กลายเป็นข่าวฮือฮาในแวดวงมวยปล้ำเมื่อ Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าดังระดับโลก ทุ่มเงินมหาศาลซื้อลิขสิทธิ์รายการมวยปล้ำของ WWE มาฉายให้แฟนมวยปล้ำทั่วโลกได้ชมกันตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป
ดีลนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่าง Netflix กับ TKO Group บริษัทแม่ของสมาคมมวยปล้ำ WWE โดยจะให้ทาง Netflix ได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการ RAW หนึ่งในโชว์ยอดนิยมของ WWE ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2025 เป็นต้นไป
รายงานเผยว่า Netflix ได้สัญญาถ่ายทอดสด RAW เป็นเวลา 10 ปีด้วยกัน มูลค่าทั้งหมด 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 177,850 ล้านบาท) จากเดิมที่ออกอากาศสดผ่านทางช่อง USA Network ทุกวันอังคารตอนดึก ตามเวลาสหรัฐฯ แต่กระนั้น Netflix ก็มีออฟชั่นพิเศษสามารถต่อสัญญาดีลนี้เพิ่มกับทาง WWE ได้ หรือยกเลิกสัญญาได้หลังผ่าน 5 ปีแรก
ไม่เพียงแต่รายการ RAW ทาง Netflix ยังจะได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสดศึกมวยปล้ำรายการใหญ่ของ WWE ด้วยเช่น WrestleMania หรือ Royal Rumble ในรูปแบบ PPV จ่ายเงินซื้อสัญญาณมาดูในครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น Netflix จะถ่ายทอดสดรายการ RAW ผ่านทางแพลตฟอร์มของตัวเอง เฉพาะผู้ชมทางสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สหราชอาณาจักร และแถบลาตินอเมริกาก่อน หากทุกอย่างไปได้สวยก็อาจมีการขยับขยายสัญญาแพร่ภาพไปยังทวีปอื่นๆ ในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีประกาศสำคัญจาก TKO เมื่อพวกเขาดึง ดเวย์น จอห์นสัน หรือ "เดอะ ร็อก" ซูเปอร์สตาร์มวยปล้ำตลอดกาลของ WWE มาร่วมนั่งเก้าอี้บอร์ดบริหารของ TKO เพื่อช่วยดำเนินงานด้านธุรกิจมวยปล้ำให้เข้าถึงแฟนๆ ทั่วโลกเป็นวงกว้างยิ่งกว่าเดิม
นับเป็นดีลที่วิน-วิน กันทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะ Netflix ที่หันมาทำธุรกิจถ่ายทอดสดกีฬามากขึ้นในระยะหลัง ต่อยอดจากบริการสตรีมภาพยนตร์และซีรีส์ที่เป็นงานถนัด ส่วน WWE ก็ได้รับสัญญามูลค่ามหาศาล พร้อมโอกาสที่จะได้แฟนมวยปล้ำทั่วโลกเพิ่มแบบอักโข จากการถ่ายทอดสดผ่านสตรีมมิ่งอันดับ 1 ที่มียอดผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลก
ส่วนในเมืองไทย 3BB เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์รายการมวยปล้ำของ WWE ทั้งรายการ RAW และ Smackdown! โดยถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 3BB Sports One ทุกเช้าวันอังคารและวันเสาร์ เวลา 08.00น. แฟนมวยปล้ำเมืองไทยสามารถติดตามรับชมได้
