
ก่อนหน้านี้ สหพันธ์ซีเกมส์ จัดประชุมเพื่อพิจารณาถึงชนิดกีฬาที่จะบรรจุในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งมีการสรุปชนิดกีฬาดังนี้
1.กลุ่มกีฬาหลัก คือ กรีฑา และ ว่ายน้ำ (ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ, ระบำใต้น้ำ, ว่ายน้ำมาราธอน)
2. กีฬาในโอลิมปิก ประกอบด้วย ยิงธนู, แบดมินตัน, บาสเกตบอล (5x5, 3x3), เรือพาย, เรือแคนู, จักรยาน, ฟันดาบ, ฟุตบอล (ชาย, หญิง), กอล์ฟ, ยิมนาสติก, แฮนด์บอล, ฮอกกี้, ฮอกกี้น้ำแข็ง, ยูโด, ยิงปืน, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอล, มวยปล้ำ, สเก็ตน้ำแข็ง, ปัญจกีฬาสมัยใหม่, เบสบอล, ซอฟท์บอล , มวยสากล, ขี่ม้า-ขี่ม้าโปโล, รักบี้ 7 คน, เรือใบ
3.ชนิดกีฬาจากเอเชียนเกมส์ (รวมถึงกีฬาในเอเชียน อินดอร์เกมส์ - เอเชียน มาร์เชียล อาร์ตเกมส์) ฟุตซอล, มวย(มวยไทย), ปันจักสีลัต, เปตอง, เซปักตะกร้อ, บิลเลียดและสนุกเกอร์, อีสปอร์ต
4.กีฬาอื่นๆ (เลือก 4 ชนิด) คือ ฟลอร์บอล, คิกบ็อกซิ่ง, เทคบอล, เน็ตบอล
อย่างไรก็ตามจากการเลือกชนิดกีฬาดังกล่าว กลับมีการตั้งข้อสงสัยจากสมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทยเนื่องจากไม่มีการบรรจุกีฬายกน้ำหนักในการแข่งขันซีเกมส์ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ทั้งที่ยกน้ำหนักเป็นกีฬาในโอลิมปิกและสร้างชื่อให้กับวงการกีฬาไทยมาอย่างต่อเนื่องทั้งคว้าเหรียญโอลิมปิกและเอเชี่ยนเกมส์
เสธ.ยอด อินทรัตน์ ยอดบางเตย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักเปิดเผยว่า ได้หารือกับ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่า กกท ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นและมองว่าตามหลักต้องจัดกีฬาที่อยู่ในโอลิมปิก 32 ชนิดกีฬาก่อนแล้วเพิ่มกีฬาพื้นบ้าน คือ มวยไทย,ตะกร้อ เท่านั้นก็พอ และแปลกใจที่ไม่มีกีฬายกน้ำหนักบรรจุ
ขณะที่ฝั่งของคณะกรรมการโอลิมปิกฟิลิปปินส์ โดย อิบราฮัม โทรันติโน่ ระบุว่าประเทศไทยได้ตัดกีฬาความหวังของฟิลิปปินส์โดยเฉพาะอย่างยิ่งยกน้ำหนักซึ่งได้มีการตัดออกจากการแข่งขันทั้งที่เป็นกีฬาโอลิมปิก รวมไปถึงกีฬาอย่าง วูซู และ ยูยิตสู จึงส่งผลกระทบมากพอสมควรกับเป้าหมายทีมชาติฟิลิปปินส์