Feature

สุดเท่แบบสามแถบ : เปิดที่มาของเสื้อทีมชาติในฟุตบอลโลกจาก adidas

เสื้อแข่งขันฟุตบอล คือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของทีมใดทีมหนึ่งที่สวมใส่ ตลอดจนสัญญะที่ต้องการสื่อสารให้โลกรับรู้ ผ่านลวดลวยการออกแบบและสีสัน เพราะทุกสิ่ง ล้วนมีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่เสมอ

 


เสื้อฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะ adidas ได้นำเสนอเรื่องราว แรงบันดาลใจ ผ่านเสื้อทีมต่าง ๆ ที่พวกเขาให้การสนับสนุน ทั้งสะท้อนประวัติศาสตร์ และการเรียกร้องต่อสังคม

อาภรณ์ของทั้ง 7 ทีมที่สวมชุดแข่งค่ายสามแถบมีสตอรี่อย่างไรบ้าง Main Stand ขอหยิบยกนำมาเสนอกัน

 

เยอรมนี

เนื่องจาก adidas คือแบรนด์อุปกรณ์กีฬาจากประเทศเยอรมนี อีกทั้งยังมีความผูกพันทางประวัติศาสตร์กับทีมอินทรีเหล็กอย่างยาวนาน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ค่ายสามแถบพร้อมจัดเต็มให้ตัวแทนของชาติเหมือนเช่นเคย

"ประวัติศาสตร์" ถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจของการออกแบบเสื้อแข่งทีมชาติเยอรมนีในฟุตบอลโลก 2022 อีกครั้ง หลังจากที่เราได้เห็นการนำลวดลวยของเสื้อแข่งทีมอินทรีเหล็กที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 มาดัดแปลกสู่เสื้อแข่งในฟุตบอลโลก 2018

มาครั้งนี้ พวกเขาย้อนกลับไปไกลเอามาก ๆ ด้วยลายทางยาวแถบใหญ่ตรงกลางเสื้อ โดยแรงบันดาลใจนี้ มาจากเสื้อแข่งตัวแรกของทีมชาติเยอรมนี ที่สามารถย้อนกลับไปไกลถึงปี 1908 เลยทีเดียว พร้อมสะท้อนตัวตนของชาติ ด้วยการนำธงชาติเยอรมนี แต่งเติมสีสันที่คอเสื้อกับข้างลำตัวอีกด้วย

ส่วนเสื้อเยือน พวกเขากลับมาใช้สีแดงเป็นองค์ประกอบสำคัญอีกครั้ง หลังครั้งล่าสุดต้องย้อนไปถึงตอนฟุตบอลโลก 2014 ที่ทัพอินทรีเหล็กคว้าแชมป์โลกสมัย 4 ถ่ายทอดจิตวิญญาณของทีมด้วยการใช้สีสันของธงชาติและตกแต่งด้วยตัวอักษร D ที่มาจากคำว่า “Deutschland” แสดงให้ถึงสไตล์การเล่นฟุตบอลแบบไดนามิกของทีมชาติชุดนี้

 

สเปน

เสื้อเหย้าของทีมชาติสเปน ถูกออกแบบจากตัวตนด้านการเล่นฟุตบอลอันเป็นเอกลักษณ์ มีการใช้สีแดงเข้มที่มีความโดดเด่นเหนือกาลเวลา ประดับด้วยแถบสีจากธงชาติสเปนที่บริเวณคอเสื้อและด้านข้างลำตัว

ส่วนเสื้อเยือน มีลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโลโก้ของทีมชาติเมื่อปี 1982 ซึ่งสเปนได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีนั้น

 

อาร์เจนตินา

สิทธิความเท่าเทียมกัน ถือเป็นสิ่งที่สังคมโลกกำลังเรียกร้องให้เกิดขึ้น และสิ่งนี้ได้สะท้อนผ่านเสื้อแข่งของทีมชาติอาร์เจนตินาในฟุตบอลโลก 2022

เนื่องจากเสื้อเหย้าของทีมฟ้าขาว อย่างไรเสียก็ต้องมากับสีฟ้าและสีขาว การสะท้อนถึงเรื่องดังกล่าวจึงมาในเสื้อเยือน ที่มาพร้อมกับสีม่วง สีที่แสดงถึงความเท่าเทียมทางเพศ และสะท้อนถึงความภูมิใจในบ้านเกิด ด้วยการผสมผสานลวดลายเปลวไฟ ที่มาจากดวงอาทิตย์แห่งเดือนพฤษภาคม (Sun of May) ที่มาจากธงชาติอาร์เจนตินา

ส่วนเสื้อเหย้า พวกเขายังคงมาในภาพลักษณ์ที่คุ้นเคย กับเสื้อลายทางตั้งสีฟ้าขาว เพิ่มเติมลูกเล่นที่ด้านหลังเสื้อ กับลายทางตั้งที่เล็กกว่าเดิมช่วงกลาง และดวงอาทิตย์แห่งเดือนพฤษภาคมจากธงชาติ

 

ญี่ปุ่น

แม้อาจจะไม่ได้มีผลงานระดับยักษ์ใหญ่ แต่ความรุ่มรวยด้านวัฒนธรรม ถือเป็นสารตั้งต้นที่ทำให้เสื้อแข่งทีมชาติญี่ปุ่นนั้นมีสีสันให้ได้กล่าวถึงเสมอ

เสื้อเหย้าของทีมซามูไรบลู เป็นอีกครั้งที่พวกเขานำของดีประจำชาติมานำเสนอผ่านเสื้อฟุตบอล นั่นคือ "โอริกามิ" ศิลปะการพับกระดาษที่ถูกถ่ายทอดสู่ลวดลายเสื้อ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการพับนกกระดาษ 2.7 ล้านตัว เพื่อฉลองให้แก่ชัยชนะของญี่ปุ่นในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมฟุตบอลโลก 2002

ส่วนเสื้อเยือน ใช้เทคนิค Anaglyph ที่ทำให้เป็นเหมือนภาพสามมิติที่มีสีน้ำเงินและแดงปรากฏตัวบนเนื้อผ้า ด้วยลวดลายกราฟิกโอริกามิที่แสดงให้เห็นถึงความรวดเร็ว สะท้อนสไตล์การเล่นอันคล่องตัวของทีมชาติญี่ปุ่น

ดีไซเนอร์เปรียบเปรยการพับกระดาษทบไปทบมา เหมือนกับทีมชาติญี่ปุ่น ที่ผ่านทั้งช่วงตกต่ำ กับ "โศกนาฏกรรมโดฮา" ที่พวกเขาพลาดไปแข่งฟุตบอลโลก 1994 รอบสุดท้าย ในทัวร์นาเมนต์รอบคัดเลือกที่กรุงโดฮา และช่วงรุ่งเรือง กับการเป็นขาประจำในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาโดยตลอดหลังจากนั้นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งฟุตบอลโลก 2022 ทัพซามูไรบลูจะไปบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่บนดินแดนที่เคยมอบฝันร้ายให้กับพวกเขา

ไม่เพียงเท่านั้น ยังใช้มังงะฟุตบอลดังแห่งยุค 2020s อย่าง Blue Lock ขังดวลแข้ง และ Giant Killing มาร่วมโปรโมตเสื้อแข่งทีมชาติญี่ปุ่นอีกด้วย

 

เวลส์

นี่คือครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1958 ที่เวลส์ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก การกลับมาครั้งนี้ ย่อมสะท้อนผ่านเสื้อแข่งที่เป็นเอกลักษณ์ให้จดจำ


เสื้อเหย้าสีแดง ได้แรงบันดาลใจจากมังกร สะท้อนจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจ ส่วนเสื้อเยือน มากับสีขาวตามสีธงชาติ ส่วนคอเสื้อเป็นรูปตัววี ที่สะท้อนถึงทีมชาติเวลส์เมื่อครั้งอดีต

 

เบลเยียม

เสื้อแข่งขันเหย้าของทีมชาติเบลเยียม มีการใช้สีแดงเป็นหลักและตกแต่งรายละเอียดต่างๆ บนเสื้อด้วยสีดำและสีเหลือง เพื่อแสดงถึงสีของธงชาติเบลเยียม บริเวณแขนเสื้อทั้งสองข้างมีการตกแต่งด้วยลวดลายเปลวไฟที่สื่อถึงปีศาจ สมฉายา "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ข่มขวัญทีมคู่แข่งในขณะแข่งขันกับทีมชาติเบลเยียม


ส่วนเสื้อเยือน เป็นร่วมมือกันของสมาคมฟุตบอลเบลเยียม, งาน Tomorrowland และ adidas จนเกิดชุดสีขาว แฝงความคัลเลอร์ฟูล และคำว่า LOVE ที่คอเสื้อ สะท้อนถึงจิตวิญญาณของงาน Tomorrowland มิวสิกเฟสติวัลสาย EDM อันดับ 1 ของโลก

 

เม็กซิโก

เม็กซิโก คืออีกชาติที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน ตลอดจนมีวัฒนธรรมอันโดดเด่น และนี่ถือเป็นสารตั้งต้นชั้นดีของการออกแบบ

ถือเป็นอีกครั้งที่เสื้อแข่งของทีมชาติเม็กซิโกโดดเด่นสะดุดตา เสื้อเหย้าสีเขียว สะท้อนจิตวิญญาณของชาติด้วยลวดลายที่หยั่งรากลึกในวัฒนธรรมเม็กซิโก ส่วนเสื้อเยือนสีครีม รับอิทธิพลมาจากอารยธรรมโบราณ และมีการใช้ศิลปะ Mixtec แสดงถึงจิตวิญญาณนักสู้ของทีม

โดยทั้งสองชุด มีการนำ Quetzalcoatl เทพแห่งแอซเท็กติดไว้ที่บริเวณคอเสื้อ เพื่อแสดงถึงพลังความสามารถของมวลมนุษยชาติ เพื่อเป็นพลังในการเจอกับคู่ต่อสู้สุดแกร่ง

หมายเหตุ เสื้อทีมชาติแม็กซิกโก พบกันเร็วๆนี้ที่ Ari Fiotball

 

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถจับจองเสื้อทีมชาติต่าง ๆ ได้แล้วที่ Ari Football และ www.arifootballstore.com โดยมีวางจำหน่ายทั้งเกรดนักเตะ ราคา 4,600 บาท และเกรดแฟนบอล ราคา 2,900 บาท

 

Author

เจษฎา บุญประสม

Content Creator ผู้ชื่นชอบการกิน, ท่องเที่ยว และดูกีฬาแทบทุกประเภท โดยเฉพาะฟุตบอล, อเมริกันเกมส์, มอเตอร์สปอร์ต, อีสปอร์ต

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น