ศึก “เอล กลาซิโก้ เมืองไทย” ระหว่าง ชลบุรี เอฟซี พบ เมืองทอง ยูไนเต็ด เจอกันเมื่อใดยังสู้กันสนุกทุกครั้ง หลังจากที่ในศึกไทยลีก เลกแรก เสมอกันสุดมัน 3-3
เลกสองเมื่อเย็นวันที่ 9 มกราคม 65 ทั้งคู่โคจรมาปะทะกันอีกครั้งที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม โดย “ฉลามชล” เจ้าถิ่นอันดับ 3 ของตาราง มี 28 คะแนน ต้องการชัยชนะเพื่อไล่จี้จ่าฝูง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่นำอยู่เพียงแค่ 4 แต้ม ขณะที่ “กิเลนผยอง” รั้งอันดับ 6 มี 25 คะแนน
เสียงนกหวีดดัง เป็นเมืองทองที่มีโอกาสลุ้นสกอร์ได้มากกว่าแต่ยังไม่คมพอ กระทั่งก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที “กิเลนผยอง” มาได้ฟรีคิกบริเวณริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย และเป็น ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ แนวรุกชาวอุซเบกิสถาน ที่ยิงบอลไปแฉลบ เดนนิส มูริลโล กองหน้าเจ้าถิ่นที่ลงมาช่วยเกมรับเข้าประตูไป 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
สู้กันต่อครึ่งหลัง “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ กุนซือฉลามชล แก้เกมไวด้วยการเปลี่ยน 2 คนรวด ส่งดาวรุ่งอย่าง จักรพงษ์ แสนมะฮุง กับ ทรงชัย ทองฉ่ำ ลงแทน เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และ รังสรรค์ วิรุฬห์ศรี พร้อมดัน “แระห์” กฤษดา กาแมน ที่ออกสตาร์ทในตำแหน่งเซ็นเตอร์ขยับขึ้นมาเล่นกองกลางที่เจ้าตัวถนัด
ก่อนที่นาที 51 ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ จะวางบอลยาวไปฝั่งซ้ายให้ กฤษดา โหม่งตั้งเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เรนาโต้ เคลิช ปราการหลังชาวโครเอเชีย ยิงจ่อ ๆ ไม่เหลือให้ ชลบุรี ตามตีเสมอ 1-1
จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่ยังคงสู้กันสนุกและมีโอกาสลุ้นประตูแต่ไม่สามารถทำอะไรกันได้เพิ่ม โดยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ "ฉลามชล" ส่ง ฟาอิก เจฟรี โบลเกียห์ แข้งเจ้าชายแห่งบรูไน ที่เพิ่งเซ็นสัญญามาร่วมทีมลงสนาม แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสบอล จบเกมเสมอกันไป 1-1 แบ่งกันทีมละแต้ม
รายชื่อผู้เล่น
ชลบุรี เอฟซี : ชนินทร์ แซ่เอียะ (ผู้รักษาประตู), ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, กฤษดา กาแมน, รังสรรค์ วิรุฬห์ศรี, ยู บยุง-ซู, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, จีดี้ คานยุค, เดนนิส มูริลโล, บุคฆอรี เหล็มดี, เรนาโต้ เคลิช
เมืองทอง ยูไนเต็ด : พีระพงษ์ เรือนนินทร์ (ผู้รักษาประตู), ลูคัส โฮชา, ชาติชาย แสงดาว, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร, วีระเทพ ป้อมพันธ์ุ, กรวิชญ์ ทะสา, ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ, วิลเลี่ยน ป็อปป์, วงศกร ชัยกุลเทวินทร์, พิชา อุทรา