เกือบจะกลายเป็นเหตุการณ์ดราม่าระหว่างการแข่งขัน เจแปนนิส กรังด์ปรีซ์ ขณะที่ มักซ์ เวอร์สแตพเพ่น จาก Red Bull Racing และ แลนโด้ นอร์ริส จากทีม McLaren ที่ทั้งคู่ต่างออกจากพิทเลนพร้อมกัน
เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันในรอบที่ 22 เมื่อ มักซ์ เวอร์สแตพเพ่น และ แลนโด้ นอร์ริส ตัดสินใจเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางก่อนลงแข่งขันต่อ ซึ่งพิทของทีม Red Bull ถึงก่อนทีม McLaren ทำให้ มักซ์ เวอร์สแตพเพ่น เสร็จภารกิจนี้ก่อน ส่วนพิทของทีม McLaren อยู่สุดท้ายก่อนสิ้นสุดพิทเลน ทำให้ แลนโด้ นอร์ริส เข้าพิทเปลี่ยนยางช้ากว่าเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกือบจะเป็นดราม่าเกิดขึ้นหลังทั้งคู่เปลี่ยนยางเรียบร้อย มักซ์ เวอร์สแตเพ่น และ แลนโด้ นอร์ริส ขับรถตีคู่กันอยู่ที่พิทเลน หลังจากสิ้นสุดเขตควบคุมความเร็ว มักซ์ และ แลนโด้ พยายามเร่งความเร็วเพื่อชิงเหลี่ยม
ทว่า มักซ์ เวอร์สแตพเพ่น นักขับของทีง Red Bull Racing อยู่ในเหลี่ยมทางที่ดีกว่าพร้อมขับรถกลับเขาสู่การแข่งขัน ส่วน แลนโด้ นอร์ริส จากทีม McLaren อยู่ในเหลี่ยมนอกจำต้องเสียจังหวะควบคุมรถขับลงสนามหญ้า
จนทั้งคู่ต่างพูดผ่านวิทยุสื่อสารประจำทีมในมุมของตัวเอง โดย แลนโด้ นอร์ริส ระบุว่า “เขา (มักซ์) เบียดผมออก” ส่วน มักซ์ เวอร์สแตพเพ่น ระบุว่า “เขา (แลนโด้) ขับออกไปลงหญ้าเอง”
หลังจากจบการแข่งขัน แลนโด้ นอร์ริส ออกมาเผยถึงจังหวะที่ตัวเขาและ มักซ์ เวอร์สแตพเพ่น ชิงเหลี่ยมแย่งกันออกจากพิทเลนว่า
“จังหวะที่พิทเลน มันเป็นการแข่งขัน และมักซ์เป็นคนสุดท้ายที่ผมคิดว่าจะให้ทางแก่ผมในการแข่งขันนะ”
แม้เหตุการณ์นี้ดูเหมือนเกือบจะเป็นดราม่า แต่สุดท้ายแล้วไม่มีการสอบสวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นและจบการแข่งขันอย่างสมบูรณ์แบบด้วยชัยชนะของ มักซ์ เวอร์สแตพเพ่น จากทีม Red Bull Racing สำหรับการแข่งขันสนามที่ 3 ของฤดูกาล ส่วน แลนโด้ นอร์ริส คว้าอันดับที่ 2