แม็ค อัลลิสเตอร์ มาจากไอร์แลนด์ครับ” อเล็กซิส ยืนยันอีกเสียงผ่าน olympics.com

"ตระกูลแม็ค อัลลิสเตอร์ อยู่ในบริเวณนี้ (โดนาเบต - Donabate เป็นเมืองชายฝั่งห่างจากกรุงดับลินไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ) มาตั้งแต่ปี 1690" โนเอล แม็ค อัลลิสเตอร์ ลูกพี่ลูกน้องของอเล็กซิส กล่าวกับ RTÉ " บรรพบุรุษที่ชื่อโจเซฟเป็นคนแรกที่ไปอาร์เจนตินาในปี 1865 พวกเขาตั้งรกรากที่เปอร์กามิโน เพราะชาวไอริชมักจะเกาะกลุ่มกันที่นั่น”

การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมถือเป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องปรับตัวโดยเฉพาะกับคนที่ย้ายสำมะโนครัวมายังถิ่นฐานใหม่แบบถาวร และในอดีตประเด็นนี้เป็นอุปสรรคต่อคนไอร์แลนด์อพยพมายังอาร์เจนตินาอยู่เช่นกัน

หนึ่งในวิธีที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างในการสื่อสารลักษณะนี้ได้มาจากความโด่งดังของสกุลแม็ค อัลลิสเตอร์ โดยเฉพาะในช่วงที่อเล็กซิสติดธง “ฟ้าขาว” ชุดใหญ่ นั่นหมายความว่ามวลชนคนอาร์เจนไตน์เริ่มรับรู้ว่ามีนักเตะเชื้อสายไอริชก้าวขึ้นมาติดทีมชาติอาร์เจนตินา

เมื่อเป็นที่รับรู้ในคนหมู่มากแล้ว บวกกับการที่สื่อนำเสนอเรื่องราวนี้อยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในยุคออนไลน์ที่ส่งสารรับสารหากันได้ตลอดเวลา ก็ย่อมส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะของคนในตระกูลแม็ค อัลลิสเตอร์ ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน ดังบทสัมภาษณ์ของ ดิคกี้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ผู้เป็นญาติ

“ก่อนที่โคโล (เป็นคำภาษาอาร์เจนตินาไว้เรียกคนที่มีผมสีแดง ซึ่งบางครั้งอเล็กซิสถูกเรียกด้วยชื่อนี้) แม็ค อัลลิสเตอร์ จะปรากฏตัวในเกมทีมชาติในนามทีมอาร์เจนตินา ผมจำได้ว่าชื่อของผมนั้นเรียกยากมาก” ดิคกี้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ให้สัมภาษณ์กับ RTE "ถ้าผมไปธนาคารหรือโรงเรียน ผมจะต้องสะกดชื่อตัวเองทุกคำ” 

“แต่หลังจากชื่อโคโล แม็ค อัลลิสเตอร์ เริ่มเป็นที่รู้จักขึ้นมา ชื่อของผมก็เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศเช่นกัน จากนั้นผมก็ไม่เคยมีปัญหากับเรื่องนามสกุลอีกเลย"

 

เมื่อพ่อลงสนามเคียงข้างมาราโดน่า

กว่าจะมาเป็นอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ในทุกวันนี้ ต้องย้อนไปติดตามเรื่องราวของคุณพ่อคาร์ลอส แมค อัลลิสเตอร์ ด้วย เพราะจุดเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังของดาวเตะวัย 23 ปีรายนี้เริ่มมาจากการมีคุณพ่อที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพคอยถ่ายทอดวิชาให้ แถมยังเคยลงเล่นให้กับทีมชั้นนำของประเทศอย่าง “โบคา จูเนียร์ส” 

คาร์ลอส เคยเป็นนักเตะที่เล่นตำแหน่งแบ็กซ้าย เขาเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรอาร์เจนติโนส จูเนียร์ ในปี 1986 ก่อนที่ในปี 1992 จะได้ขยับขยายไปเล่นให้ทีมดังอย่างโบคา จูเนียร์ส โดยอยู่เล่นให้ทีมเป็นเวลาถึง 4 ปีด้วยกัน

การลงเล่นให้โบคานี่เองที่ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสได้ร่วมงานกับซูเปอร์สตาร์ดังของประเทศในเวลานั้นอย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า โดยในปี 1995 “เสือเตี้ย” กลับมาค้าแข้งในถิ่น ลา บอมโบเนรา เป็นคำรบสอง และเป็นช่วงเวลาท้าย ๆ อาชีพค้าแข้งของเขา 

นอกจากจะเป็นเพื่อนร่วมสโมสรเดียวกันแล้ว ทั้งคาร์ลอสและดิเอโก้ยังเคยร่วมงานกันช่วงสั้น ๆ ในนามทีมชาติอาร์เจนตินา การร่วมงานกันของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อปี 1993 

คาร์ลอส แม็ค อัลลิสเตอร์ เพิ่งคว้าแชมป์ Copa de Oro หนึ่งในโทรฟี่แข่งขันของสโมสรระดับทวีปอเมริกาใต้มาหมาด ๆ แถมยังเป็นคนทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะ แอตเลติโก มิเนโร ทีมจากบราซิลในนัดตัดสินแชมป์ 1-0 ในเวลานั้นเขาเป็นหนึ่งในสุดยอดแบ็กซ้ายของลีก จนได้โอกาสติดทีมชาติชุดคัดเลือกฟุตบอลโลก 1994

ขณะที่มาราโดน่าอยู่ในช่วงหลังพ้นโทษแบน 15 เดือนจากการดื่มสุราและใช้สารเสพติดมาได้ไม่นาน แน่นอนว่าจากชื่อเสียงและทักษะลูกหนังที่โดดเด่นอยู่เสมอ การได้เป็นขาประจำในทีมชาติ ณ เวลานั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

ทั้งคาร์ลอสและมาราโดน่าลงสนามร่วมกันในเกมเพลย์ออฟคัดเลือกไปฟุตบอลโลก 1994 เวลานั้นอาร์เจนตินาเผชิญหน้ากับ ออสเตรเลีย ในเกมรอบอินเตอร์โซน ก่อนที่ผลการแข่งขันจะเป็นทีมฟ้าขาวเอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 2-1 ต่อด้วยการลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องที่ชนะ เยอรมนี 2-1

อย่างไรเสียโอกาสร่วมงานในเกมทีมชาติชุดใหญ่ต้องมาหยุดลงเท่านี้ ทั้งคู่กลับไม่ได้ร่วมงานกันต่อ โดยในรายของคาร์ลอส ไม่ได้ถูกเรียกติดทีมไปรอบสุดท้ายที่สหรัฐอเมริกา ส่วนมาราโดน่าลงเล่นไป 2 เกมก่อนจะโดนขับออกจากการแข่งขัน เนื่องจากไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้น 

และนั่นคือภาพสุดท้ายของทั้งสองในเกมทีมชาติ

“กับเกมเหล่านั้น การเพลย์ออฟกับออสเตรเลียถือเป็นประวัติศาสตร์เลย มันมีความประหม่ามากมายเกิดขึ้นในประเทศและในทีม อาร์เจนตินา เพิ่งจะแพ้ โคลอมเบีย มา 5-0 (ในรอบแบ่งกลุ่ม คัดบอลโลกโซนอเมริกาใต้)” คาร์ลอส แม็ค อัลลิสเตอร์ เผยผ่าน The Guardian “แน่นอนว่าผมอยากไปฟุตบอลโลกนะ แต่ผมก็พอใจแล้วที่ได้ช่วยอาร์เจนตินาให้ไปถึงที่นั่น” 

 

ลูกชายลุยฟุตบอลโลก 2022 ร่วมกับเมสซี่

“เป็นเรื่องดีที่ผมได้ลงเล่นร่วมกับเมสซี่ และพ่อก็ได้เล่นร่วมกับมาราโดน่า” อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กล่าวผ่าน talkSPORT

ด้วยการที่คาร์ลอส แมค อัลลิสเตอร์ มีลูกชายที่เล่นฟุตบอลในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 3 คน แถมยังผ่านสังเวียนลีกสูงสุดของประเทศมาทั้งหมด ทำให้โอกาสร่วมงานกับไอคอนลูกหนังของประเทศไม่ได้จบลงที่ยุคของเขา

และคนที่คว้าโอกาสนี้ได้ก็คือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ลูกชายคนที่สาม เมื่อกองกลางรายนี้มีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ และได้ร่วมงานกับสตาร์ระดับแถวหน้าของประเทศอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ครั้งแรกเมื่อต้นปี 2022 ในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกไปลุยกาตาร์

แม้จะมีช่วงที่ติดโควิด-19 และบาดเจ็บขณะถูกเรียกตัวติดทีมชาติไปบ้าง แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาร่วมกับต้นสังกัดในปัจจุบันอย่างไบรท์ตัน เขาลงสนามในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 ก่อนลุยฟุตบอลโลกไปแล้ว 14 นัด และทำไปถึง 5 ประตู พาทีมฉายา “เดอะ ซีกัลส์” รั้งอันดับ 7 อยู่ในเวลานี้

นั่นทำให้ ลิโอเนล สกาโลนี่ กุนซือทัพฟ้าขาวชุดใหญ่ เรียกตัว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ติดทีมชาติเป็นขาประจำคนหนึ่งในปีนี้ และไม่รีรอที่จะดึงตัวมาร่วมโม่แข้งในเวิลด์คัพ 2022 ที่ว่ากันว่าเป็นเวทีฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของเมสซี่

"มันน่าทึ่งมากเลย ตอนแรกผมรู้สึกแปลก ๆ เพราะผมขี้อาย แต่เขา (เมสซี่) ก็เป็นคนที่ดีมาก ๆ ถึงจะดูเงียบ ๆ แต่ผมก็สนุกที่ได้แชร์ห้องแต่งตัวกับเขาและผู้เล่นทีมชาติทุกคน" อเล็กซิส เผยความรู้สึกเมื่อได้ร่วมงานกับเมสซี่

การติดธงอาร์เจนไตน์ในกาตาร์ 2022 ของอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ไม่ได้มาแค่นั่งเป็นตัวสำรองแต่อย่างใด เขาพลาดลงเล่นไปแค่ในเกมนัดเปิดสนามที่ อาร์เจนตินา แพ้ต่อ ซาอุดีอาระเบีย 2-1 เท่านั้น 

ส่วนที่เหลือดาวเตะหมายเลข 20 มีชื่อลงเล่นทุกเกม นั่นทำให้เขาได้ลงผนึกกำลังกับกัปตันเบอร์ 10 รายนี้อย่างสม่ำเสมอ ในบทบาทแข้งตัวเชื่อมเกมระหว่างแผงมิดฟิลด์กับแนวรุก

นอกจากนี้อเล็กซิสยังจารึกฉากสำคัญร่วมกับทีมชาติชุดใหญ่ได้ครั้งหนึ่ง เมื่อเขาเป็นคนทำประตูให้ อาร์เจนตินา ขึ้นนำ โปแลนด์ 1-0 ในเกมส่งท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C ก่อนที่ทีมจะชนะ 2-0 พร้อมเข้าป้ายด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม

จากนั้นพลพรรคอาร์เจนไตน์ก็เดินหน้าเข้ารอบลึก ๆ ของเกมน็อกเอาต์ เริ่มจากหักด่าน ออสเตรเลีย 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ตามมาด้วยเกมรอบก่อนรองชนะเลิศปราบ เนเธอร์แลนด์ส จากการดวลจุดโทษชนะ 4-3 (หลังเสมอในเวลา 120 นาที 2-2) มาจนถึงการอัด โครเอเชีย 3-0 ในรอบรองชนะเลิศ กรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

ถึงตอนนี้อเล็กซิสไม่ได้สร้างความภาคภูมิใจให้ตระกูลแม็ค อัลลิสเตอร์ ที่สร้างเกียรติประวัติพ่อลูกลงสนามเคียงข้างตำนานอาร์เจนไตน์เท่านั้นแล้ว 

เพราะเขามีลุ้นไปได้ไกลกว่านั้น กับการเป็นตัวแทนทีมชาติลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ต่อจากปี 1978 และ 1986 

“แน่นอน พวกเราเชื่อว่าพวกเราทำได้” อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เผยโอกาสคว้าแชมป์โลกกับอาร์เจนตินา “แต่ในขณะเดียวกัน เรารู้ว่ามันจะยากครับ เพราะมีทีมชาติเก่ง ๆ อยู่มากมาย” 

“เราจะสู้เพื่อสิ่งนี้”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์" สุดปลื้มได้เตะบอลโลกร่วมกับ "เมสซี" ตามรอยคุณพ่อที่เคยได้เตะบอลกับ "มาราโดนา"

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.theguardian.com/football/2022/dec/12/the-mac-allister-family-friends-with-maradona-to-a-world-cup-with-messi?fbclid=IwAR2ImjipeSmydGMLaGK43XPKNYy4p7BkoOa3TfIZzAWecLHkYI8JL4uEq_4&mibextid=Zxz2cZ 
https://www.thesun.co.uk/sport/20729914/world-cup-argentina-alexis-mac-allister-football-family/
https://thesporting.blog/blog/the-macallisters-from-fife-to-buenos-aires 
https://www.irishcentral.com/roots/alexis-mac-allister-irish 
https://talksport.com/football/1245554/alexis-mac-allister-dad-lionel-messi-argentina-world-cup-goal-brighton/ 
https://www.facebook.com/z.books.rca/posts/1196847250664408:0 
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/posts/3569245383152145/ 
https://www.irishmirror.ie/sport/soccer/alexis-mac-allister-irish-heritage-28647168 
https://en.wikipedia.org/wiki/Carlos_Mac_Allister 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ