ในประวัติศาสตร์การแข่งขันกีฬาห้าห่วง นอกจากเหรียญรางวัลสำหรับผู้ชนะลำดับ 1-3 ในแต่ละชนิดกีฬาแล้ว คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ไม่มีนโยบายที่จะมอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬา ขณะที่ทางสหพันธ์โอลิมปิกฤดูร้อนระหว่างประเทศ (ASOIF) ให้ความเห็นว่าการมอบเงินรางวัล คือสิ่งที่ทำลายคุณค่าของโอลิมปิก
อย่างไรก็ตาม PARIS 2024 จะเป็นโอลิมปิกครั้งแรก ที่จะมีการมอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬาที่คว้าเหรียญทองได้ จากสองชนิดกีฬาที่ประกาศยืนยันเรียบร้อยคือ กรีฑา และมวยสากลสมัครเล่น โดยองค์กรที่ดูแลการแข่งขันกีฬาสองชนิดนี้ เป็นผู้รับผิดชอบในส่วนเงินรางวัลให้นักกีฬาด้วยตัวเอง
รายของกรีฑา ที่มีสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (WA) เป็นผู้รับผิดชอบดูแลการแข่งขัน จะนำเงินสนับสนุนที่ได้จากทาง IOC ตลอด 4 ปี จำนวน 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 87 ล้านบาท) มาจัดสรรปันส่วนให้แก่นักกีฬากรีฑาทุกคนที่คว้าเหรียญทองได้ในทุกประเภทการแข่งขัน ที่มีทั้งหมด 48 รายการทั้งลู่และลาน
นักกรีฑาที่คว้าเหรียญทองในโอลิมปิกครั้งนี้ WA จะมอบเงินรางวัลให้คนละ 50,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) ขณะที่ทีมวิ่งผลัด จะได้รับเงิน 50,000 เหรียญสหรัฐฯ เท่ากัน แล้วเอาไปแบ่งกันเองในทีม ส่วนคนที่ได้เหรียญเงินและเหรียญทองแดง ไม่มีเงินรางวัลให้ แต่ทาง WA จะมีการพิจารณาเรื่องเงินรางวัลสำหรับสองเหรียญนี้ในศึกโอลิมปิก 2028 ที่ลอส แองเจลิส ต่อไป
ด้านของการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBA) ประกาศตามมาเช่นกันว่านักมวยที่คว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกที่ปารีส ไม่ว่าจะเหรียญทอง เหรียญเงิน หรือเหรียญทองแดง จะได้เงินรางวัลจาก IBA อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แบ่งเป็นดังนี้ เหรียญทอง ได้เงินรางวัล 100,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท)
เหรียญเงิน ได้เงินรางวัล 50,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท)
เหรียญทองแดง ได้เงินรางวัล 25,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 905,250 บาท)
อย่างไรก็ตาม นักมวยที่ได้เหรียญรางวัล จะไม่ได้รับเงินแบบเต็มจำนวน เนื่องจาก IBA กำหนดว่านักมวยต้องแบ่งให้กับโค้ชและคณะกรรมการ NOC ประจำชาตินั้นด้วย เช่น นักมวยที่ได้เหรียญทอง ต้องแบ่งเงินรางวัลจาก 100,000 เหรียญสหรัฐฯ ให้กับโค้ชและ NOC คนละ 25,000 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนตัวนักมวยรับไป 50,000 เหรียญสหรัฐฯ
ถ้าเป็นเหรียญเงิน นักมวยต้องแบ่งให้โค้ชกับ NOC คนละ 12,500 เหรียญสหรัฐฯ แล้วตัวเองรับไป 25,000 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนคนที่ได้เหรียญทองแดง จะได้เงิน 12,500 เหรียญสหรัฐฯ และต้องแบ่งให้โค้ชกับ NOC คนละ 6,250 เหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ
อูมาร์ เครมเลฟ ประธานคนปัจจุบันของ IBA พูดถึงการมอบเงินรางวัลแก่นักมวยใน โอลิมปิก ครั้งนี้ว่า "นักกีฬาของเรา และความพยายามของพวกเขาสมควรได้รับความชื่นชม IBA มอบโอกาสและลงทุนกับนักมวยของพวกเราอย่างมาก พวกเขาจะได้รับความสนใจและเราจะสนับสนุนพวกเขาต่อไปในทุกระดับการแข่งขัน"
แน่นอนว่าการแจกเงินรางวัลให้กับผู้คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิก ย่อมมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าเป็นการทำลายคุณค่าของกีฬาโอลิมปิก ที่เป็นสังเวียนสำหรับนักกีฬาสมัครเล่นจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเดินทางมาเพื่อไขว่คว้าเกียรติยศและความสำเร็จในฐานะนักกีฬา มากกว่ามุ่งหวังเรื่องเงินรางวัลตอบแทน
แต่ไม่ว่าอย่างไร IOC ก็ได้อนุมัติเรื่องการมอบเงินรางวัลให้นักกีฬาฝั่งกรีฑากับมวยสากลสมัครเล่นไปแล้ว ต้องรอดูกันว่า โอลิมปิก ครั้งแรกที่มีการมอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลได้ จะได้ผลตอบรับออกมาเป็นอย่างไร