"คาราบาว คัพ" หนึ่งในรายการฟุตบอลถ้วยของลีกอาชีพประเทศอังกฤษ ที่กลายเป็นชื่อติดปากของคอฟุตบอลไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากเดิมมีชื่อว่า ลีกคัพ และเปลี่ยนชื่อไปหลาย ๆ ครั้งตามชื่อของสปอนเซอร์ ตลอดช่วงระยะเวลา 10-20 ปีที่ผ่านมา
จากแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังของไทย คาราบาวแดง นำแบรนด์ของตัวเองไปประดับไว้บนเวทีระดับโลกได้อย่างไร และด้วยเหตุผลใดพวกเขาจึงต้องเลือกสนับสนุนฟุตบอลรายการนี้ ?
ติดตามได้ที่ Main Stand
จากนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ... สู่คาราบาว คัพ
ย้อนกลับไปช่วงปี 2002 ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของไทยครึกครื้นถึงขีดสุดเมื่อมีการเปิดตัวเครื่องดื่มที่มีชื่อว่า "คาราบาวแดง" ออกมาวางขาย ณ เวลานั้นเป็นเรื่องยากยิ่งที่แบรนด์ใหม่สักแบรนด์จะเข้ามาตีตลาดเครื่องดื่มชูกำลังได้ แต่การเปิดตัวของ คาราบาวแดง นั้นมีภาพจำที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ "คาราบาวแดง" ถูกคนไทยจดจำได้ดีที่สุดคือจากภาพยนตร์โฆษณาชุดหนึ่งที่ได้ ยืนยง โอภากุล หรือ "แอ๊ด คาราบาว" มาร้องเพลงประกอบโฆษณา ทำให้ลูกเล็กเด็กแดงสามารถร้องเพลงตามกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง โดยมีท่อนฮุคติดหูที่ร้องว่า "คาราบาวแดง คาราบาวแดง คาราบาวแดง คาราบาวแดง ขอยืนหยัดเชิดชู นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่"
หลังจากนั้นเครื่องดื่มคาราบาวแดงก็กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย ทุกคนจำโลโก้ของแบรนด์ได้ จำขวดบรรจุภัณฑ์ได้ และจำเสียงเพลงของ "น้าแอ๊ด" ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นการโฆษณาที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพียงแต่ ณ ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าหลังจากนั้นเกือบ 20 ปี เครื่องดื่มที่คนไทยจดจำจากเพลงโฆษณาและการตลาดในประเทศ จะกลายเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันฟุตบอลรายการดังของอังกฤษชื่อว่า "คาราบาว คัพ"
เพราะ ณ เวลานั้นคนไทยยังมองว่าการที่แบรนด์ไทยจะไปปรากฏในการแข่งขันฟุตบอลระดับแถวหน้าของโลกนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ง่าย ๆ ดังนั้นการเห็น คาราบาวแดง กลายเป็นสปอนเซอร์หลักของฟุตบอล "ลีกคัพ" และเปลี่ยนชื่อรายการการแข่งขันเป็น "คาราบาว คัพ" ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ไม่น้อยเลยทีเดียว ... ทำไมพวกเขาถึงก้าวกระโดดได้ขนาดนั้น เรื่องนี้มีคำตอบ
ความสัมพันธ์ของ "คาราบาว คัพ" และ "คาราบาวแดง"
แม้คนไทยจะเรียกเครื่องดื่มอย่าง คาราบาวแดง ว่าเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ที่ต่างประเทศเครื่องดื่ม คาราบาวแดง หรือที่เป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อแบรนด์ "Carabao"จัดว่าอยู่ในหมวดหมู่ของ "เอเนอร์จี้ ดริงก์" ซึ่งตรงนี้เองเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างเครื่องดื่มนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่กับการแข่งขันฟุตบอลลีก คัพ ของอังกฤษ
ประการแรกเครื่องดื่มเอเนอร์จี้ ดริงก์ แบรนด์ระดับโลกแทบทุกแบรนด์ ล้วนแต่มีส่วนสนับสนุนด้านกีฬาทั้งสิ้น มันเป็นสิ่งที่เรียกว่า "สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง" ที่สร้างภาพจำให้กับผู้คนจำนวนมาก รวมถึงการมีกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกันอีกด้วย
เมื่อเป็นเช่นนั้น เป็นคาราบาวกรุ๊ป ที่เห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะด้านกีฬา จึงได้เริ่มเดินหน้าเต็มกำลังในด้านนี้
ก่อนที่จะได้เป็นสปอนเซอร์หลักของรายการฟุตบอล คาราบาว คัพ เครื่องดื่ม คาราบาว เคยสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์เสื้อซ้อมของทีมเชลซี จนกระทั่งมองเห็นโอกาสที่จะทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักระดับสากลมากขึ้น จึงได้โอกาสเข้าไปสนับสนุนฟุตบอลรายการ "ลีก คัพ" ซึ่งเป็นรายการที่เปิดให้ทีมระดับอาชีพของอังกฤษแข่งขันชิงถ้วยรางวัลกัน ในปี 2017
สำหรับรายการ ลีกคัพ นั้น จะเปลี่ยนชื่อไปตามสปอนเซอร์หลักของรายการ ก่อนหน้าปี 2017 เคยใช้ชื่อทั้ง Coca-Cola League Cup, Carling Cup, Capital One Cup และล่าสุดก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น "Carabao Cup"
การเป็นผู้สนับสนุนหลักของรายการนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ คาราบาว กลายเป็นแบรนด์ไทยระดับโลกได้อย่างแท้จริง เพราะรายการ คาราบาว คัพ นั้นเป็นรายการที่ถูกนำไปถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
ข้อมูลของ EFL Cup (ปี 2019) ยังระบุไว้ว่า รายการ คาราบาว คัพ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจากจำนวนผู้ชมฟุตบอลคาราบาว คัพ ในสนามตลอดฤดูกาลราว 1.2 ล้านคน ขณะที่ผู้ชมฟุตบอลในอังกฤษมีจำนวนมากถึง 27 ล้านคน และกว่า 700 ล้านคนจะได้ชมการถ่ายทอดสดตลอดทั้งฤดูกาล นับเป็นช่องทางสำคัญที่จะช่วยให้ คาราบาวแดง และ คาราบาว คัพ เป็นที่รู้จักและได้รับความเชื่อถือทั้งในฐานะลีกการแข่งขันฟุตบอลระดับโลกและแบรนด์สินค้าระดับโลกในคราวเดียวกัน
นอกจากการเดินหน้าทำ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง เต็มกำลังแล้ว ยังมีเหตุผลอื่นอีกที่เป็นเหตุผลว่าทำไม คาราบาว ต้องเป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ ทั้ง ๆ ที่โลกใบนี้มีรายการฟุตบอลแข่งขันมากมาย ... เหตุผลสำคัญของการเปลี่ยนชื่อ ลีก คัพ ให้เป็น คาราบาว คัพ ก็เป็นเพราะว่า "นี่คือรายการของนักสู้ยิ่งใหญ่” ซึ่งเป็นหัวใจของเครื่องดื่มคาราบาวแดง มาตั้งแต่แรกแล้วนั่นเอง
นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ... ระดับ World Class
เพราะฟุตบอล ลีก คัพ คือโอกาสครั้งใหญ่สำหรับทีมฟุตบอลทั่วประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะกับทีมเล็ก ๆ ที่ถือว่ารายการนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างไปทั่วโลก เป็นทีมที่มีรายรับเพิ่มมากขึ้นจากการเป็นทีมที่ถูกเรียกว่า "แจ็คผู้ฆ่ายักษ์"
การเป็นทีมเล็ก ๆ ที่เล่นในระดับดิวิชั่น 2-3 หรือ 4 นั้นมีโอกาสที่จะได้เจอกับทีมระดับหัวแถวของประเทศน้อยมาก บางปีพวกเขาแทบจะไม่มีโอกาสนั้นเลย ได้แต่เจอกับทีมในระดับเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นที่สนใจและรับรู้จากแฟนบอลทั่วโลกแน่นอน
ดังนั้นการได้เข้ามาเล่นในรายการ คาราบาว คัพ ถือเป็นโอกาสสำคัญ เพราะนี่คือรายการที่จะทำให้พวกเขามีโอกาสได้เจอกับทีมในพรีเมียร์ลีก หรือถ้าโชคดียิ่งกว่านั้นพวกเขาจะได้ไปเยือนในสนามเหย้าของทีมระดับหัวแถวอย่าง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี หรือ อาร์เซน่อล
นอกจากสโมสรจะได้ส่วนแบ่งจากค่าตั๋วเข้าชมและการถ่ายทอดสดแล้ว เกมแบบนี้มักจะเป็นเกมที่เราได้เห็นสปิริตของนักสู้นักเตะจากทีมเล็ก ๆ เหล่านี้ที่ลงเล่นในสถานะ "สู้แค่ตาย" พวกเขาไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกครั้งเมื่อไหร่ และทางเดียวที่ชื่อของพวกเขาจะกลายเป็นที่จดจำของแฟนบอลทั่วโลกได้คือการระเบิดผลงานสุดยอดในเกมที่เจอกับทีมใหญ่ ๆ ยิ่งถ้าหากพวกเขาจบเกมด้วยการพาทีมบุกค่ำทีมแถวหน้าของประเทศ และทำให้ทีมอยู่ในสถานะ "แจ็คผู้ฆ่ายักษ์" ได้ มันจะเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสให้กับตัวพวกเขาเองอีกด้วย
มีเกมหนึ่งในรายการ คาราบาว คัพ ฤดูกาล 2017-18 ที่ บริสตอล ซิตี้ เขี่ย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งเกมนี้เป็นเกมที่แสดงให้เห็นถึง "สปิริตนักสู้" ได้เป็นอย่างดี
เกมนั้น บริสตอล ซิตี้ ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์ในฤดูกาลก่อนหน้า ที่นำโดยนักเตะระดับโลกอย่าง ปอล ป็อกบา, โรเมลู ลูกากู, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ด้วยสกอร์ 2-1 โดยประตูชัยของ บริสตอล เกิดขึ้นในนาที 90+3 หลังจากที่ คอรี่ย์ สมิธ ส่งบอลเข้าประตู และเมื่อเกมจบลงก็เกิดปรากฏการณ์สนามแตก แฟนบอลของ บริสตอล ซิตี้ พร้อมใจกันกรูลงมาฉลองชัยที่กลางสนาม กลายเป็นภาพแห่งความทรงจำของสโมสรที่นักเตะ ทีมงาน และแฟนบอลของบริสตอลในสนามต่างก็ร่วมฉลองกันแบบสุดเหวี่ยง
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ในแบบ "นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่" ที่แม้จะเป็นรองแต่ก็สู้ยิบตาจนได้ชัยชนะ ซึ่งมันก็สัมพันธ์กับสิ่งที่ คาราบาว นั้นสร้างภาพจำให้กับแบรนด์ของพวกเขามาตลอด มันกลายเป็นเสน่ห์ที่สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย ผ่านการต่อสู้อันดุเดือดของรายการฟุตบอลที่มีแฟนบอลติดตามทั่วโลก
ที่สุดแล้วไม่ว่าการแข่งขันอาจจะจบลงด้วยชัยชนะของทีมไหนก็ตาม แต่ความเป็นเลือดนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ในรายการ คาราบาว คัพ บ่งบอกถึงความเข้มข้นและความสนุกสนานของเกมกีฬา ที่ลงท้ายด้วยการประสบความสำเร็จของแต่ละทีมที่มีเป้าหมายต่างกัน ทั้งทีมใหญ่ที่ได้แชมป์ หรือทีมเล็กที่ได้เป็นที่รู้จักและมีโอกาสแสดงตัวตนของพวกเขาให้โลกได้เห็น และอาจทำให้นักเตะจากลีกล่างได้รับโอกาสในการไปค้าแข้งกับทีมที่ใหญ่กว่าในอนาคต
และเหนือสิ่งอื่นใดการได้เข้ามาสนับสนุนฟุตบอล คาราบาว คัพ ถือเป็นความสำเร็จของเครื่องดื่มคาราบาวแดงอย่างแท้จริง เพราะตอนนี้ใคร ๆ ต่างก็รู้จักพวกเขาในระดับที่แค่เห็นโลโก้ก็ร้องอ๋อได้ไม่ยาก เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จในฐานะแบรนด์ระดับ World Class อย่างแท้จริง
