ช่วงนี้ที่จ.ภูเก็ต มีการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก เพื่อคัดโควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ฝรั่งเศส
ซึ่งหนึ่งในนักกีฬาดาวรุ่งของทีมไทยที่ลงแข่งขันในรายการนี้ คือ ภัทรธิดา วงษ์สิงห์ หรือ "ไอซ์" ดาวรุ่งวัย 17 ปี ดีกรี 3 เหรียญทองเยาวชนโลก ซึ่งลงแข่งขันแมตช์นานาชาติในรุ่นใหญ่เป็นครั้งแรก ในศึกเวิลด์คัพที่ภูเก็ต ในรุ่นน้ำหนัก 76 กก.หญิง และทำผลงานส่วนตัวได้น่าประทับใจ หลังยกทำน้ำหนักทำลายสถิติดีสุดของตัวเองได้ทั้งสองท่า ท่าสแนทช์อยู่ 100 กิโลกรัม จบอันดับ 5 ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ภัทรธิดา ยกผ่านที่น้ำหนัก 125 กิโลกรัม ได้อันดับที่ 6
ดาวรุ่งจากนครสวรรค์ ถือเป็นความหวังของทางสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ที่ตั้งใจส่งมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในรายการนี้ และเตรียมผลักดันขึ้นมาเป็นตัวแทนในรุ่น 71 กิโลกรัมหญิง เพื่อลุยในโอลิมปิก 2028 ที่ ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
ถามว่าเธอแตกต่างจากนักกีฬาดาวรุ่งคนอื่นๆอย่างไร ?
ว่ากันตรงๆ นักกีฬาหลายคนมักจะมีเรื่องราวว่า ตกหลุมรักกีฬาชนิดนั้น , มีความฝัน , มีแพชชั่น หรือไม่ก็เพราะฐานะยากจนจึงดิ้นรนเข้ามาเป็นนักกีฬาทีมชาติทำนองนี้
แต่สำหรับจุดเริ่มต้นของ ภัทริดา มาจากการที่เจ้าตัวไปแอบชอบสาวรุ่นพี่ ซึ่งเป็นนักกีฬายกน้ำหนักของโรงเรียน จึงพยายามหาลู่ทางเพื่อให้ได้เข้าไปฝึกซ้อมกีฬายกน้ำหนักเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับรุ่นพี่ที่ตกหลุมรัก
"หนูชอบรุ่นพี่คนนึงมากค่ะ เลยจ้างเพื่อน 40 บาท ให้เพื่อนไปหาลู่ทางพาเข้าไปเป็นนักกีฬายกน้ำหนัก" เธอตอบพร้อมยิ้มเขิน บอกด้วยว่าตอนนั้นสมหวัง แฮปปี้มาก รุ่นพี่คนนั้นคอยมัดผมให้ก่อนซ้อมตลอด
ไม่น่าเชื่อว่าจากจุดเล็กๆ ที่ใครๆเรียกกันว่า Puppy Love มันจะทำให้ภัทรธิดา มาไกลเกินกว่านั้น
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการฝึกฝน ภัทรธิดา พัฒนาศักยภาพของตัวเอง จนได้รับการเรียกเข้าแคมป์ทีมชาติ มีโอกาสได้ไปแข่งขันและสร้างผลงานในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะการไปคว้า 3 เหรียญทองยุวชนโลก และ 2 เงิน 1 ทองแดง ในศึกเยาวชนโลกเมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะได้รับการส่งลงแข่งขันรุ่นประชาชนครั้งแรกในศึกเวิลด์คัพที่ภูเก็ต
"พ่อแม่หนูตอนแรกก็ไม่สนับสนุน เขากลัวเราเจ็บ แต่เราขอลองพอเล่นไปเล่นมา เวลายกติดมันก็ภูมิใจมาก แบบโอ้ รู้สึกเราเท่ (ยิ้ม) ก็เลยขอพ่อแม่ว่าอยากเล่นต่อ อยากซ้อม อยากติดทีมชาติ พ่อแม่ก็สนับสนุนอย่างดีค่ะ"
แน่นอน ภัทรธิดา ในวัย17 ก้าวข้ามคำว่าเล่นยกน้ำหนักเพื่อจีบรุ่นพี่มาไกลมากแล้ว ตอนนี้ เธอคือตัวความหวังของทีมยกน้ำหนักไทย ที่ทางสมาคมวางไว้ว่าเธอจะต้องได้ไปเฉิดฉายในโอลิมปิกเกมส์ 2028
เช่นเดียวกับเธอ ที่มองอนาคตตัวเองไปไกลกว่านั้น เธอไม่ได้ต้องการเพียงหัวใจของสาวรุ่นพี่เพียงอย่างเดียวแล้ว
"หนูอยากไปแข่งต่างประเทศ ไปโอลิมปิก อยากได้เหรียญ อยากได้เงินมาใช้หนี้ให้ที่บ้าน ใช้หนี้ให้ยาย ซื้อรถซื้อบ้านให้พ่อแม่ค่ะ"
การติดทีมชาติ คือกำไรจากการจีบสาวของภัทรธิดาก็จริง แต่เธอไม่ได้เอากำไรก้อนนั้นไปใช้แบบสูญเปล่า เธอนำมันมาเปลี่ยนเป็นต้นทุนในการพาตัวเองไปสู่เวทีระดับโลก สู่การพาชีวิตตัวเองและครอบครัวไปอยู่ในจุดที่ดีกว่าเดิม เชื่อว่าแฟนๆกีฬาชาวไทย ถ้าได้อ่านเรื่องราวของเธอก็คงจะอมยิ้ม และ อวยพรให้เธอประสบความสำเร็จอย่างที่เธอมุ่งมั่นตั้งใจไว้
