หากกล่าวถึงทีมฟุตซอลที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นที่สุดในประเทศไทย “สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ” คงเป็นชื่อเดียวที่ผู้คนนึกถึง เพราะถ้าเราย้อนดูเกมฟุตซอล 5 นัดที่มีผู้ชมมากที่สุด ทั้งหมดล้วนเป็นการแข่งขันในสนาม “ช้าง ตาปี อารีนา” ทั้งสิ้น
ความสำเร็จตรงนี้สวนทางกับความจริงที่ว่า สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ไม่เคยคว้าแชมป์ลีกอาชีพ และประสบปัญหาการเงินจนเกือบยุบทีม แต่ด้วยแรงสนับสนุนจากแฟนบอล ทัพกุ้งสายฟ้าจึงกลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง และยังคงแหวกว่ายบนสนามฟุตซอลมาจนถึงปัจจุบัน
สโมสรฟุตซอลประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี กลายเป็นความภาคภูมิใจของชาวเมืองได้อย่างไร ? นี่คือเรื่องราวของ สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ สโมสรกีฬาที่ยังหายใจ และเดินหน้าต่อไปด้วยแรงสนับสนุนจากแฟนบอลท้องถิ่น
ทีมกีฬาเพื่อชาวสุราษฎร์ธานี
สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ก่อตั้งขึ้นจากความรักในเกมลูกหนังของ อนงค์ ล่อใจ ผู้ประกอบธุรกิจค้ากุ้งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเล็งเห็นถึงกระแสกีฬาฟุตซอลที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ และมีแนวคิดอยากตั้งทีมฟุตซอลประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้น เพื่อสร้างทีมกีฬาของผู้คนในจังหวัดอย่างแท้จริง
อนงค์ พร้อมด้วยพรรคพวกผู้ประกอบธุรกิจค้ากุ้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงรวมตัวกันเพื่อผลักดันความตั้งใจนั้นให้เกิดขึ้นจริง ฤดูกาล 2007-08 แฟนกีฬาชาวไทยจึงมีโอกาสยลโฉมทีมฟุตซอลหน้าใหม่ “กุ้งสายฟ้า สุราษฎร์ธานี” ที่ลงแข่งขันลีกอาชีพเป็นครั้งแรก
Photo : Suratthani Futsal Club - กุ้งสายฟ้า
ในช่วงเริ่มต้น กุ้งสายฟ้า สุราษฎร์ธานี เลือกใช้นักฟุตซอลหน้าใหม่ที่ไม่มีชื่อเสียง ผลงานของทีมจึงไม่โดดเด่นนัก โดยฤดูกาลแรกที่พวกเขาลงแข่งขันในฟุตซอลไทยลีก สุราษฎร์ธานีจบที่อันดับ 10 ของตาราง ตามด้วยอันดับ 8 และ 6 ในอีกสองฤดูกาลถัดมา
พัฒนาการที่ดีขึ้นต่อเนื่องบนตารางคะแนน อาจทำให้ผู้บริหารสโมสรพึงพอใจได้บ้าง เมื่อบวกกับความสำเร็จในแง่ของการสร้างงานแก่เยาวชนในพื้นที่ เมื่อนักเตะบางรายของ กุ้งสายฟ้า สุราษฎร์ธานี ถูกซื้อตัวโดยสโมสรฟุตซอลชั้นนำของประเทศ ความสำเร็จตรงนี้ถือเป็นความภูมิใจขั้นแรกของผู้บริหารทีมฟุตซอลสุราษฎร์ธานี
แต่อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า ความตั้งใจแรกของ อนงค์ ล่อใจ ในการก่อตั้งทีมฟุตซอลประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือการสร้างทีมกีฬาที่เป็นตัวแทนของคนในพื้นที่และสร้างความนิยมไปทั่วจังหวัด ซึ่งในแง่มุมนี้ สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ยังล้มเหลว เพราะจนถึงฤดูกาล 2011 ทีมแทบจะไม่มีกองเชียร์เข้ามาให้กำลังใจเลย เนื่องจากการแข่งขันฟุตซอลไทยลีก หมุนเวียนเตะตามสนามกลางในกรุงเทพมหานคร
“ปี 2011 ที่ผมเข้ามาทำทีม นัดแรกมีคนดู 5 คน เพราะว่าเตะสนามกลาง ตามห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ ตอนนั้น กองเชียร์ยังไม่มี มีแต่ทีมงานสโมสรกับครอบครัวนักกีฬา ผมจึงขอร้องกับฝ่ายจัดการแข่งขันให้หมุนเวียนมาเตะตามต่างจังหวัดบ้าง เพื่อให้คนสุราษฎร์ฯ ที่ติดตามทีมเราเข้ามาดูที่สนามได้” แทน เทือกสุบรรณ ประธานสโมสรสุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ให้สัมภาษณ์กับ Main Stand
สุราษฎร์ธานี จึงยื่นเรื่องไปยังฝ่ายจัดการแข่งขัน ขอจัดเกมฟุตซอลไทยลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2011 ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ เพราะไม่ใช่แค่ กุ้งสายฟ้า สุราษฎร์ธานี ที่จะได้โอกาสไปลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลในจังหวัด แต่ยังหมายถึงการวัดกระแสกีฬาฟุตซอลในพื้นที่ เพราะทุกทีมในลีกจะลงแข่งขันที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเช่นเดียวกัน
ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าผลลัพธ์จากการตัดสินใจครั้งนี้ของสุราษฎร์ธานีจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เราเห็นได้ชัด คือความตั้งใจในการสร้างกระแสฟุตซอลระดับท้องถิ่น และผลักดัน สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ให้เป็นทีมกีฬาประจำจังหวัดที่ชาวเมืองทุกคนภาคภูมิใจ
สร้างประวัติศาสตร์ที่ช้าง ตาปี อารีนา
เมื่อการแข่งขันฟุตซอลไทยลีกนัดสุดท้ายประจำฤดูกาล 2011 เดินทางมาถึงสุราษฎร์ธานี ผู้คนในจังหวัดตื่นตัวกันมากกับการแข่งขันครั้งนี้ เพราะนอกจากพวกเขาจะได้ส่งเสียงเชียร์ทีมฟุตซอลบ้านเกิดแล้ว ยังถือเป็นโอกาสดีที่จะได้รับชมฝีเท้าของนักฟุตซอลระดับทีมชาติไทย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่นักกีฬาในพื้นที่
Photo : Suratthani Futsal Club - กุ้งสายฟ้า
ยิมเนเซียม สนามกีฬากลาง จ.สุราษฎร์ธานี จึงอัดแน่นด้วยกองเชียร์มากกว่า 3 พันคน ที่เข้ามารอชมการแข่งขันฟุตซอลไทยลีก ส่วนบรรยากาศหน้าสนามก็คึกคักไม่ต่างจากการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติ เสื้อแข่งขันของทีมสุราษฎร์ธานีขายหมดเกลี้ยง แสดงให้เห็นว่าชาวเมืองพร้อมสนับสนุนทีมฟุตซอลประจำจังหวัดแค่ไหน
เสียงเชียร์จากกองเชียร์ทั่วสนามคือพลังที่ผู้เล่นต้องการมากที่สุด ชาวสุราษฎร์ธานีแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสำคัญแค่ไหนในการแข่งขัน เมื่อสุราษฎร์ธานีเปิดบ้านเอาชนะการท่าเรือ 8-2 ชัยชนะครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ชื่อของ สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ติดแน่นอยู่ในใจแฟนกีฬาสุราษฎร์ธานีตลอดมา
นับแต่นั้น แฟนบอลที่เข้ามาสนับสนุน สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ถึงสนามแข่งขันจะมีอย่างน้อย 2,000 คนต่อนัด สวนทางกับทีมฟุตซอลอื่นที่ประสบปัญหาผู้ชมในสนามลดลง แต่สำหรับ ยิมเนเซียม สนามกีฬากลาง จ.สุราษฎร์ธานี หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในนาม “ช้าง ตาปี อารีนา” ยังคงเป็นรังเหย้าที่ขีดเขียนประวัติศาสตร์แก่วงการฟุตซอลไทยมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ฤดูกาล 2015 สนามช้าง ตาปี อารีนา ต้อนรับแฟนบอล 4,600 คน ที่เข้ามาชมเกมการแข่งขันระหว่าง สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ กับ แคท เอฟซี ซึ่งถือเป็นสถิติผู้ชมสูงสุดตลอดกาลของฟุตซอลไทยลีกจนถึงปัจจุบัน
Photo : Suratthani Futsal Club - กุ้งสายฟ้า
ส่วนการแข่งขันในฤดูกาลถัดมา สนามช้าง ตาปี อารีนา ยังคงเป็นรังเหย้าที่สามารถทำสถิติผู้ชมสูงสุดประจำฤดูกาลได้เสมอ โดยในฤดูกาล 2016, 2017 และ 2018 แมตช์ระหว่าง สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ กับ พีทีที บลูเวฟ กลายเป็นแมตช์ที่มีผู้ชมสูงสุดของฤดูกาล ด้วยยอดผู้ชม 3,825, 3,928 และ 4,000 ซึ่งจะเห็นว่ายอดผู้ชมเพิ่มขึ้นทุกปี แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของสโมสรฟุตซอลสุราษฎร์ธานี
เมื่อถอยกลับมามองในภาพรวม แมตช์ที่มีผู้ชมเยอะที่สุด 5 อันดับแรกในประวัติศาสตร์ฟุตซอลไทยลีก ตกเป็นของ สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ทั้งหมด นั่นจึงทำให้พวกเขากลายเป็นสโมสรฟุตซอลที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นที่สุดในประเทศไทย ด้วยแรงสนับสนุนที่ไม่เคยเสื่อมคลายของสาวกกุ้งสายฟ้า
Photo : Suratthani Futsal Club - กุ้งสายฟ้า
ช้าง ตาปี อารีน่า จึงมีความหมายมากกว่าสนามฟุตซอล แต่เป็นรากฐานความสำเร็จทั้งหมดของ สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ เพราะหากขาดแฟนกีฬาหลายพันคนในสนามแห่งนี้ ทัพกุ้งสายฟ้าคงไม่สามารถยืนหยัดและอยู่เคียงข้างชาวสุราษฎร์ธานีได้จนถึงปัจจุบัน
เคียงข้างกันตลอดไป
เราต้องยอมรับว่ากระแสความนิยมของกีฬาฟุตซอลในประเทศไทย ยังตามหลังกีฬาฟุตบอลค่อนข้างมาก และเมื่อความสนใจในวงกว้างมีไม่มาก รายได้ที่สโมสรควรได้รับจากแนวทางต่าง ๆ จึงน้อยลงตามไปด้วย และถึงแม้ สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ จะเป็นสโมสรฟุตซอลที่มีแฟนเหนียวแน่นในประเทศไทย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหลบหนีปัญหาเรื่องงบประมาณทำทีม เนื่องจากผลประกอบการขาดทุนทุกฤดูกาล
Photo : Suratthani Futsal Club - กุ้งสายฟ้า
ก่อนเปิดฤดูกาล 2018 จึงเกิดข่าวใหญ่ในวงการฟุตซอลไทย เมื่อ แทน เทือกสุบรรณ วางมือจากบทบาทประธานสโมสร เนื่องจากไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายของทีมได้อีกต่อไป และเปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจเข้ามารับสิทธิ์ทำทีมต่อได้ทันที
ท่ามกลางนายทุนจำนวนมากที่ต้องการชุบมือเปิบ คว้า สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ไปขายต่อเพื่อทำกำไรเข้ากระเป๋า มีคนกลุ่มหนึ่งที่เดินเข้ามา พร้อมช่วยเหลือสโมสรด้วยใจจริง พวกเขาไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก “แฟนฟุตซอลชาวสุราษฎร์ธานี” ที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ทีมฟุตซอลที่พวกเขารักและศรัทธาต้องตายจากไปแบบนี้
“กลุ่มแฟนคลับก็เข้ามาพูดคุยบอกว่า “เขาไม่อยากให้สโมสรหายไป ถ้าคุณแทนหยุด ก็ไม่มีใครในสุราษฎร์ทำทีมฟุตซอลอีกแล้ว คุณแทนช่วยพยายามอีกสักครั้งได้ไหม” ผมก็บอกกับแฟนคลับว่า ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะผมทำคนเดียวไม่ไหว” แทน เทือกสุบรรณ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงพลิกผันของสโมสร
เพื่อหาทุนเข้ามาจุนเจือสโมสร สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ จึงมีการเปิดขายตั๋วปีราคาใบละ 1,000 บาท แก่แฟนบอลที่ต้องการสนับสนุนทีมในฤดูกาลหน้า จำนวน 2,000 คน โดยสาวกกุ้งสายฟ้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี จนสามารถรวบรวมเงิน 2 ล้านบาทเป็นทุนทำทีมต่อไปได้
Photo : Suratthani Futsal Club - กุ้งสายฟ้า
จากความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาชีวิตทีมฟุตซอลที่รักให้คงอยู่ต่อไป สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ จึงเปิดตัวเสื้อแข่งขัน Limited Edition ที่ไม่มีวางจำหน่าย แต่มอบให้แก่ผู้ถือตั๋วปีทั้ง 2,000 คนแบบฟรี ๆ โดยชื่อของแฟนบอลทั้งหมดที่ถือตั๋วปีจะอยู่บนเสื้อตัวนี้ แทนคำขอบคุณที่แฟนบอลยังคงให้การสนับสนุนทีมฟุตซอลสุราษฎร์ธานีไม่เสื่อมคลาย
นอกจากชาวสุราษฎร์ธานีแล้ว “เครื่องดื่มตราช้าง” ถือเป็นอีกหนึ่งผู้สนับสนุนหลักที่อยู่เคียงข้าง สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ตลอดมา เนื่องจากมองเห็นความสำคัญในการสนับสนุนทีมกีฬาระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะสโมสรที่ผูกพันและเป็นหนึ่งเดียวกับแฟนบอลแบบทัพกุ้งสายฟ้า
Photo : Suratthani Futsal Club - กุ้งสายฟ้า
เครื่องดื่มตราช้าง รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของ สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ ไม่ว่าจะเป็น การสนับสนุนสนามฟุตซอลที่มีผู้ชมเยอะที่สุด อย่าง ช้าง ตาปี อารีนา หรือ สปอนเซอร์คาดหน้าอกชุดแข่งขัน Limited Edition ที่มีโลโก้ เครื่องดื่มตราช้าง อยู่เคียงข้างกับชื่อของแฟนฟุตซอลสุราษฎร์ธานีทั้ง 2,000 ราย
“คำว่าสโมสรสำหรับผมไม่ใช่แค่นักฟุตซอล 5 คนลงไปเตะในสนาม ไม่ใช่สถานที่ แต่หมายถึงผู้คนทั้งหมดที่อยู่ตรงนี้ เขาถึงเรียกว่า Club (สโมสร) ไม่ได้เรียกว่า สถานที่ มันจึงเป็นความรู้สึกที่ผมปลาบปลื้มใจตรงที่ สิ่งที่เราทำให้กับสโมสรแห่งนี้ มีความหมายต่อพวกเขา” แทน เทือกสุบรรณ กล่าวกับ Main Stand ถึงความหมายของผู้สนับสนุนสโมสรทุกคน
สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ เผชิญหน้ากับความท้าทายอีกครั้ง เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้การแข่งขันฟุตซอลไทยลีก ฤดูกาล 2020 ต้องแข่งขันในกรุงเทพมหานคร ทำให้ความคึกคักของสาวกกุ้งสายฟ้าในสนามช้าง ตาปี อารีนา ขาดหายไปจากวงการฟุตซอลไทย
Photo : Suratthani Futsal Club - กุ้งสายฟ้า
Photo : Suratthani Futsal Club - กุ้งสายฟ้า
แต่สำหรับการแข่งขันฤดูกาล 2021 ที่จะกลับมาลงเล่นในระบบเหย้า-เยือนอีกครั้ง คือก้าวสำคัญที่จะปลุกให้วงการฟุตซอลไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่แฟนฟุตซอลสุราษฎร์ธานีเดินเข้าสู่สนามช้าง ตาปี อารีนา เพื่อให้กำลังใจทีมรักเป็นครั้งแรกในรอบปี
เมื่อมีเสียงเชียร์ กำลังใจ และแรงสนับสนุนจากแฟนฟุตซอลอันเหนียวแน่น กุ้งสายฟ้าก็พร้อมจะแหวกว่ายบนสนามแข่งขันต่อไป เรื่องราวของ สุราษฎร์ธานี ฟุตซอลคลับ จึงเป็นความสำเร็จที่ไม่ได้หมายถึงถ้วยแชมป์ใด ๆ แต่เป็นการเอาชนะใจผู้คนในท้องถิ่น และสร้างแฟนคลับที่จะยืนเคียงข้างกับสโมสรตลอดไป
