ตลอดประวัติศาสตร์ของการแข่งขันบาสเกตบอล NBA ที่ผ่านมา แม้มีพ่อลูกหลายคู่ที่ได้ลงแข่งขัน แต่ไม่เคยมีสักวินาที ที่พ่อกับลูกได้ลงสนามด้วยกัน ... จนกระทั่งความเป็นไปได้นั้นเกิดขึ้น
ถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดในการดราฟต์ตัวผู้เล่นของ NBA ในปี 2024 เลยก็ว่าได้ สำหรับ บรอนนี่ เจมส์ การ์ดจากมหาวิทยาลัยเซาธ์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย หรือ USC เพราะไม่เพียงแต่หลายคนสงสัยว่า เขาจะถูกดราฟต์ไปทีมใดแล้ว หลายคนยังคิดหนักกว่านั้นด้วยว่า เขาจะถูกดราฟต์หรือไม่
ที่สุดแล้ว เรื่องก็จบลงอย่างโรแมนติก เมื่อ บรอนนี่ ถูกดราฟต์ในรอบสอง อันดับ 55 แถมทีมที่เลือกเขาคือ ลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส ทีมที่ เลบรอน เจมส์ ตำนานที่ยังมีลมหายใจแห่งวงการแม่นห่วง และมีสถานะเป็น "คุณพ่อ" ลงเล่น
แต่กว่าเรื่องราวจะมาถึงจุดโรแมนติกนี้ได้นั้น มันไม่ง่ายเลย ...
แฟนกีฬาหลายคน คงเคยได้ยินเรื่องราวสุดคลาสสิกว่า "ลูกของนักกีฬาผู้เก่งกาจ มักไม่ประสบความสำเร็จเหมือนพ่อแม่" กันมาไม่มากก็น้อย
ซึ่งสาเหตุนั้นมีหลากหลาย บ้างมองว่า ลูกของนักกีฬา มักโตมาโดยที่ไม่ได้เจอกับความยากลำบาก การดิ้นรนเพื่อฝึกฝน นำพาตัวเองสู่ชีวิตที่ดีกว่าด้วยสองมือและสองเท้าแบบพ่อแม่ บ้างก็เชื่อว่า การเกิดเป็นลูกคนดัง มักถูกจับจ้อง ถูกมองจากผู้คนมากมาย จนเกิดความกดดัน ทำให้สร้างผลงานได้ไม่ดีอย่างที่คิด
บรอนนี่ ก็ดูเข้าข่ายในการเป็นลูกนักกีฬา ที่เติบโตมาโดยถูกจับจ้องจากผู้คนมากมาย ยิ่งเขาเลือกที่จะเล่นบาสเกตบอล ก็ยิ่งถูกจับตามองเข้าไปใหญ่ว่า จะเก่งเท่า เลบรอน ผู้เป็นพ่อได้หรือไม่ จนแม้แต่ บรอนนี่ เองยังยอมรับ
"มันยากครับ คำวิพากษ์วิจารณ์มากมายถาโถมเข้ามา แต่คุณรู้ไหม ผมต้องรับมือกับมัน พวกเขาไม่รู้ว่าผมเจออะไรมาบ้าง แต่ผมก็ทำได้แค่พยายามทำให้ดีที่สุดจากโอกาสที่มอบให้ผม"
และเรื่องที่ บรอนนี่ ต้องเจอนั้น หนักหนาสาหัส ถึงขั้นที่ว่า เราเกือบไม่ได้เห็น บรอนนี่ เจมส์ ในวันนี้ด้วยซ้ำ
24 กรกฎาคม 2023 บรอนนี่ ล้มลงระหว่างการซ้อมกับ USC ก่อนที่จะเริ่มฤดูกาลแรกในฐานะนักกีฬาระดับคอลเลจ ซึ่งมีการเปิดเผยในภายหลังว่า เขาประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นอันเนื่องมาจากความบกพร่องของหัวใจแต่กำเนิด
อาการบาดเจ็บและเจ็บป่วย แม้ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ผลกระทบนั้นมากมายมหาศาล จากที่เกจิมองว่า บรอนนี่ น่าจะอยู่ในระดับท็อป 10 ของการดราฟต์ กลายเป็นสุ่มเสี่ยงจะไม่ถูกดราฟต์เลยด้วยซ้ำ เมื่อหลายคนมองว่า บรอนนี่ เป็น "สินค้ามีตำหนิ"
อย่างไรก็ตาม บรอนนี่ กลับมาได้ ไม่เพียงแค่กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ยังกลับมาเล่นบาสเกตบอลได้อีกด้วย ซึ่งแม้ผลงานในระดับคอลเลจจะไม่โดดเด่นนัก ด้วยผลงานเฉลี่ย 4.8 คะแนน 2.8 รีบาวด์ 2.1 แอสซิสต์ กับการลงสนามเฉลี่ย 19.4 นาทีต่อเกม ในฤดูกาลเดียวของ บรอนนี่ ที่ USC แต่หากมองในสิ่งที่เขาต้องเจอมา การถือว่าเป็น "พรจากพระเจ้า" คงไม่เกินเลย
และสิ่งที่ บรอนนี่ ทำในสนามตลอดการเล่นบาสเกตบอล ก็ดีพอที่จะทำให้ แอลเอ เลเกอร์ส ดราฟต์เขามาร่วมทีม โดย ร็อบ เพลินก้า รองประธานฝ่ายปฏิบัติการบาสเกตบอล และผู้จัดการทั่วไปของทีมยืนยันว่า การตัดสินใจนี้ เกิดขึ้นเพราะตัวตนของ บรอนนี่ เป็นสำคัญ
"เรื่องแรกและสำคัญที่สุด บรอนนี่เป็นบุคคลที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่น และอีกเรื่องนั้น เขาเป็นชายหนุ่มที่ทำงานอย่างหนักอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นคือคุณสมบัติที่เรามองหาในการดราฟต์ผู้เล่นเพื่อเติมเต็มให้กับการพัฒนาผู้เล่นของเราที่เลเกอร์ส"
แต่ถึงหลายคนจะมองว่า การดราฟต์ บรอนนี่ คือดีลการตลาด คือดีลโรแมนติก คือดีลที่เกิดขึ้นเพื่อโน้มน้าว เลบรอน ให้เซ็นสัญญาอยู่กับทีมต่อ ก็ช่างปะไร เพราะสำหรับ เพลินก้า การดราฟต์ตัว บรอนนี่ มีแต่ได้กับได้สำหรับ เลเกอร์ส
"ในประวัติศาสตร์ของ NBA ไม่เคยมีพ่อและลูกชายคนไหนเคยลงแข่งด้วยกัน และนั่นให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เรารับทราบดีว่า เลบรอนมีออปชั่นที่เขาจะไม่ต่อสัญญากับเราก็ได้ แต่หากที่สุดแล้ว เขายังอยู่ในทีมของเราในฤดูกาลหน้า ประวัติศาสตร์ของ NBA ก็สามารถเกิดขึ้นได้ และประวัติศาสตร์ของ NBA ก็ควรจะถูกสร้างขึ้น ในชุดของเลเกอร์ส"
