สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคลินิกรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในกรุงเทพฯ การเลือกสถานที่รักษาที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือถือเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้เราได้รวบรวม 5 คลินิกรักษาข้อเข่าเสื่อมในกรุงเทพฯ ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับ มาแนะนำให้รู้จักกัน พร้อมข้อมูลสำคัญที่ควรทราบก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา จะมีท่ไหนน่าสนใจบ้าง ตามไปอ่านในบทความของเรากันเลย
1. Bonefit Clinic
ที่ตั้ง: ซอยสุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
จุดเด่น:
• คลินิกรักษาข้อเข่าเสื่อมในกรุงเทพฯ ที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาแบบไม่ผ่าตัด
• มีเทคโนโลยีการรักษาทันสมัย
• ทีมแพทย์มีประสบการณ์สูง
• มีโปรแกรมกายภาพบำบัดครบวงจร
เวลาทำการ: จันทร์-เสาร์ 09.00-20.00 น. การนัดหมาย: แนะนำให้นัดล่วงหน้าผ่านโทรศัพท์หรือไลน์
2. Health Link Clinic
ที่ตั้ง: ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
จุดเด่น:
• คลินิกรักษาข้อเข่าเสื่อมในกรุงเทพฯ ที่รักษาด้วยเทคโนโลยีสเต็มเซลล์
• มีการวินิจฉัยด้วยเครื่อง MRI ความแม่นยำสูง
• แพทย์เฉพาะทางด้านข้อและกระดูก
• มีบริการรถรับ-ส่งสำหรับผู้ป่วยที่เดินทางลำบาก
เวลาทำการ: ทุกวัน 08.00-20.00 น. ค่ารักษา: เริ่มต้น 2,500 บาท (ขึ้นอยู่กับอาการ)
3. Kloss Clinic
ที่ตั้ง: สุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
จุดเด่น:
• คลินิกรักษาข้อเข่าเสื่อมในกรุงเทพฯ ที่เน้นการรักษาแบบองค์รวม
• ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์บำบัด
• มีโปรแกรมฟื้นฟูหลังการรักษา
• บริการให้คำปรึกษาออนไลน์
เวลาทำการ: จันทร์-อาทิตย์ 10.00-19.00 น. การรักษา: มีแพ็คเกจให้เลือกหลากหลาย
4. โรงพยาบาลกระดูกและข้อ ข้อดีมีสุข
ที่ตั้ง: ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
จุดเด่น:
• ศูนย์รักษาโรคข้อครบวงจร
• ทีมแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
• อุปกรณ์การแพทย์ทันสมัย
• มีบริการฉีดยาเข้าข้อด้วยเทคนิคพิเศษ
เวลาทำการ: ทุกวัน 07.00-21.00 น. สิทธิการรักษา: รับประกันสังคมและประกันสุขภาพหลายประเภท
5. คลินิกกระดูกและไขข้อ โรงพยาบาลหัวเฉียว
ที่ตั้ง: ถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
จุดเด่น:
• คลินิกรักษาข้อเข่าเสื่อมในกรุงเทพฯ ที่ผสมผสานการแพทย์แผนปัจจุบันและแผนจีน
• ราคาเหมาะสม
• มีล่ามภาษาจีนให้บริการ
• การรักษาแบบประคับประคอง
เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 08.00-20.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 08.00-17.00 น. ค่ารักษา: เริ่มต้น 1,500 บาท
ข้อแนะนำก่อนเข้ารับการรักษา
สำหรับผู้ป่วยที่เตรียมรับการคลินิกรักษาข้อเข่าเสื่อมในกรุงเทพฯ ต้องเตรียมตัวดังต่อไปนี้
1. ควรเตรียมประวัติการรักษาและผลตรวจเดิม (ถ้ามี)
2. สอบถามค่าใช้จ่ายและแผนการรักษาให้ชัดเจน
3. ตรวจสอบสิทธิ์การรักษาและประกันที่สามารถใช้ได้
4. นัดหมายล่วงหน้าเพื่อความสะดวก
5. สอบถามการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา
ทั้งหมดนี้ คือคลินิกรักษาข้อเข่าเสื่อมในกรุงเทพฯ การเลือกสถานที่รักษาข้อเข่าเสื่อมควรพิจารณาจากความเชี่ยวชาญของแพทย์ เทคโนโลยีในการรักษา ความสะดวกในการเดินทาง และค่าใช้จ่าย ทั้ง 5 คลินิกที่แนะนำมานี้ล้วนมีมาตรฐานการรักษาที่ดี แต่อาจมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ผู้ป่วยควรเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการและความสะดวกของตนเอง