News

โรคแพนิคเกิดจากอะไร ? ตอบ 5 ข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคนี้

โรคแพนิค (Panic Disorder) เป็นหนึ่งในโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางจิตเวช ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก โรคนี้มีลักษณะเด่นคือการเกิดอาการ "ตื่นตระหนก" หรือ "แพนิค" อย่างกะทันหันและรุนแรง แม้ไม่มีสิ่งกระตุ้นที่ชัดเจน หลายคนอาจสงสัยว่าโรคแพนิคเกิดจากอะไรและควรรู้จักโรคนี้ให้ลึกซึ้งขึ้น เราจะตอบคำถามสำคัญ 5 ข้อเกี่ยวกับโรคแพนิคเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและดูแลตนเองหรือคนรอบข้างได้ดีขึ้น

 

 

1. โรคแพนิคเกิดจากอะไร?

โรคแพนิคเกิดจากอะไร ? คำตอบคือโรคแพนิคไม่ได้มีสาเหตุเดียวที่แน่ชัด แต่เป็นผลรวมของหลายปัจจัย ได้แก่:

  • พันธุกรรม: หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคแพนิคหรือโรควิตกกังวล โอกาสที่คุณจะเป็นโรคนี้อาจเพิ่มขึ้น
  • ความผิดปกติของสมอง:  โรคแพนิคเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) และนอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) อาจส่งผลให้สมองตอบสนองต่อความเครียดหรือความกลัวผิดปกติ
  • ปัจจัยสิ่งแวดล้อม: ความเครียดเรื้อรัง เหตุการณ์กระทบจิตใจ เช่น การสูญเสียคนรัก หรือประสบเหตุการณ์รุนแรง อาจกระตุ้นให้เกิดโรคนี้ได้
    สารเคมีหรือฮอร์โมนในร่างกาย: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงวัยเจริญพันธุ์หรือวัยหมดประจำเดือน อาจมีผลต่อความไวของสมองในการตอบสนองต่อความเครียด

 

2. อาการของโรคแพนิคมีลักษณะอย่างไร ?

อาการของโรคแพนิคมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยผู้ป่วยจะรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญกับอันตรายหรือเสียชีวิต ลักษณะอาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้:

  • ใจเต้นแรงและเร็ว
  • หายใจถี่หรือหายใจไม่อิ่ม
  • เหงื่อออกมาก
  • วิงเวียนศีรษะหรือรู้สึกเหมือนจะหมดสติ
  • รู้สึกคล้ายถูกบีบรัดบริเวณหน้าอก

 

3. โรคแพนิคแตกต่างจากความวิตกกังวลทั่วไปอย่างไร? 

แม้ว่าทั้งสองภาวะเกี่ยวข้องกับความกลัวและความเครียด แต่มีข้อแตกต่างสำคัญ:

  • โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder): ผู้ป่วยมักมีความกังวลเรื้อรังในเรื่องทั่วไป เช่น การทำงาน การเงิน หรือสุขภาพ
  • โรคแพนิค: อาการเกิดขึ้นเฉียบพลันและรุนแรง โดยผู้ป่วยอาจไม่มีเหตุการณ์กระตุ้นใด ๆ และอาการมักรบกวนการใช้ชีวิตปกติมากกว่า

 

4. โรคแพนิครักษาได้หรือไม่ ?

โรคแพนิคสามารถรักษาได้ด้วยการปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามแผนการรักษาอย่างเหมาะสม วิธีการรักษาหลักได้แก่:

  • การบำบัดทางจิต (Cognitive Behavioral Therapy - CBT): ช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีจัดการกับความคิดและความรู้สึกที่กระตุ้นอาการแพนิค
  • การใช้ยา: ยาต้านซึมเศร้าหรือยาลดความวิตกกังวล เช่น SSRIs อาจถูกใช้เพื่อควบคุมอาการ
  • การฝึกผ่อนคลาย: การฝึกหายใจลึก โยคะ หรือสมาธิ ช่วยลดความตื่นตระหนกได้

 

5. ควรปฏิบัติตัวอย่างไรหากพบอาการแพนิค ?

เมื่อรู้แล้วว่าโรคแพนิคเกิดจากอะไร  ดังนั้น หากคุณหรือคนรอบข้างมีอาการแพนิค สิ่งสำคัญคือต้องไม่ตื่นตระหนกไปด้วย ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้:

  • ควบคุมการหายใจ: หายใจช้า ๆ และลึก ๆ เพื่อปรับระดับออกซิเจนในร่างกาย
  • อยู่กับปัจจุบัน: ฝึก "Grounding Technique" เช่น มองหาวัตถุรอบตัว 5 อย่าง หรือสัมผัสวัตถุเพื่อดึงความสนใจออกจากอาการ
  • ปรึกษาแพทย์: หากอาการแพนิคเกิดบ่อยครั้ง ควรพบจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา

 

เมื่อได้ทราบแล้วว่าโรคแพนิคเกิดจากอะไร ก็ย่อมทำให้สามารถรักษาและควบคุมได้หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยเหลือตนเองและคนรอบข้าง อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากคุณสงสัยว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดอาจกำลังเผชิญกับโรคแพนิค เพราะสุขภาพจิตที่ดีเริ่มต้นจากการใส่ใจและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม

Author

Main Stand

Stand ForAll สื่อกีฬาที่เข้าถึงทุกคน