ไม่นานมานี้ ปรากฏข่าวว่าสถานีโทรทัศน์ของประเทศญี่ปุ่น มีแผนจะผลักดันเอาการแข่งขัน "Ninja Warrior" เข้ามาเป็น 1 ในกีฬาให้ชิงเหรียญทองในโอลิมปิก และพวกเขามั่นใจมากว่ามันจะต้องประสบความสำเร็จ
Main Stand จะพาไปรู้จักกับ Ninja Warrior การแข่งขันในรายการโทรทัศน์ ที่เริ่มต้นจากความวาไรตี้ของญี่ปุ่น ก่อนเผยแพร่และกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก จนมีการชิงแชมป์กันด้วยเงินรางวัลกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนมีข่าวว่าอาจถูกบรรจุเข้าโอลิมปิก Ninja Warrior เป็นอย่างไร ? รายการฮิตติดลมบนระดับ 20-30 ปี เพราะเหตุใด ? ติดตามที่นี่
กำเนิด Ninja Warrior
Ninja Warrior คือรายการเรียลลิตี้ ที่มีสาระสำคัญคือให้ผู้เข้าแข่งขันปฎิบัติภารกิจผ่านด่านต่าง ๆ โดยใช้ร่างกายส่วนต่าง ๆ เป็นเครื่องมือ คล้ายกับเหล่านินจาที่ต้องปฏิบัติภารกิจอย่างคล่องแคล่ว รวดเร็ว แข็งแรง และใช้ทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเป็นอย่างมาก
ก่อนที่ Ninja Warrior จะเข้ามาฮิตในสหรัฐอเมริกา นี่คือรายการที่ฮิตในประเทศญี่ปุ่นมาก่อนโดยใช้ชื่อรายการว่า Sasuke อ้างอิงจากชื่อของ ซาโตรุบิ ซาซึเกะ (Sarutobi Sasuke) นินจาในตำนานปรัมปราของญี่ปุ่น โดยออกฉายตั้งแต่ปี 1997 แล้ว
เริ่มต้นรายการของฝั่งญี่ปุ่นนั้นไม่ได้จริงจังหรือซีเรียสระดับที่รายการเวอร์ชั่นอเมริกันทำ เนื่องจากในช่วงยุค 1980s-1990s มีรายการคล้าย ๆ แบบนี้และได้ความนิยมล้นหลาม อาทิ โหด มัน ฮา ที่เอาผู้แข่งขันจำนวนมากมาเล่นเกมผ่านด่านแบบฮาบ้างโหดบ้าง เพื่อชิงเงินก้อนโต
ดังนั้นมันจึงถูกต่อยอดมาให้ซีเรียสอีกนิดในรายการ Sasuke โดยกติกามีอยู่ว่า ผู้เข้าแข่งขั้นทั้งหมด 100 คน จะต้องมาแข่งขันในสตูดิโอ "ภูเขามิโดริยามะ" ที่เมืองโยโกฮาม่า และเล่นเกมผ่านด่านต่าง ๆ ซึ่งตัวรายการจะยังมีติดความตลกอยู่บ้างจากการพากย์ของพิธีกรสนาม และในส่วนของการตัดต่อที่เน้นเรื่องความผิดพลาดในจังหวะต่าง ๆ
แต่ก็เพราะเอาความฮาไปควบคู่กับการแข่งขันที่ต้องใช้สมรรถภาพร่างกายขั้นสูงนี่แหละ ที่ทำให้ Sasuke กลายเป็นที่นิยมขึ้นมาในประเทศญี่ปุ่น หลังจากประสบความสำเร็จทันทีหลังออกอากาศ มีการสปินออฟเป็นรายการ Kunoichi (แปลว่า นินจาหญิง) ให้สำหรับผู้เข้าแข่งขันผู้หญิงโดยเฉพาะ
ความสำเร็จของ Sasuke ทำให้มีหลายประเทศซื้อลิขสิทธิ์รายการไปฉาย และหนึ่งในนั้นคือประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ข่องเคเบิลชื่อว่า G4 ซื้อลิขสิทธิ์ในปี 2006 ซึ่งเดิมทีก็แค่ฉายของเวอร์ชั่นญี่ปุ่น แต่เปลี่ยนภาษาเป็นอังกฤษเท่านั้น แต่ความสำเร็จนั้นยอดเยี่ยมเกินต้าน ผู้คนชอบการแข่งขันแบบนี้มาก เพราะเป็นการเอาเรื่องความแข็งแรงแบบกีฬามารวมกับรายการแนวเรียลลิตี้ที่ดูสนุกย่อยง่าย หลังออกอากาศปรากฏว่าคนอเมริกันถูกใจรายการ Ninja Warrior แบบสุด ๆ มีคนติดต่อเข้ามามากมายจนถึงขั้นมีการเชียร์ให้ทางสตูดิโอ จัดการแข่งขัน Ninja Warrior เวอร์ชั่นอเมริกาขึ้นเลยทีเดียว
เมื่อเอาคนอเมริกันมาแข่งขันกัน ความจริงจังก็เริ่มขึ้น Ninja Warrior เหมือนเป็นรายการรวมคนที่แข็งแรงมีความฟิตจากทั่วประเทศมาวัดกัน มีการจดสถิติและพยายามทำลายสถิติกันในทุก ๆ สัปดาห์ รู้ตัวอีกทีจากที่รายการเคยมีสินน้ำใจให้ผู้เข้าแข่งขันเล็กน้อย ในปี 2009 มีการจัดแข่งขัน Ninja Warrior แบบจริงจังระดับชิงแชมป์ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีเงินรางวัลถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นความนิยมและเงินรางวัลก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดย ณ ปัจจุบัน Ninja Warrior เวอร์ชั่นปี 2022 ซึ่งฉายทางสถานีดังอย่าง NBC มีการชิงรางวัลระดับ 1 ล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฮิตได้ไง?
หากลงลึกในรายละเอียดว่า เหตุใด Ninja Warrior ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ก็คงเพราะ นี่คือรายการที่เปิดโอกาสให้ผูัสมัครเข้าแข่งขันอย่างอิสระเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะมาจากรัฐไหน อาชีพอะไร อายุเท่าไหร่ มีความพิการหรือไม่ ... ไม่มีปัญหา ได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความวาไรตี้แบบอเมริกันเข้าไป ด้วยการ "เลือกผู้เข้าแข่งขัน" ที่คิดว่าทำให้รายการขายได้ และมีสตอรี่ที่น่าสนใจ ทำให้การแข่งขันน่าติดตาม
แม้การชนะจะเป็นเรื่องยาก แต่หลายคนก็มีชื่อเสียงจากความพยายามและความสามารถที่แสดงออกในการแข่งขันรายการนี้มาแล้ว เรียกได้ว่ามันเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ให้เหล่าคนสู้ชีวิต ได้ออกมาแสดงฝีมือให้คนทั่วประเทศเห็นก็ว่าได้
เช่นครั้งหนึ่งพวกเขาเคยให้ เควิน บูล นักเทรดหุ้นจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีอาการผมร่วงและอยู่ในภาวะไร้ขนเข้ามาแข่งขัน ขณะที่คนอื่นเริ่มสงสารในความแปลกประหลาด บูล กลับลงแข่งด้วยความมั่นใจ และบอกว่าการที่ตัวของเขาไม่มีขนแม้แต่เส้นเดียวช่วยให้เขามีแอโร่ไดนามิกดีขึ้น เหมาะกับภารกิจแบบนินจาที่ต้องแคล่วคล่องว่องไว กลายเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันระดับตำนานของรายการนี้ไปเลย
หรืออีกครั้งที่มีผู้เข้าแข่งขันเป็นคนเสิร์ฟอาหาร โดยเป็นชาวกัมพูชาที่ลี้ภัยเข้ามาในสหรัฐอเมริกา ภรรยาของเขาต้องนั่งรถเข็นด้วยโรคที่รักษาไม่หาย และยังมีลูกสาวที่ต้องเลี้ยงดู ซึ่งสตอรี่การสู้เพื่อคนที่รัก และการวิ่งเข้าชนอากาศกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านผ่านการแข่งขันนี้ ทำให้ Ninja Warrior ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ โดยการแข่งขันเวอร์ชั่นอเมริกัน แข่งขันต่อเนื่องมา 14 ซีซั่นแล้ว และเงินรางวัลรวมถึงเรตติ้งก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ
ตลอดเวลาที่ออกอากาศและมีการแข่งขัน มีการเพิ่มด่านต่าง ๆ เพื่อเป็นอุปสรรคให้กับผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งก็มีหลายด่านที่สร้างความว้าวและได้รับการพูดถึงในหมู่แฟนรายการ จนที่สุดแล้ว การเปิดตัวด่านใหม่ ๆ ของ Ninja Warrior ก็กลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของรายการเช่นกัน
โดยด่านที่เคยได้รับคำชมเรื่องความคิดสร้างสรรได้แก่ Wall Flip หรือการ "พลิก" (ไม่ใช่ยกเหมือนในด่าน Wall Lift) กำแพงจากพื้นฝั่งตัวเองไปอีกฝั่ง โดยกำแพงแต่ละแผ่นจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำให้ตัวเองผ่านไปถึงเส้นชัย นอกจากนี้ยังมีด่านการปีนป่ายอีกหลายรูปแบบที่ต้องใช้พลังและการวางแผนในการผ่านแต่ละด่าน
ในขณะที่สหรัฐอเมริกาทำให้การแข่งขันรายการนี้ดังกระฉ่อน หลายประเทศก็เริ่มซื้อลิขสิทธิ์รายการ Ninja Warrior จากเจ้าของลิขสิทธิ์ (ญี่ปุ่น) ไปจัดการแข่งขันในแบบตัวเองมากขึ้น ณ เวลานี้มีถึง 28 ประเทศ ที่มีการแข่งขัน Ninja Warrior ในแบบของตัวเอง
28 ประเทศที่มีการแข่งขันของตัวเอง กับอีกหลากหลายประเทศที่ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อรับชม คือจำนวนที่ไม่น้อย นั่นเท่ากับว่า Ninja Warrior คือหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนสามารถเข้าใจรูปแบบการแข่งขัน กติกา และวิธีเอาชนะไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นจะรอช้าอะไร ? ในเมื่อเข้าใจตรงกันแล้วทำไมไม่แข่งขันชิงเหรียญทองในโอลิมปิกไปเลยล่ะ ?
ฮิตขนาดนี้แข่งโอลิมปิกไปเลยไหม ?
ความนิยมของ Ninja Warrior ในแง่ของความสนุกและความบันเทิง รวมถึงการยอมรับในความแข็งแกร่งของเหล่าผู้เข้าแข่งขันระดับแชมเปี้ยน ทำให้สถานีโทรทัศน์ TBS จากญี่ปุ่น ได้ตัดสินใจจะยื่นเรื่องดังกล่าวให้กับ สหพันธ์กีฬาอุปสรรคโลก (FISO) และ สหภาพปัญจกีฬาสมัยใหม่นานาชาติ (UIPM)
พวกเขาได้เริ่มกันคิดค้นหาวิธีที่จะนำการแข่งขัน Ninja Warrior บรรจุเข้าเป็นหนึ่งในกีฬาที่จะใช้แข่งขันในโอลิมปิก หลังจากที่พวกเขาเห็นรายการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการแข่งขันตามประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่ถือเป็นรายการเรตติ้งแถวหน้าติดต่อกันมาหลายสมัย
พวกเขาเตรียมจัดการทดสอบแข่งขันโดยจำลองอุปสรรคสิ่งกีดขวางขึ้นมาให้คล้ายกับการแข่งในรายการโทรทัศน์ โดยจะได้ทีมโปรดิวเซอร์รายการฝั่งยุโรปเป็นผู้ออกแบบอุปสรรคสิ่งกีดขวางการทดลองแข่งที่ว่ามาข้างต้น UIPM และ FISO ยืนยันว่าได้ทำการทดสอบครั้งแรกในกรุงอังการา ประเทศตุรกี วันที่ 27 และ 28 มิถุนายน หลังจบการแข่งขันปัญจกีฬาสมัยใหม่ชิงแชมป์โลก 2022 สเตจสุดท้ายที่ประเทศตุรกี ซึ่งตามรายงานข่าว ผ่านไปได้ด้วยดี
"ก็ในเมื่อ Sasuke หรือ Ninja Warrior เป็นรายการที่ชนะใจคนดูทั้งโลกและอยู่บนจุดสูงสุดของประวัติศาสตร์ของ TBS เราเชื่อจริง ๆ ว่าหากเราพัฒนาคอนเทนท์ของรายการนี้ไปอีก มันต้องเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับกีฬาชนิดอื่น ๆ ... ตอนนี้เราพร้อมร่วมงานกับทุกฝ่ายเพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ และเตรียมให้มันเข้าเป็นหนึ่งในการแข่งขันโอลิมปิกในอนาคต" มิโฮะ ทาคาชิมะ ของ TBS กล่าว
พวกเขาคาดการณ์ว่า โอลิมปิก ปี 2028 ที่นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา อาจจะได้เห็นการแข่งขัน Ninja Warrior ถูกบรรจุอย่างเป็นทางการ ... ซึ่งจุดนี้แสดงให้เห็นว่าโลกกีฬา ณ ปัจจุบันเปิดโอกาสให้กับความคิดที่นอกกรอบเสมอ การแข่งขันกีฬาไม่ใช่เรื่องของคนสองคน หรือทีมสองทีมอีกต่อไป คุณสามารถใส่เอาความบันเทิง ความตื่นเต้นเร้าใจ และรูปแบบการแข่งขันที่แปลกใหม่ได้ หากสามารถผลักดันให้ทุกคนเข้าใจตรงกันได้
สำหรับ Ninja Warrior สิ่งที่ทำให้พวกเขามาอยู่ในจุดนี้ได้คือเรื่องของการผสมผสานเอาความบันเทิงมารวมไว้กับกีฬาที่ถูกริเริ่มตั้งแต่ยุค 1990s ซึ่งนี่คือแนวคิดของโลกปัจจุบัน และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม Ninja Warrior ซึ่งเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทั้งสมอง พละกำลัง และไหวพริบ ผสมทุก ๆ ส่วนของคำว่ากีฬาอย่าลงตัว น่าจะกลายเป็นกีฬาชนิดใหม่ทีทั้งโลกจะได้เห็นในโอลิมปิกอย่างแน่นอน
แหล่งอ้างอิง
https://www.sbnation.com/2022/6/28/23186418/ninja-warrior-olympic-sport-los-angeles-2028
https://www.ign.com/articles/ninja-warrior-olympics-obstacle-course-consideration
https://en.wikipedia.org/wiki/American_Ninja_Warrior
https://en.wikipedia.org/wiki/Sasuke_(TV_series)
https://www.yahoo.com/entertainment/bloody-head-injury-didnt-stop-this-american-ninja-warrior-competitor-from-finishing-course-054203054.html
https://www.newyorker.com/culture/culture-desk/the-great-american-obstacle-course
https://sasukepedia.fandom.com/wiki/Parallel_Pipes
https://www.insidethegames.biz/articles/1125029/uipm-obstacle-test-event-ninja-warrior
