ทำเนียบรายชื่อโค้ชทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีเริ่มต้นบันทึกบทใหม่ด้วยการประกาศเปิดตัว อิสสระ ศรีทะโร เข้ามาทำหน้าที่อย่างเป็นทางการ
ภารกิจที่สำคัญของ “โค้ชหระ” คือการคุมทีมไปเอาเหรียญทอง ซีเกมส์ 2023 กลับจากกัมพูชา และต้องได้ตั๋วไปแข่งขัน กีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
แต่หลังการเปิดตัวทีมงานผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุด ยู23 ได้มีคำถามเกิดขึ้นตามมามากมาย โดยเฉพาะความเหมาะสมที่จะเป็นคนทำหน้าที่นี้จริงหรือ แล้วทำไมถึงต้องเป็น อิสสระ ศรีทะโร ? และเพราะอะไรกุนซือผู้นี้จึงเหมาะสมกับการเข้ามารับหน้าที่คุมทีมชุดนี้ ติดตามกับ Ball Thai Stand
โค้ชคนไทยดีกรี โปรไลเซนส์
อันที่จริงก่อนที่จะเป็น อิสสระ รายชื่อโค้ชที่อยู่ในโผจะเข้ามาคุมทีม ยู23 มีการพูดถึง และคาดเดาไปหลายคนถึงคนที่มีความเหมาะสม ด้วยเหตุที่ว่าทีมชาติไทยรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่สำคัญเพื่อต่อยอดในการขยับขึ้น เป็น “ช้างศึก” รุ่นใหญ่ในวันข้างหน้า พ่วงไปกับความหวังและความคาดหมายที่ต้องแบกอยู่เต็มหลัง
ประกอบกับผลงานก่อนหน้านี้ของทีมชุดยู-23 ในระยะเวลา 5 ปีหลังที่ไม่ได้อยู่ในช่วงที่น่าประทับใจนัก ทั้งการชวดแชมป์ซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม, ตกรอบแรกฟุตบอล ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2022 และหากมองย้อนกลับไปถึงรอบคัดเลือก ก็ต้องเพิ่ง สปป.ลาวในการเข้ารอบสุดท้าย
มีเพียงการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ในยุคอากิระ นิชิโนะ ที่เป็นผลงานที่เด่นที่สุดของทีมชุดนี้
การกอบกู้ศรัทธาของทีมชุดนี้จึงเป็นภารกิจเร่งด่วนของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ประกอบกับ การยุติบทบาทผู้จัดการทีมชุดยู-23 ของนวลพรรณ ล่ำซำที่ขอรับภารกิจทีมชาติชุดใหญ่เพียงชุดเดียว
ขณะที่กุนซือที่จะเข้ามารับหน้าที่สมาคมกีฬาฟุตบอลเล็งเห็นว่าควรจะใช้กุนซือชาวไทยด้วยเหตุผลที่จะกล่าวต่อไปในงานชิ้นนี้
ชื่อของ ธชตวัน ศรีปาน นับเป็นชื่อแรกที่ปรากฏ และเป็นแคนดิเดตที่น่าสนใจ แต่ด้วยงานหลักที่ โค้ชแบน มีสัญญาอยู่กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จึงต้องตัดออกจากตัวเลือกไป
หากพิจารณาถึงกุนซือดีกรีโปรไลเซนส์ ชาวไทย จะพบว่าชื่อของ “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร เป็นโค้ชคนไทยที่จบ โปรไลเซนส์ รุ่นแรก และไม่มีสัญญาผูกมักับสโมสรไหน แถมคุ้นเคยการทำงานกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นอย่างดี ทั้งจากประสบการณ์ที่ได้ร่วมงานกับกุนซือมือดีอย่าง อากีระ นิชิโนะ ในทีมชาติไทยชุดใหญ่, วรวุธ ศรีมะฆะ ในชุดคว้าแชมป์ซีเกมส์และ รวมถึงเป็นอดีตเฮดโค้ชทีมเยาวชนไทยอายุไม่เกิน 19 ปี นอกจากนี้ยังมีผลงานในระดับสโมสรที่ชัดเจน ล่าสุดคือพา พีที ประจวบ รอดตกชั้นจาก ไทยลีกและได้รองแชมป์ลีกคัพในฤดูกาลที่ผ่านมา
เกือบเป็นฮีโร่ สู่บาดเเผลที่พนมเปญ
มองย้อนกลับไปถึงผลงานสมัยที่ โค้ชหระ เป็นกุนซือทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีเคยเกือบพาทีมไปชิงแชมป์โลกได้สำเร็จ หลังพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลอายุไม่เกิน 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2018 ก่อนจะไปแพ้ กาตาร์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-7 (เสมอเวลาปกติ 3-3) ซึ่งในเกมนั้นทีมชาติไทยพลิกขึ้นนำ 3-2 ทั้งที่เป็นฝ่ายโดนนำก่อน 2-0 จนกระทั่งนาทีที่ 88 มาโดนลูกฟรีคิกสุดคมที่ทำให้ทีมชาติไทยถูกตีเสมอ 3-3 ก่อนที่ช่วงต่อเวลาพิเศษจะต้องตกรอบไป
จากกุนซือผู้เกือบพาทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์ในวันนั้น “โค้ชหระ” กลับมารับบทบาทกุนซือทีมชาติไทย ชุดยู-19 ลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบคัดเลือก โดยในครั้งนั้น ทีมไทยจับสลากอยู่ในสายเดียวกับ มาเลเซีย, กัมพูชา, บรูไนและหมู่เกาะนอร์ธเทิร์น มาเรียนา ซึ่งจากชื่อชั้นแล้วทีมไทยน่าจะผ่านได้ไม่ยาก
แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น แม้ทีมไทยจะเปิดหัวด้วยการชนะ 9-0 และนอร์ทเทิร์น มาเรียนา 21-0 แต่ในเกมที่สาม ทีมไทยซึ่งต้องเจอเสียงเชียร์จากกัมพูชาเจ้าถิ่น รวมถึงสภาพสนามโอลิมปิก สเตเดี้ยมที่เป็นสนามหญ้าเทียม ส่งผลให้ทีมไทยพ่ายกัมพูชาอย่างสุดช็อก 1-2
แม้จะเหลือโอกาสแก้ตัวในเกมสุดท้ายที่จะต้องชนะมาเลเซียให้ได้ด้วยผลต่างสองประตูขึ้นไป แต่ทีมไทยกลับไม่สามารถทำได้ เป็นฝ่ายแพ้ไปอีก 0-1 ทำให้ทีมไทยต้องตกรอบคัดเลือกไปในครั้งนั้น (ก่อนที่สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้การแข่งขันรอบสุดท้ายถูกยกเลิกไป)
เมื่อผลงานไม่เป็นไปตามเป้า อิสสระ ศรีทะโร จึงประกาศยุติบทบาทกับทีมชาติไทยชุดยู-19
ศิษย์จาก ยู19 ขยับสู่ ยู23 ในปัจจุบัน
แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นรอบแผลลึกของทีมชาติไทย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อิสสระ ศรีทะโร มีความคุ้นเคยกับนักเตะกลุ่มนี้มาแล้ว
ทั้ง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, อชิตพล คีรีรมย์, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, อิรฟาน ดอเลาะ ฯลฯ ทั้งหมดเคยผ่านมืออิสสระ ศรีทะโรมาแล้ว
เหตุนี้ อิสสระ ศรีทะโร จึงมีความคุ้นเคยและรู้จักนักเตะในรุ่นนี้เป็นอย่างดี ตรงจุดนี้ โค้ชหระ น่าจะดึงเอาความสามารถและศักยภาพขอ ผู้เล่นชุดนี้ออกมาได้อย่างเต็มที่
และจากประสบการณ์การเป็นผู้ช่วยทีมชาติไทยในยุคของอากิระ นิชิโนะ ที่อิสสระจะรับบทสำคัญในการดูแลทีมชุด ยู-23 เป็นหลัก ทำให้เขาสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในส่วนนี้ รู้ว่านักเตะในรุ่นอายุนี้ต้องการอะไร และควรรับมืออย่างไรกับผู้เล่นในกลุ่มอายุแบบนี้
ผู้ฝึกสอนคนไทย ไฮ-เทคโนโลยี
หลายคนอาจไม่รู้ ว่า โค้ชหระ ได้เปิด โรงเรียนฟุตบอล ที่มีหลักสูตรเฉพาะสอนเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นหลัก โดยมีความแตกต่างกับอคาเดมีฟุตบอลต่างๆ หลักสูตรมีครบทั้งฟิตเนสโค้ช นักวิเคราะห์เกม ผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน งานสื่อมวลชนหรือมีเดีย รวมไปถึงหลักสูตรที่มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับฟุตบอลด้วย
นักเตะที่เคยร่วมงานต่างรู้ถึงความละเอียดในการศึกษา วิเคราะห์คู่ต่อสู้ ซึ่ง โค้ชหระ จะใช้เวลาอยู่หน้าจอในการตัดต่อวิเคราะห์เกมด้วยต่อเอง วางแผน แล้วนำมาเผยแพร่ให้กับผู้เล่นในตำแหน่งต่างๆ
"เขาเป็นโค้ชที่มีอะไรใหม่ๆมาให้นักเตะอยู่เสมอ ทั้งรูปแบบการซ้อมหรือคลิปวีดีโอการเล่นของทีมต่างๆ เวลาแข่งเสร็จโค้ชจะไปวิเคราะห์หาจุดบกพร่องของนักเตะแต่ละคนแล้วนำมาบอก” นพพล พลคำ อดีตนักเตะทีมชาติไทยชุดเหรียญทองซีเกมส์ 2017 เคยให้สัมภาษณ์จากที่เคยร่วมงานกัน
นี่คืออีกหนึ่งความพิเศษของ โค้ชหระ ที่เป็นโค้ชไทยเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจ เรียนรู้เรื่องของเทคโนโลยี นำเอามาต่อยอดใช้งานในวงการฟุตบอลได้
“เรื่องของเทคโนโลยีจริงๆแล้วมาหลังเรื่องของฟุตบอล แต่ด้วยสิ่งใหม่ๆที่เข้ามา จึงเกิดการเรียนรู้และนำมาปรับใช้” โค้ชหระ กล่าวถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยทำทีมฟุตบอล
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การคุมทีมก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่การฝึกสอนที่มีรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการบ้าง ก็จะช่วยสร้างความแปลกใหม่และสิ่งใหม่ๆ ให้วงการฟุตบอลไทย
เรื่องของเงินๆทองๆของสมาคมฯยุคนี้
ด้วยสภาวะที่ไม่ค่อยสู้ดีนักในเรื่องของงบประมาณและเงินๆทองๆ ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ทั้งคดีความที่ต้องจ่ายหนี้ก้อนโตให้ อีสาน ยูไนเต็ด จนต้องขอชะลอการจ่ายเงินสนับสนุนทีมสโมสรในไทยลีก ทำให้การที่จะมองหาโค้ชนอก หรือโค้ชที่มีค่าตัวสูงๆเข้ามาคุมทีมชาติไทยในตอนนี้เป็นเรื่องที่ยาก บทสรุปจึงมาลงตัวที่ โค้ชหระ ที่ถือว่าเหมาะสมกับสภาวะทางการเงินของ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯตอนนี้มากที่สุด
ทั้งหมดนี่เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เข้าใจได้ว่าทีมชาติไทยชุด ยู 23 จึงเลือก อิสสระ ศรีทะโร มาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ส่วนที่ว่าจะเหมาะสมจริงๆหรือไม่นั้นคงต้องรอชมผลงานในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ว่าจะเป็นไปได้ตามเป้าหมาย ที่คาดหวังมากน้อยสักเพียงใด
สำหรับภารกิจของ โค้ชหระ และทีมชาติไทยชุด ยู23 จะเริ่มจากเรียกเก็บตัวครั้งแรกระหว่างวันที่ 5-15 ธันวาคมนี้ จากนั้นจะมีภารกิจในกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่วันที่ 5-16 พฤษภาคม 2566, ฟุตบอล เอเอฟซี เอเชียนคัพ U23 รอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 4-12 กันยายน 2566, กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2023 ที่ประเทศจีน, ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2023
ไฮไลท์สำคัญคือการลุ้นตั๋วไป โอลิมปิก 2024 โดยจะคัดเลือกจากการแข่งขันฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ซึ่งทวีปเอเชียได้โควตา 3.5 ทีมไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
คุณยังสามารถติดตามข่าวสาร รวมถึงเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
เว็บไซต์ https://mainstand.co.th/home
และติดตามการนำเสนอแบบสั้น กระชับ เข้าใจประเด็นร้อนใน 2 นาที ได้ที่ช่องทางใหม่ของพวกเราผ่าน Tiktok https://www.tiktok.com/@mainstandth2018
