Ford เพิ่งเปิดตัว Mustang รถสปอร์ตระดับตำนานของค่ายในเจเนอเรชั่นที่ 7 แบบสด ๆ ร้อน ๆ โดยพวกเขายังเลือกใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเหมือนเช่นเคย ไม่มีขุมพลังไฮบริด หรือไฟฟ้า 100% แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม จิม ฟาร์ลี่ย์ CEO ของค่ายวงกลมสีน้ำงินออกมาเปิดเผยกับทาง CNBC ว่า Mustang เจเนอเรชั่นที่ 7 จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย หากพวกเขาไม่ตัดสินใจทำรถรุ่นหนึ่งออกมาขายเมื่อไม่กี่ปีก่อน
รุ่นที่ว่านั้นคือ Mustang Mach-E ที่นำชื่อ Mustang มาใช้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางวิศวกรรมใด ๆ กับ Mustang ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งแม้มีคนรักรถบางคนบ่นว่า Ford เอาชื่อ Mustang มาทำปู้ยี่ปู้ยำ แต่ก็สร้างยอดขายหลักเกิน 20,000 คัน ทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเมื่อปีกลาย
"Mustang Mach-E มีส่วนสำคัญไม่ทางตรงก็ทางอ้อมที่ทำให้ยังสามารถผลิต Mustang เครื่องยนต์สันดาปภายในได้ เพราะคู่แข่งต้องซื้อเครดิตเพื่อการปล่อยมลพิษ และไม่สามารถผลิตรถแบบนี้ออกมาได้"
ประเทศสหรัฐอเมริกาในระยะหลัง มีการออกกฎ "เครดิตมลภาวะ" สำหรับการดำเนินธุรกิจ โดยหากบริษัทใดไม่สามารถสร้างเครดิตได้เพียงพอ ก็จำเป็นต้องใช้เงินซื้อเครดิตจากบริษัทอื่นอย่าง Tesla ซึ่งผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อยู่แล้ว เพื่อสามารถดำเนินกิจการได้ต่อไป
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้บางค่ายรถจำเป็นต้องเตรียมปิดตำนานรถสปอร์ตพันธุ์แรงลงในอนาคต โดย Dodge ประกาศว่า ปี 2023 จะเป็นปีสุดท้ายที่จำหน่ายสองตัวแรงในรุ่น Charger กับ Challenger ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ส่วน Chevrolet ก็เตรียมปิดตำนานรถสปอร์ต Camaro ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในในอีกไม่กี่ปีจากนี้ เพื่อก้าวสู่การผลิตรถไฟฟ้าอย่างเต็มตัวภายในปี 2035
ที่มา :
https://www.cnbc.com/.../ford-ceo-jim-farley-reveals-why...
https://www.motor1.com/.../ford-mustang-mach-e-allowed-ice/