News

2012 ชัยชนะของฟุตซอลไทย เหนือ อิหร่าน ที่โลกโซเชี่ยลเคยบอกว่า ถ้าชนะ จะแก้ผ้าวิ่งรอบสนามหลวง

ทีมชาติไทย จะลงสนามเจอกับ อิหร่าน ในรอบชิงชนะเลิศ ของศึกชิงแชมป์เอเชีย วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายนนี้ เวลา 18.00 น. ที่สนามบางกอก อารีน่า หากมองตามชื่อชั้น แน่นอนว่า อิหร่าน เป็นต่อทีมชาติไทย อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะพวกเขาเป็นแชมป์เอเชียถึง 12 จาก 16 ครั้งที่ลงแข่งขัน

 


แต่ใช่ว่า ชัยชนะของทีมชาติไทย จะไม่สามารถเกิดขึ้นกับทีมชั้นนำของโลกอย่าง "อิหร่าน" เพราะย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 ทีมชาติไทยในชุดนั้น ที่มี ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ, กฤษดา วงษ์แก้ว สามารถล้มทีมชาติอิหร่านแบบระทึกใจ

ย้อนกลับไปในวันนั้น ทีมไทยลงเล่นในรอบรองชนะเลิศของศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศยูเออี เป็นเจ้าภาพ และโคจรมาเจอกับอิหร่าน ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเกม ใครก็มองว่า อิหร่าน ต้องเป็นฝ่ายชนะได้ไม่ยาก

ผลงานของไทย ในรอบแบ่งกลุ่มมีผลงานชนะ 3 เกมรวด ขณะที่อิหร่าน ถล่มคู่แข่งยับมา ตั้งแต่ชนะ เกาหลีใต้ 14-1, ชนะ กาตาร์ 8-0 และ ชนะ ออสเตรเลีย 9-0 ก่อนชนะ อุซเบกิสถาน 6-3

ขณะที่นักเตะอิหร่านในชุดนั้น มีทั้ง วาฮิด ซัมซาอี, ฮอสเซน ทาเยบี้, อาลี ฮัสซันซาเดห์ และโมฮัมหมัด ทาเฮรี่ เรียกว่า ฟูลทีมที่สุดเช่นกัน

สถานการณ์ในวันนั้น ไทยตกเป็นรองตั้งแต่ 10 นาทีแรก เมื่อ อิหร่านออกนำไทย 2-0และ 3-1 แต่ก็ได้ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ยิงในนาทีที่ 10 และ 30 ก่อนที่ไทย มาได้จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ตามตีเสมอ 3-3 ก่อนหมดเวลา ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

ช่วงต่อเวลา อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ยิงให้ไทย ออกนำ 4-3 ก่อนที่ วาฮิด ซัมซาอี จะมาตีเสมอในนาทีที่ 49

แต่ก่อนหมดเวลาเพียง 30 วินาที ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง เป็นฮีโร่ แฮตทริก ยิงให้ไทยขึ้นนำ 5-4 และหมดเวลาด้วยชัยชนะ ทีมชาติไทยเข้าชิงชนะเลิศ ชิงแชมป์เอเชีย เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์

แม้ว่า ในรอบชิงชนะเลิศ ไทยจะแพ้ ญี่ปุ่น 1-6 แต่นี่ก็คือ ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของไทย

สุทธิพรรณ วรรณวินเวศร์ @Sape Suttipun ผู้จัดการทีมฟุตซอลในยุคนั้น เล่าย้อนประสบการณ์ว่า "นัดชิง กับญี่ปุ่น หากเจ้าอาร์ม ยิงได้สัก 1 ลูก จะได้รางวัลดาวซัลโวเอเซีย เป็นเกียรติประวัติ แต่เมื่ออาร์มยิงไม่ได้ ซัมซาอี เลยได้รางวัลดาวซัลโว เพราะยิง 7ประตูเท่ากัน แต่ assist มากกว่า มาปีนี้ ซัมซาอี อดีตดาวซัลโว 7 สมัยเป็นกุนซือของอิหร่าน ไปแล้ว"

"แต่เจ้าอาร์ม ที่ต่อมา คว้าดาวซัลโวในปี 2016 ยังเป็นกำลังหลักของไทยอยู่ เชื่อเหลือเกินว่า ซัมซาอี ต้องหวังล้างแค้นทีมไทย ที่ไปพลิกล็อคโค่นอิหร่านของเขา สมัยเป็นนักเตะ ทั้งๆที่อิหร่าน เป็นเต็ง1 เป็นแชมป์เก่า และนำเราไปก่อนถึง 2-0 และ 3-1"

"บรรยากาศท้ายเกม และบรรยากาศในห้องแต่งตัว หลังจบเกม พวกเราทั้งโค้ช ทีมสตาฟฟ์และน้องๆนักเตะ เราสะใจ ดีใจกันสุดๆ ที่ลบคำสบประมาทลงได้”

“ถึงกับในโลกโซเชียลมีคนไปโพสต์ว่า ถ้าไทยชนะอิหร่านได้ จะยอมแก้ผ้า วิ่งรอบสนามหลวง"

"แม้เราจะเป็นรองอย่างมาก การพบกันเมื่อปี 2022 เราก็พ่ายเค้าไปถึง 0-5 แต่จะมีใคร มาสบประมาทฟุตซอลไทย อีกมั้ย? ว่า ไม่มีทางชนะ มีมั้ย? ใครที่เย้ยหยันว่า..จะแก้ผ้าวิ่งรอบสนามหลวง ถ้าทีมไทยชนะ คว้าแชมป์ได้ คราวนี้ ผมไม่ได้อยากเห็นหน้าคนสบประมาท เพื่อความสะใจอีกแล้ว"

ขณะที่ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ก็เเชร์ถึงเกมในนัดชิงชนะเลิศของทีมชาติไทย เปรียบเทียบกับปี 2012 ที่มองว่า ในครั้งนี้ ทีมชาติไทยมีโอกาสที่ดีกว่าปี 2012 ด้วยซ้ำ ในการเอาชนะอิหร่าน

"ผมว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ใกล้ที่สุดแล้ว ตั้งแต่เล่นมา 7 สมัย นี่คือครั้งที่ใกล้ที่สุดที่มีโอกาสจะคว้าแชมป์ด้วย หนึ่งคือ เราเล่นในบ้าน สองคือ อิหร่าน ตัวหลักๆ ไม่ได้มา อย่างทาเยบี้ แล้ว อิหร่านก็ไม่ได้อยู่ในช่วงท็อปฟอร์มที่สุด"

"มูฮัมหมัดกลับมา ทุกคนอยู่ในช่วงเวลาที่มั่นใจ ผมคิดว่าครั้งนี้อาจจะเป็นประวัติศาสตร์ที่เราสามารถคว้าแชมป์ได้"

แต่จะทำได้ไหม คำตอบอยู่ในวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน ที่จะถึงนี้

Author

วิรวิชญ์ เจริญเชื้อ

The handsome boy like Jackson Wang and the best singer of Main Stand.

Graphic

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ