Feature

เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกฟุตบอล  : GPS สร้างความต่างในการแข่งขันอย่างไร ? | Ball Thai Stand

 

หลายๆคนคงอาจจะคิดว่า เรื่องของเทคโนโลยี กับฟุตบอล นั้น มันจะเข้ามาประสาน และเดินหน้าไปได้ด้วยกันได้อย่างไร แต่ทุกวันนี้หากใครที่ได้ดูฟุตบอล ได้ติดตามการแข่งขัน ทั้งในลีกต่างๆ รวมไปถึงฟุตบอลโลก ที่กำลังไล่บี้กันอย่างสุดระทึกในตอนนี้ จะเห็นว่า เรื่องของเทคโนโลยี นั้นเข้ามามีบทบาท เป็นอย่างมาก


 
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแข่งขันขัน การตัดสิน หรือพัฒนา ดึงศักยภาพของนักกีฬา ให้เค้นออกมาใช้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนหนึ่งเพราะมีเรื่องของเทคโนโลยี ที่ล้ำหน้าไปจนแทบตามไม่ทัน เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของกีฬาฟุตบอลให้ก้าวไปอีกขั้น โดยมันสามารถติดตามและวิเคราะห์ความพร้อมและคุณภาพของนักเตะรายบุคคลได้เลยทีเดียว
 
เรื่องของเทคโนโลยี ในโลกของฟุตบอลนั้นมีมากมายเหลือเกิน แค่ในสนามที่เราเห็นๆเมื่อเสื้อกั๊ก ไม่ได้เป็นเพียงแค่เสื้อกั๊กอีกต่อไป แต่มันกลับเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ช่วยดึงเอาความเก่งกาจของนักกีฬาออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
 

มากกว่าเสื้อกั๊กมันคือเครื่องมือวิเคราะห์

สำหรับคอบอลไทยในบ้านเรา เคยตั้งข้อสงสัยหรือสังเกตุกันหรือไม่ บางครั้ง ที่เวลานักเตะทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด หรือ บุรีรัมย์  ยูไนเต็ด เวลาที่ทำประตูได้ แล้ววิ่งดีใจ พอถอดหรือเปิดเสื้อแข่งออกแล้ว จะเห็นเป็นเสื้อกล้ามเล็กๆตัวจิ๋วสีดำ ที่นักกีฬาใส่อยู่ คิดกันมั้ยว่าเสื้อนั่นคืออะไร หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเสื้อรัดกล้ามเนื้อ 


 
แต่รู้มั้ยว่านั่นคือหนึ่งในเทคโนโลยี ที่วิเคราะห์และเก็บสถิติในรายบุคคล  อุปกรณ์ตัวนี้เรียกว่า  Tracking Device จะคล้ายๆเสื้อกั๊กขนาดเล็กจะมี GPS ที่จะคอยติดตามช่วยวิเคราะห์ และจับความเคลื่อนไหวร่างกายของนักเตะ พร้อมกับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ  ซึ่งจะช่วยให้ โค้ชฟิตเนส และนักวิทยาศาสตร์การกีฬาของทีม นั้นนำมาวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้มีผลต่อประสิทธิภาพการในการแข่งขันกีฬาเป็นอย่างมาก

เอาง่ายๆ แบบที่คนทั่วไปเข้าใจ มันแสดงผลการเต้นของหัวใจ กระทั่งสามารถวิเคราะห์ว่านักกีฬาคนนี้ เหนื่อยหรือล้าเกินไปหรือไม่ สามารถที่จะเล่นต่อไปได้ม้ย วันนี้วิ่งได้ 7 กิโลเมตร พรุ่งนี้ต้องเสริมตรงไหนถึงจะวิ่งได้ไกลขึ้น เครื่องนี้มันอัจฉริยะถึงขนาดนั้น

จริงๆแล้วนวัตกรรมตัวนี้ มีการใช้มานานในกีฬาประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกันฟุตบอล บาสเกตบอล  และกีฬาอื่นๆมานาน  ที่มีการใช้เทคโนโลยี นี้ในการเก็บข้อมูลและเก็บสถิตินักกีฬาตั้งแต่ปี 2015 และเริ่มมีการทดลองใช้ในฟุตบอลโลกหญิง ที่ แคนาดา ในปีเดียวกัน แต่ยังไม่แพร่หลายนัก

ก่อนที่จะเริ่มเข้ามาในโลกของฟุตบอลเต็มตัว ในช่วงฟุตบอลโลก 2018 ทางฟีฟ่า ได้อนุญาตให้มีการใช้ระบบนี้ ระบบการแสดงและการติดตามทางอิเล็กทรอนิกส์ในการแข่งขัน ตอนนี้นักวิเคราะห์ของทีมส่งข้อมูลและสื่อสารกับโค้ชในระหว่างการแข่งขันเองเพียงแค่ 3 เดือนก่อนที่ฟุตบอลโลกที่รัสเซียจะเริ่มต้นเท่านั้น

ด้วยอุปกรณ์เครื่องมือที่ว่านี้เป็นเสื้อกั๊กสีดำขนาดเล็ก สวมใส่ภายใต้เสื้อปกติมีอุปกรณ์ติดตามที่เสียบเข้าไปในกระเป๋าระหว่างสะบักไหล่ที่มีเซ็นเซอร์มากมาย  และยังมีช่องสำหรับใส่เครื่อง GPS ที่นักกีฬาจะต้องสวมใส่ลงสนาม

ดังนั้นหากทีมใดที่จะมีการสวมใส่อุปกรณ์ตัวนี้จะต้องมีการแจ้งเจ้าหน้าที่คุมคุมการแข่งขัน และผู้ตัดสินก่อนที่จะมีการแข่งขันทุกครั้ง เพื่อทำการรวจสอบคุณภาพ ก่อนอนุญาตให้ใช้งานในระหว่างการแข่งขันได้

อุปกรณ์สวมใส่ที่ใช้ GPS จะบันทึกข้อมูลหลายร้อยรายการต่อวินาทีตั้งแต่ตําแหน่งของผู้เล่นไปจนถึงระยะทางที่ครอบคลุมไปจนถึงความเร็วและจํานวนการเร่งความเร็วอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อความแม่นยําในการเตะเพื่อผลกระทบจากการต่อสู้ โดยการเรียกใช้ข้อมูลนี้บนแพลตฟอร์มการวิเคราะห์

สโมสรในไทยนั้นส่วนใหญ่จะรู้กันใน ชื่อของ Catapult ทีมอย่างบุรีรัมย์  ยูไนเต็ด, บีจีพียู, ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด รวมไปถึงทีมชาติไทยต่างใช้อุปกรณ์ตัวนี้เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลมวลกายของนักกีฬา ในระหว่างการฝึกซ้อม และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ แล้ววางแผนในการเสริมสร้าง และพัฒนาศักยภาพของผู้เล่น เช่นจะรู้ว่า ร่างกายของนักกีฬาคนนี้ รับได้ในระดับนี้ หากฝืนหรือ เร่งรัดเกินไปก็จะเกิดอาการบาดเจ็บ  แต่ยังสามารถที่จะนำมาวิเคราะเพื่อที่จะได้เพิ่มในส่วนของฟิตเนส ส่วนของโภชนาการต่างๆ

ข้อมูล GPS ฟ้องถึงความพร้อมร่างกายนักเตะ

การแข่งขัน ไทยลีก ไม่ว่าจะแฟนบอลหรือคนในวงการฟุตบอลต่างยกนิ้วให้กับนักเตะบุรีรัมย์  ยูไนเต็ด ที่มีทั้งความฟิต และความพร้อมที่สมบูรณ์แบบ เล่นได้เต็มร้อย ยังมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือสำหรับการแข่งขัน นั่นก็ด้วยทางบุรีรัมย์ ให้ความใส่ใจในเรื่องนี้ มาอย่างยาวนาน และค่อยๆ ยกระดับ สร้างให้นักเตะของพวกเขามีความแข็งแกร่งขึ้นมาเรื่อยๆ  ด้วยอุปกรณ์ไฮเทคที่พวกเขามี บวกกับ นักฟิตเนสโค้ช นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่มาช่วยกันวิเคราะห์หาข้อมูลนักเตะเป็นรายบุคคล เพื่อเสริมในสมรรถภาพของนักกีฬาคนนั้นๆเป็นรายบุคคล  ซึ่งบางคนที่พอจะรู้จักกับเทคโนโลยีตัวนี้ อาจจะเพียงแค่คิดว่าจับระยะทางการวิ่ง การกระโดด และการปะทะเท่านั้น แต่เครื่องตัวนี้มันยังช่วยวิเคราะห์และอ่านค่าได้อีกหลากหลายกว่านั้น

จักรพันธ์  แก้วพรม เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ในสมัยที่อยู่กับบุรีรัมย์ หลังการฝึกซ้อม จะมีเจ้าหน้าที่ คอยบอก คอยแจ้งอยู่เสมอ ว่า วันนี้ใครขาดอะไรบ้าง  จะวัดออกมาได้เลย คุณดูแลสุขภาพตัวเองดีหรือไม่ นอนพักผ่อนเพียงพอ หรือเปล่า  มีการเสริมสร้างร่างกาย ตามที่แนะนำหรือให้ปรับแก้ด้วยหรือเปล่า”

นี่คือสาเหตุที่ทำให้ นักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีศักยภาพ และเรี่ยวแรงที่ฟิตพร้อมสำหรับการแข่งขันอยู่ตลอด

แน่นอนว่า ข้อมูล ที่ออกมาจากการวิเคราะห์ ของ อุปกรณ์ตัวนี้จะไปทำงานสัมพันธ์กันกับ ในส่วนของ ทีมแพทย์ ทีมโภชนาการ และเรื่องของฟิตเนสต่างๆ ที่จะต้องทำงานเดินหน้าไปควบคู่กันจึงจะได้ผลที่ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด  เพราะนักวิเคราะห์ที่อ่านค่าเก่งๆนั้นจะไม่ดูเพียงว่านักเตะคนนี้วิ่งได้กี่กิโลเมตร แต่จะมาวิเคราะห์เพื่อเพิ่มให้นักเตะขาดตรงไหน ต้องเพิ่มจุดไหน  และต้องทำยังไงเพื่อที่จะได้ดึงเอาศักยภาพในตัวนักเตะคนนั้นออกมาให้ได้มากที่สุด

ทรู แบงค็อก  เป็นอีกทีมที่จะให้นักกีฬาได้สวมใส่อุปกรณ์ตัวนี้ลงซ้อมอย่างสม่ำเสมอ  และแม้แต่เวลาแข่งขันหากสังเกตุดีๆจะเห็นว่านักเตะแข้งเทพจะใส่ อุปกรณ์ GPS ตัวนี้ลงทุกครั้ง ซึ่ง พุทธินันท์  วรรณศรี นักเตะของบียู เคยบอกว่า "ถ้าก่อนแข่งใครพักผ่อนไม่เพียงพอ แล้วลงสนามหัวใจเต้นผิดจังหวะ นี่เจ้าหน้าที่จะรู้เลย"

ด้วยเครื่องนี้ มันจะฟ้องและแสดงข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ที่ทำการอ่านค่าของมัน ซึ่งไม่เพียงเท่านั้น นักฟิตเนสของทีมจะสามารถนำมาอ่านค่า และดูว่านักเตะคนนี้ สามารถเล่นต่อได้อีกหรือไม่ หากฝืนแล้วจะเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด 

 

ไทยลีกมีการใช้น้อยหลายทีมบุคลากรยังไม่เก่ง IT

แต่มันก็ยังมีข้อด้อยอยู่ในเรื่องของ GPS นั้นจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตได้อย่างดี การอ่านค่าจึงจะเรียลไทม์ หรือเป็นแบบทันท่วงที  แต่อีกอย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีตัวนี้ มันไปไกลและก้าวล้ำมากแต่ไม่ค่อยเห็นสโมสรในไทยใช้กันอย่างแพร่หลาย เหมือนในต่างประเทศเพราะการอ่านค่าของเครื่องนี้ค่อนข้างยุ่งยาก และต้องเป็นคนที่มีความรู้เรื่องของ IT มากพอสมควร ถึงจะสามารถอ่านและวิเคราะออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นต้องมีความเชี่ยวชาญเพื่อไม่ให้เกิดการอ่านค่าต่างๆคลาดเคลื่อน ซึ่งหลายทีมในไทยยังไม่มีบุคลากรตรงนี้ที่เพียงพอ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในโลกของฟุตบอลสมัยนี้ แต่ยังมีอีกหลายเทคโนโลยีที่แฟนบอลได้เห็น ทั้งการแจ้งสถิติต่างๆ  ทีมนี้มีการยิง การส่ง การจ่ายยังไง สถิติที่ออกมามันฟ้องมาจากการเก็บข้อมูลของเหล่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ทั้งนั้น ซึ่งมันต่อยอดไปถึง Visual Tracking คือการวิเคราะห์ผ่านรูปแบบของ วีดีโอ / รูปภาพ เรียกว่า Matrics มาเก็บข้อมูลแล้วนำไปแสดงเป็นข้อมูลของการส่งบอล หรือระยะทางที่วิ่งได้  รวมไปถึง ในส่วนของการตัดสิน ที่ แฟนบอลส่วนใหญ่ รู้กันที่เรีกว่า "VAR"(Video Assistant Referee: VAR)ซึ่งจะช่วยผู้ตัดสินใช้ภาพวิดิโอ เพื่อดูเหตุการณ์ย้อนหลัง และะทำการชี้ขาดเกมการแข่งขัน

เทคโนโลยีมันไปไกลถึงขนาดว่า ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์แม้แต่ในลูกฟุตบอลที่แข่งขันก็มีความทันสมัย และไฮเทค ถึงขนาดส่งค่าความเร็วสปีดบอลกลับออกมาข้างสนามได้เลยทีเดียว บอกได้เลยว่าทุกวันนี้เทคโนโลยี กับฟุตบอลมันเดินหน้าคู่กันไปไกล ชนิดที่ถ้าไม่ติดตามตลอด เราเองจะตามไม่ทันเหมือนกัน 

Author

Main Stand

Stand ForAll สื่อกีฬาที่เข้าถึงทุกคน