Feature

เรียว อิชิซากิ : "เพื่อนสึบาสะ" ที่ใช้พรแสวงมากว่าพรสวรรค์ | Main Stand

แม้ว่าแก่นเรื่องของ "กัปตันสึบาสะ" จะเป็นเรื่องราวการผจญภัยในโลกฟุตบอลของ โอโซระ สึบาสะ แต่ชีวิตพวกพ้องของเขาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน หนึ่งในนั้นคือชายที่ชื่อว่า เรียว อิชิซากิ 


 

เขาคือเพื่อนสนิทที่สุดของสึบาสะ แต่ฝีเท้ากลับตรงกันข้าม ไม่มีทั้งเทคนิค และพรสวรรค์ แถมบางทียังเฟอะฟะ หรือเป็น "บ่อ" ให้คู่แข่งเล่นงาน 

แต่ถึงอย่างนั้น เขากลับติดในทีมชุดเดียวกับสึบาสะแทบทุกชุด ตั้งแต่ทีมโรงเรียน ทีมชาติชุดเยาวชน ไปจนถึงชุดโอลิมปิก เขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ร่วมติดตามไปพร้อมกับ Main Stand 

 

นักเตะจอมเฟอะฟะ 

หากพูดถึงมังงะกัปตันสึบาสะ นอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นแล้ว ความเก่งกาจของตัวละครระดับยอดมนุษย์ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยม และทำยอดขายไปถึงหลายสิบล้านเล่ม 

ไม่ว่าจะเป็นฝั่งญี่ปุ่น ทั้ง สึบาสะ, เก็นโซ วาคาบายาชิ, โคจิโร ฮิวงะ, ทาโร มิซากิ, ชินโง อาโออิ หรือต่างชาติอย่าง คาร์ล ไฮน์ซ ชไนเดอร์, สเตฟาน เลวิน หรือ คาร์ลอส ซันตานา 

แต่ เรียว อิชิซากิ ไม่น่าจะอยู่ในกลุ่มนี้ แม้ว่าเขาจะเป็นตัวละครที่ปรากฏตัวตั้งแต่ตอนที่ 1 ในฐานะกัปตันทีมของโรงเรียนประถมนันคัตสึ และเป็นเพื่อนคนแรกของสึบาสะในเมืองนันคัตสึ (หลังเพิ่งย้ายมา) แต่ฝีเท้าเขากลับต่างจากเพื่อนสนิทราวฟ้ากับเหว  

เพราะหาก สึบาสะ คืออัจฉริยะ อิชิซากิ คือขั้วตรงข้าม เมื่อเขาไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่มีทั้งเทคนิค และความเร็ว แถมยังไร้พรสวรรค์ จนกลายเป็นจุดอ่อนของทีมที่คู่ต่อสู้เอาไว้เล่นงาน 

"ถ้าเป็นอิชิซากิ ก็หวานหมูสิ" นักเตะชูเท็ตสึบอกกับเพื่อนร่วมทีม หลัง อิชิซากิ ขอเป็นคนไล่บอลเพื่อทำลายกลยุทธ์กรงนกของคู่แข่ง ซึ่งอธิบายชื่อเสียงในแง่ลบของเขาได้เป็นอย่างดี 

ทำให้ในช่วงแรก อิชิซากิ เป็นเพียงแค่ตัวสำรองของทีมประถมเมืองนันคัตสึ (หลังผ่านคัดเลือกเข้าทีมมาได้อย่างหวุดหวิด) แถมเมื่อได้รับโอกาสลงเล่น เขาก็มักจะโชว์ช็อตเหวออยู่เป็นประจำ  

ตัวอย่างชัดเจนที่สุดคือเกมประเดิมสนามในศึกฟุตบอลประถมชิงแชมป์แห่งชาติ ที่พบกับ ฮานาวะ เอฟซี ของสองพี่น้องทาจิบานะ เมื่อแค่เพียงนาทีแรกที่ถูกเปลี่ยนตัวลงไปแทนผู้เล่นบาดเจ็บ เขาก็สร้างหายนะให้ทีมทันที หลังพยายามเคลียร์บอลไปข้างหน้าแต่กลับผิดเหลี่ยม เข้าประตูตัวเองไปแบบช็อคคนดูทั้งสนาม 

"ยังครับ โมริซากิ ต่อยบอลออกไปได้ แล้วคนที่ได้บอลคือ อิชิซากิ ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมา อ๊ะ อิชิซากิ เตะพลาดครับ แย่แล้วเตะบอลเข้าประตูตัวเอง นันคัตสึ ฆ่าตัวตายโดยแท้เลย" เสียงโฆษกในสนามบรรยาย

และมันทำให้ อิชิซากิ ในช่วงแรกเป็นที่จดจำในฐานะนักเตะจอมเฟอะฟะและซุ่มซ่าม ที่หากได้ลงสนามเมื่อไร เพื่อนร่วมทีมมักหายใจไม่ทั่วท้อง และเป็นเหมือนตัวตลกประจำทีมอยู่เสมอ 

แต่ถึงอย่างนั้น เขากลับมีอะไรที่ซ่อนอยู่

 

ความขยันเข้าแลก 

จริงอยู่ที่ อิชิซากิ อาจจะไม่ได้มีความสามารถทางกายโดดเด่น และดูเป็นนักเตะที่ฝีเท้าด้อยที่สุดในกลุ่มเพื่อนสึบาสะ แต่เขายังมีสิ่งหนึ่งที่ช่วยผลักดันตัวเองไปข้างหน้า นั่นคือความขยัน

การไม่ได้เป็นนักเตะพรสวรรค์ ทำให้ อิชิซากิ ต้องซ้อมหนักมากกว่าใคร และถึงเขาจะบ่นกระปอดกระแปด แต่สุดท้ายก็ยอมทำตาม ไม่ว่าจะเป็นทั้งตอนคัดเลือกเข้าทีมนันคัตสึระดับประถม หรือหลังติดทีมชาติ 

นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เล่นที่มีความพยายาม และไม่ดำดิ่งกับความผิดพลาดของตัวเอง ทุกครั้งที่เขาทำผิด เขาก็จะพยายามให้หนักขึ้นเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดอยู่เสมอ โดยตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือในนัดประเดิมสนามกับ ฮานาวะ เอฟซี 

"ที่นันคัตสึถูกนำอยู่ขณะนี้ก็เพราะเรา ทุกคนสู้กันแทบตายกว่าจะมาถึงจุดนี้ เราจะทำให้ความพยายามของทุกคนสูญเปล่าได้ยังไง" อิชิซากิพูดหลังยิงเข้าประตูตัวเอง 

สุดท้ายเขาจะแก้ตัวได้สำเร็จ ด้วยการตัดบอลให้ทีมในจังหวะสำคัญ และกลายเป็นผู้ทำแอสซิสต์ หลังพยายามยิงไกล แต่โดน มิซากิ แหย่เท้าเปลี่ยนทางเป็นประตูตีเสมอให้ทีม ก่อนจะพลิกเอาชนะไปอย่างเฉียดฉิว 

"อีกคนที่จะมองข้ามไปไม่ได้คือ อิชิซากิ ที่เคยทำพลาดเข้าประตูตัวเอง แต่ก็พยายามแก้ตัวจนสำเร็จด้วยการตัดบอลมาได้อย่างงดงาม" โฆษกบรรยายหลังเกม 

แต่สิ่งที่ทำให้เขามีตัวตนมากที่สุดคือความใจกล้าและบ้าบิ่น ด้วยความที่ อิชิซากิ รู้ดีว่าตัวเองไม่ได้มีทักษะโดดเด่นเหมือนกับคนอื่น จึงต้องใช้สิ่งนี้เข้าแลก และทำให้เขาเป็นนักเตะที่ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ที่พร้อมพุ่งเข้าหาทุกคน 

และมันก็ทำให้ทักษะที่โดดเด่นที่สุดของ อิชิซากิ กลายเป็นการใช้ "หน้า" โดยท่าไม้ตายที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขาคือท่า "บล็อคด้วยหน้า" ซึ่งเป็นการใช้หน้าป้องกันลูกยิงของคู่แข่ง และถูกใช้ครั้งแรกในเกมนัดชิงชนะเลิศกับ เมวะ เอฟซี 

ความโดดเด่นเรื่อง "หน้า" ยังทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีท่าไม้ตายที่ใช้หน้าเกือบทุกท่าในเกมมือถือที่ชื่อ Captain Tsubasa: Dream Team ไม่ว่าจะเป็น Face Tackle (สกัดด้วยหน้า) ที่เป็นการเข้าสกัดผิดพลาดก่อนใช้หน้ารับบอล ไปจนถึง Face Pass (ส่งด้วยหน้า) ที่ใช้หน้าโหม่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมตอนใกล้จะล้ม   

แถมใน Captain Tsubasa: Rising Sun ซึ่งเป็นภาคโอลิมปิก อิชิซากิ ยังโชว์ทักษะ "จับบอลด้วยหน้า" ก่อนจะสร้างความฮือฮาด้วยการทำ Heel Lift จนทำให้คนดูทั้งสนาม (รวมไปถึงคนอ่าน) อึ้งมาแล้ว 

อย่างไรก็ดี เขายังมีดีมากกว่านี้ 

 

พระเอกยามคับขัน 

แม้ว่า อิชิซากิ จะไม่ได้เป็นนักเตะที่เก่งกาจ แต่ต้องยอมรับว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีบทบาทไม่น้อยกว่าใครในกลุ่มเพื่อนพระเอก แถมบางครั้งยังโดดเด่นกว่า สึบาสะ เสียอีก 

ด้วยความใจกล้าและบ้าบิ่น บวกกับความขยัน ทำให้ อิชิซากิ กลายเป็นผู้ช่วยชีวิตทีมในยามวิกฤติ ไม่แพ้ วากาบายาชิ หรือ สึบาสะ ต่างกันแค่เขาไม่ใช้เท้าหรือมือ แต่เป็น "ใบหน้า" ที่เป็นอาวุธลับของเขา 

ไม่ว่าจะเป็นการพุ่งเอาหน้ารับลูกยิงของ ฮิวงะ อย่างไม่เกรงกลัวในนัดชิงชนะเลิศสมัยประถม หรือใช้หน้าสกัดบอลออกจากเส้นในนัดพบกับ ฮานาวะ เอฟซี ในศึกชิงแชมป์มัธยมต้น หรือประสานงานกับ สึบาสะ ด้วยการเอาหน้าบล็อคลูกยิงไทเกอร์ช็อตของ ฮิวงะ ในช่วงท้ายเกมในนัดชิงชนะเลิศกับ โตโฮ ในปีเดียวกัน 

"เพราะนายพุ่งมาขวางไว้ก่อนหรอก ไม่งั้นฉันก็คงไม่ทัน แบบนี้พอจะเรียกว่าการประสานงานของเราได้มั้ยนะ นายกับ มิซากิ ได้ชื่อว่าคู่ประสานแข้งทอง ฉันเอาแค่แข้งตะกั่วก็แล้วกัน" อิชิซากิ บอกกับ สึบาสะ อย่างถ่อมตัว

"ไม่ใช่หรอก อิชิซากิ เมื่อครู่นี้นายทำได้ดีมากเลย ถือเป็นการประสานงานที่ยอดเยี่ยมมาก" เพื่อนร่วมทีมบอกกับ อิชิซากิ 

เช่นกันสำหรับในนามทีมชาติ เมื่อเขากลายเป็นฮีโร่ที่ช่วยทีมเอาไว้ได้หลายครั้ง ทั้งโหม่งเคลียร์บอลได้อย่างหวุดหวิดในนาทีสุดท้ายในรอบรองชนะเลิศศึกจูเนียร์ยูธกับอาร์เจนตินา จนทำให้ญี่ปุ่นเอาชนะไปได้ 5-4 หรือเอาตัวขวางลูกยิงของ ชไนเดอร์ จนสลบเหมือด 

และไม่ใช่แค่เกมรับเท่านั้น ในเกมรุกเขาก็ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอ อย่างล่าสุดในภาค Rising Sun คือการเป็นผู้เปิดบอลให้ สึบาสะ และมิซากิ ทำท่าไม้ตาย "ไฮสปีด ทอร์นาโด สกายอัลฟา" ที่เพิ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่ ในนัดพบกับเยอรมัน (แม้ว่าสุดท้ายจะโดน ชไนเดอร์ สกัดได้ก็ตาม)  

แต่สิ่งสำคัญที่สุดของ อิชิซากิ คือสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง ที่บางครั้งอาจจะเหนือกว่า สึบาสะ ด้วยซ้ำ หลายครั้งที่ทีมตามหลังจนเพื่อนร่วมทีมหมดหวัง หรือเล่นกันจนหมดแรง อิชิซากิ จะเป็นคนกระตุ้น และคอยปลุกใจให้เพื่อนร่วมทีมกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง 

ตัวอย่างเช่นสมัยนักเรียนอย่างตอนพบกับ เมวะ เอฟซี ในนัดชิงแชมป์ระดับประถม ที่ สึบาสะ, วากาบายาชิ และ มิซากิ ได้รับบาดเจ็บ จากการเล่นหนักของคู่แข่งจนกรอบ ก็ได้ อิชิซากิ เป็นคนทำให้ทีมไม่ยอมแพ้ หรือในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลมัธยมต้นที่พบกับโตโฮ ที่เขาเป็นคนทำให้ สึบาสะ ฉุกคิด 

"สึบาสะ พวกเราไม่ใช่เพื่อนนายหรือไง" อิชิซากิ พูดกับ สึบาสะ ที่พยายามดึงดังเล่นบอลคนเดียว ก่อนที่ สึบาสะ จะได้สติ "ข้างหลังเรายังมีเพื่อน ยังมีทุกคน ไม่ได้มีเราคนเดียว เราไม่ได้สู้คนเดียว" 

หรือในศึกจูเนียร์ยูธนัดชิงชนะเลิศกับเยอรมัน หลัง สึบาสะ โดนเวทีระดับโลกเล่นงานจนหมดสภาพ อิชิซากิ ก็เป็นคนพูดกระตุ้นเพื่อนสนิทจนกลับมานำทีมกลับมาได้อีกครั้ง ก่อนสุดท้ายจะเอาชนะไปได้ 3-2 และคว้าแชมป์ยุวชนโลกได้สำเร็จ 

"ลุกขึ้นมา สึบาสะ ถ้าไม่บาดเจ็บ สึบาสะ จะไม่เป็นอย่างนี้เด็ดขาด อาการบาดเจ็บของ สึบาสะ จากการแข่งขันฟุตบอลแห่งชาติยังไม่หายดี ซึ่งมันควรเป็นอย่างนั้นเพราะ สึบาสะ พักไม่ถึงเดือน" อิชิซากิ ตะโกนใส่สึบาสะจากข้างสนาม 

"แต่ถึงบาดเจ็บ นายก็กัดฟันสู้มาจนถึงขนาดนี้ ได้โปรดลุกขึ้นมา สึบาสะ มีแต่นายเท่านั้นที่จะยิงประตูชัยให้เรา ฉันคบกับนายมานานกว่าทุกคน ฉันย่อมรู้ดีมากกว่าใคร คนที่ทำให้ความฝันของเราเป็นจริงได้ มีแต่นายเท่านั้น สึบาสะ" 

สิ่งเหล่านี้หลอมรวมทำให้ อิชิซากิ กลายเป็นนักเตะที่แข็งแกร่งคนหนึ่งของมังงะเรื่องนี้ ที่ทำให้เขาอยู่ในทีมเดียวกับ สึบาสะ ในแทบทุกชุด ไม่ว่าจะเป็นทีมประถมนันคัตสึ ทีมมัธยมต้นนันคัตสึ ไปจนถึงระดับทีมชาติญี่ปุ่น ตั้งแต่ชุดจูเนียร์ยูธ เยาวชนโลก ไปจนถึงชุดโอลิมปิก 

แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดสำหรับชายคนนี้ 

 

ตัวแทนความเป็นมนุษย์ 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเป็นนักเตะที่ไม่ได้มีฝีเท้าที่โดดเด่นตั้งแต่แรก แถมไม่ได้มีท่าไม่ตายที่เวอร์วังอลังการ หรือมีเทคนิคเชิงสูงเหมือนกับผู้เล่นระดับชั้นนำ แต่สามารถพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้ ทำให้ อิชิซากิ เป็นหนึ่งในตัวละครที่มีเสน่ห์ของมังงะเรื่องนี้ 

ทำให้แม้ว่า อิชิซากิ และเพื่อนร่วมทีมจะบอกว่า การที่เขามาได้ถึงจุดนี้ เพราะการได้เป็นเพื่อนของ สึบาสะ ที่ช่วยสนับสนุน แต่ สึบาสะ กลับไม่เห็นด้วย และมองว่าเป็นเพราะความพยายามของ อิชิซากิ เอง 

"ไม่ใช่หรอก เพราะ อิชิซากิ มีความพยายามต่างหาก อิชิซากิ ได้รับเลือกก็เพราะความสามารถของ อิชิซากิ เอง" สึบาสะ บอกกับเพื่อนร่วมทีม 

นอกจากนี้ สึบาสะ เองก็ยอมรับว่าเขาเองก็ได้อิทธิพลจากจาก อิชิซากิ มาไม่น้อย ที่กลายเป็นแรงผลักดันทำให้เขาฮึดสู้และฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ จนก้าวขึ้นมาเป็นยอดนักเตะคนหนึ่งของโลก 

"ขอบคุณมาก อิชิซากิ ตอนนั้นย้ายเข้ามานันคัตสึ เพื่อนคนแรกที่เจอนาย เหตุผลหนึ่งที่ฉันปฏิเสธข้อเสนอของโตโฮก็คือนาย เพราะนายเลือกนันคัตสึ ฉันถึงเลือกนันคัตสึ" สึบาสะ บอกกับ อิชิซากิ หลังบล็อคลูกยิง ชไนเดอร์ จนสลบเหมือด  

สิ่งนี้คือความตั้งใจของ โยอิจิ ทาคาฮาชิ ผู้แต่งเรื่องนี้ ที่อยากให้ อิชิซากิ เป็นตัวแทนของมนุษย์คนธรรมดา ที่ใช้ความตั้งใจและความอดทนจนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะเด่นของเรื่อง และขึ้นมาอยู่เคียงข้างนักเตะอัจฉริยะอย่าง สึบาสะ ได้  

"เนื่องจากทั้ง สึบาสะ และ วาคาบายาชิ เป็นอัจฉริยะ อิชิซากิคุงจึงเป็น 'ตัวแทนของคนธรรมดา' และด้วยความที่เป็นคนธรรมดา ไม่มีพรสวรรค์ จึงต้องพยายามเพื่อให้ได้ติดทีมชาติและอยู่กับสึบาสะตลอด" ทาคาฮาชิ อธิบายกับ Davinchi News 

ในขณะเดียวกัน อิชิซากิ เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักอ่านทั่วไป ได้ลองพยายามทำอะไรซักอย่าง โดยมีตัวอย่างว่าขนาด อิชิซากิ ที่ไม่ได้เก่งกาจก็ยังทำได้ขนาดนี้ 

และมันก็ทำให้เขากลายเป็นตัวละครที่เป็นที่จดจำ ในฐานะคนที่ใช้พรแสวงเอาชนะพรสวรรค์อย่างแท้จริง 

"เพราะผู้อ่านทั่วไปไม่ได้เป็นอัจฉริยะ ผมจึงวาดให้เห็นว่าการไล่คว้าความฝันจำเป็นต้องใช้ความพยายามและความอดทน อาจจะพูดได้ว่าเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังพระเอกที่แท้จริง" ทาคาฮาชิ ทิ้งท้าย

 

แหล่งอ้างอิง

มังงะ Captain Tsubasa 
https://captaintsubasa.fandom.com/wiki/Ryo_Ishizaki 
https://ddnavi.com/interview/486861/a/ 

Author

มฤคย์ ตันนิยม

ลีดส์ ยูไนเต็ด, ญี่ปุ่น, มังงะ

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น