News

"Monomoth" ผีเสื้อเจ้าเสน่ห์แห่งวงการมวยปล้ำไทย ที่ขอมอบความสนุกให้กับคนดูทุกเพศทุกวัย

Monomoth คือนักมวยปล้ำพราวเสน่ห์ของสมาคม SETUP Thailand Pro Wrestling ที่กำลังเป็นที่รู้จักในฐานะนักมวยปล้ำรุ่นใหม่ที่มีลีลาและเทคนิคบนสังเวียนอันแพรวพราว สร้างความประทับใจให้แก่แฟนมวยปล้ำทุกครั้งเมื่อถึงเวลาแสดงฝีมือบนเวที

 

Monomoth หรือชื่อจริง "สรุจ ตั้งคุณสมบัติ" และชื่อเล่นที่เพื่อนๆ รู้จักกันว่า "มอธ" เล่าว่าเขาหลงใหลกีฬามวยปล้ำมาตั้งแต่เด็ก จากการนั่งดูมวยปล้ำกับพี่ชายที่บ้าน แม้จะรู้ว่าสิ่งที่เห็นบนเวทีคือการแสดง แต่เขาก็ยังคงชื่นชอบ และมีความฝันว่าอยากก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยปล้ำในอนาคต โดยมี มิคกี้ เจมส์ อดีตนักมวยปล้ำหญิง แชมป์ของ WWE เป็นแรงบันดาลใจ

สิ่งที่ทำให้ มอธ ชื่นชอบมวยปล้ำ ไม่เพียงแต่เรื่องความสนุกตื่นเต้นบนเวที แต่ยังชื่นชมเรื่องทักษะ ความสามารถของนักมวยปล้ำแต่ละคนที่พร้อมโชว์ฝีไม้ลายมือเต็มที่ ยอมเจ็บตัวเพื่อมอบความสุขให้กับคนดู โดยเฉพาะศาสตร์ของการเซลล์ท่า (รับท่าจากคู่ต่อสู้) ที่มอธ มองว่าเป็นศิลปะอีกแบบหนึ่งที่ต้องใช้ทักษะการสื่อสารทางร่างกาย ให้คนดูสัมผัสและรู้สึกได้มากที่สุด และเขาจะอินกับการปล้ำของนักมวยปล้ำผู้หญิงเป็นพิเศษ เนื่องจากมีลีลา ท่วงท่าที่สวยงามกว่านักมวยปล้ำชาย

มอธ เริ่มต้นเส้นทางมวยปล้ำของตัวเองด้วยการเรียนรู้วิชาจากค่าย Gatoh Move ก่อนเข้ามาเป็นสมาชิกสังกัด SETUP เขาเรียนรู้ทักษะพื้นฐานจากนักมวยปล้ำทั้งชาวไทยและต่างประเทศ พัฒนาตัวเองจากเด็กฝึกจนก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยปล้ำของสมาคมในชื่อ Monomoth ที่มีความหมายว่า "มอธที่มีแค่คนเดียว" หรือ "ผีเสื้อกลางคืน" ที่พร้อมมอบความสุขให้กับแฟนมวยปล้ำทุกเพศทุกวัยที่เข้ามาดูในสนามตั้งแต่ปี 2021

Monomoth เริ่มสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองด้วยการนำเสนอการปล้ำในรูปแบบมวยปล้ำ ผสมบราซิเลียน ยิวยิตสู และยิมนาสติกที่มีความอ่อนช้อยสวยงาม ทุกครั้งที่เดินขึ้นเวที SETUP มอธ จะครีเอตท่าใหม่ๆ มาโชว์ให้แฟนมวยปล้ำได้ชมเสมอ ล่าสุดก็โชว์ท่า Spanish Fly กับ แลนดอน เฮล นักมวยปล้ำชาวอเมริกันในศึก SETUP EP.17 ที่ทำให้แฟนมวยปล้ำตาลุกวาวและปรบมือชื่นชมกันทั้งสนาม

ไม่เพียงแต่ในเมืองไทย มอธ วัย 25 ปี ยังมีชื่อเสียงไปไกลถึงต่างแดน เมื่อเจ้าตัวได้รับการเชิญชวนจากสมาคมมวยปล้ำที่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอเมริกา ให้ไปแสดงฝีไม้ลายมือเพราะชื่นชอบในลีลาการปล้ำ ซึ่งล่าสุด มอธ ได้เดินทางไปปล้ำให้กับสมาคมอินดี้ GCW ที่อเมริกา รายการ EFFY’s BIG GAY BRUNCH 9 ที่ฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา วันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา ในแมตช์ 4 เส้า ร่วมกับ Aaron Rourke, Rico Gonzalez และ Devon Monroe ซึ่งปรากฏว่าเป็น Monomoth ที่คว้าชัยชนะไปได้ พร้อมกับเสียงชื่นชมจากเพื่อนร่วมวงการและคนดูว่าโชว์ฟอร์มได้ดีมาก

อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องเผชิญกับคอมเมนต์แง่ลบบนโลกออนไลน์ ทำนองว่า "มวยปล้ำคือการแสดง จะยินดีกันไปทำไม" หรือ "มวยปล้ำมันของปลอม" หรือ "ชุดที่ใส่นี่อย่างกับชุดหมอลำ" บ้างก็บูลลี่เรื่องเพศสภาพของเจ้าตัว ซึ่ง มอธ บอกว่าเจอกับคอมเมนต์ลักษณะนี้มาตลอดไม่ว่าในบทบาทนักมวยปล้ำ หรือในชีวิตจริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจและคิดว่าตัวเองควรทำหน้าที่ให้ความรู้ ความเข้าใจกับคนที่ยังไม่รู้ในเรื่องนี้มากกว่าตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรงกลับไป

Monomoth ตอบคำถามกับ Main Stand ถึงเรื่องนี้ว่า "เรามองว่าคอมเมนต์เหล่านั้นเขาถามด้วยความสงสัยมากกว่านะ เราเข้าใจด้วยความที่เราเคยทำสื่อมาก่อน ดังนั้นเวลาเจอคอมเมนต์ลักษณะนี้ หลายคนจะเป็นห่วงให้กำลังใจเรา แต่เรารู้สึกชิลมาก เราชินแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไร เราก็ดีใจที่มีคนในคอมมูนิตี้มวยปล้ำที่มาคอมเมนต์อธิบายและปกป้องเรา ส่วนเรื่องชุดที่ว่าเหมือนหมอลำ มอธไม่ได้โกรธนะเพราะเราว่ามันก็สวยดีออก ดังนั้นเราไม่ได้เสียใจอะไรเพราะเรารับมือกันมันได้อยู่แล้ว"

"ส่วนเรื่องที่โดนแซวว่าเป็นเกย์ มาเล่นมวยปล้ำได้ไง ส่วนมากจะเกิดขึ้นแค่ตอนเริ่มปล้ำช่วงแรกมากกว่า ตอนนี้ไม่มีใครมาพูดกับเราแบบนั้นแล้วเพราะเราเองก็พิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็นแล้วว่าทำได้ ได้โอกาสไปปล้ำที่ต่างประเทศ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะว่าอะไร เราก็รับมือกับคอมเมนต์ได้ดี ส่วนคำพูดที่ว่าไม่เชื่อหรอกว่าเป็นเกย์แล้วจะประสบความสำเร็จในฐานะนักมวยปล้ำ เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเรามองว่าตัวเองประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว"

ส่วนประเด็นที่คนส่วนใหญ่ชอบพูดกันว่า "มวยปล้ำมันของปลอม" มอธ ให้ความเห็นว่าไม่ได้รู้สึกแง่ลบกับคนที่คิดแบบนี้ กลับกันรู้สึกว่าถ้ามีโอกาสก็อยากอธิบายให้คนเหล่านั้นเข้าใจว่า มวยปล้ำคือศาสตร์และศิลปะรูปแบบหนึ่ง เป็นสปอร์ตเอนเตอร์เทนที่สามารถมอบความบันเทิงให้กับคนดูทุกเพศทุกวัย นักมวยปล้ำแต่ละคนฝึกซ้อม ออกกำลังกาย ดูแลตัวเองประหนึ่งนักกีฬาอาชีพ ก็เพื่อที่จะใช้ร่างกายในการวาดลวดลาย สร้างความบันเทิงให้กับแฟนๆ ของเขา

เปรียบเหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่นักมวยปล้ำสองคนจะวาดภาพอะไรลงในกระดาษก็ได้ แล้วสื่อสารมันออกมาให้คนดูได้เห็น เข้าใจ และสนุกไปกับมัน ที่ต่างประเทศจะไม่มีใครคิดลักษณะนี้เพราะเขารู้อยู่แล้วว่ามวยปล้ำไม่ใช่กีฬา แต่เป็นความบันเทิงอีกรูปแบบหนึ่งที่เขายินดีเสียเงินเข้าไปดูที่สนาม ส่วนคนไทยอาจคุ้นชินกับกีฬาที่แข่งขันกันจริงๆ ไม่มีบท ไม่มีสคริปต์ ทำให้พวกเขามองมวยปล้ำด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป

แต่ถึงอย่างนั้น มอธ ก็บอกว่าหากมีโอกาสก็อยากเชิญชวนทุกคนให้ลองมาดูมวยปล้ำสดๆ ที่ขอบสนาม เพราะวงการมวยปล้ำไทยตอนนี้กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก จากคนดูหลัก 10 ตอนนี้เพิ่มเป็น 500 คนแล้ว และมีโอกาสที่จะยกระดับสเกลให้ใหญ่ขึ้นไปได้อีก รวมถึงอาจทำให้คนที่เคยมีความคิดแง่ลบกับมวยปล้ำว่าเป็นการแสดง ไม่ใช่ของจริง ได้เปิดใจและพบมุมมองใหม่ๆ เมื่อได้เห็นความทุ่มเทของนักมวยปล้ำแต่ละคนที่พร้อมทุ่มจิตวิญญาณและร่างกายเพื่อทำให้คนดูทุกเพศทุกวัย กลับบ้านไปพร้อมกับความสุข

สุดท้าย เมื่อถามถึงเป้าหมาย Monomoth ตอบว่า "ถ้าเอาทั่วไปก็คืออยากทำผลงานให้ดีที่สุดในทุกแมตช์ จะทุ่มเทเต็มที่เพื่อให้แมตช์ออกมาดี และโอบรับทุกโอกาสที่เข้ามา อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ขอให้โชคชะตานำทางไป แต่ถ้าถามว่าความฝันสูงสุดคืออะไร ก็คืออยากขึ้นปล้ำใน WrestleMania เวทีในฝันของนักมวยปล้ำทุกคนบนโลกนี้ ลองนึกภาพว่าเราได้เปิดตัวเดินออกมาพร้อมกับพลุ แสงสีเสียงตระการตา และได้ปล้ำต่อหน้าคนดูหลักหมื่นบนเวทีใหญ่ขนาดนี้ มันต้องเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ"

ส่วน "ปูมิ" ปรัชญ์ภูมิ บุณยทัต เจ้าของสมาคม SETUP Thailand Pro Wrestling ต้นสังกัดของ Monomoth กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดของความคิดว่ามวยปล้ำคือการแสดง คือการเชื่อว่ามันไม่อันตราย ไม่เจ็บ และนำไปเล่นกันเอง

"สิ่งนี้กลายเป็นปัญหาไปทั่วโลก เพราะท่ามวยปล้ำต่าง ๆ ล้วนต้องมีการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ การจำจากทีวีไปทดลองเล่นกับเพื่อน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิตได้ ในฐานะผู้บริหารสมาคมมวยปล้ำจึงพยายามเน้นย้ำเรื่องการให้ความรู้กับผู้ชมเป็นระยะ ซึ่งหากเทียบกับช่วง 10 ปีที่แล้วตอนก่อตั้งสมาคมใหม่ ๆ ต้องยอมรับว่าทัศนคติของคนไทยต่อมวยปล้ำมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอีกมาก"

"เบื้องต้นเราอยากให้ทุกคนเข้าใจว่านักมวยปล้ำต้องผ่านการฝึกฝนเหมือนนักกีฬาอาชีพทุกประการ และยังต้องเสริมทักษะด้านการเอนเตอร์เทนผู้ชมเข้าไปอีกขั้น ถือเป็นศิลปะที่มีมิติลึกซึ้ง ดังนั้นนักมวยปล้ำ ตลอดจนผู้ชมที่หลงใหลในกีฬาชนิดนี้ก็สมควรได้รับเกียรติในสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบเช่นกันครับ"

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย

Graphic

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ