ศึกมวยปล้ำ WrestleMania ครั้งที่ 40 รูดม่านไปอย่างสวยงาม นักมวยปล้ำขวัญใจแฟนๆ อย่าง โคดี้ โรดส์ คว้าเข็มขัดแชมป์โลกได้ ขณะที่แฟนมวยปล้ำยุค 90 ก็อิ่มเอมกับการกลับมาของ เดอะ ร็อก ซูเปอร์สตาร์ตลอดกาล
เดอะ ร็อก เข้ามามีบทบาทสำคัญกับเส้นทางสู่ WrestleMania ในฐานะ "Final Boss" หัวหน้าสุดโฉดที่คอยเฆี่ยนตีพระเอกอย่าง โคดี้ แบบไร้ปราณี ขัดขวางทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเอาเข็มขัดแชมป์โลกไปจาก โรมัน เรนส์ ญาติของเขา ซึ่งรีแอ็คชั่นของแฟนๆ ก็มีทั้งชื่นชอบและด่าทอ เพราะเล่นได้ถึงบทบาทตัวโกงที่แท้ทรู
ศึก WrestleMania วันที่ 6-7 เมษายน ที่ผ่านมา เดอะ ร็อก ขึ้นปล้ำแท็กทีมร่วมกับ โรมัน เรนส์ เอาชนะ โคดี้ โรดส์ กับ เซธ โรลลินส์ ในคืนแรก ก่อนจะออกมาช่วยญาติตัวเองในศึกชิงแชมป์เดี่ยวในคืนที่สอง ทว่าก็มาพลาดโดน ดิ อันเดอร์เทเกอร์ คู่อริเก่าโผล่มาจับคอคีบกระเดือกมใส่ Chokeslam ตกเวทีไป
สำหรับ เดอะ ร็อก การกลับมาร่วมงานกับ WWE อีกครั้งตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 สร้างอิมแพ็คให้สมาคม และได้กระแสตอบรับจากแฟนๆ อย่างมาก เขาออกมาปรากฏตัวในโชว์รายสัปดาห์ กระทืบนักมวยปล้ำรุ่นน้องบนเวที รวมถึงเดินสายโปรโมต WM ตามรายการต่างๆ ก่อนจบด้วยการขึ้นปล้ำที่ฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเขาเองก็ได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานครั้งนี้มากพอสมควร
รายงานจาก CNN บอกว่า เดอะ ร็อก ได้รับค่าตอบแทนจากการกลับมาร่วมงานกับ WWE รอบนี้ที่ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1,095 ล้านบาท) จากการที่เขาขึ้นมาเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของ TKO บริษัทแม่ของ WWE และเป็นค่าเหนื่อยสำหรับการมาร่วมสร้างสีสันให้กับโชว์ของ RAW, Smackdown! และ WrestleMania ครั้งนี้ด้วย
เมื่อเทียบกับเงินค่าตัว 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1,825 ล้านบาท) ที่ได้จากการแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่น Red One ที่จะเข้าฉายปี 2024 เงินที่ได้จากการปล้ำใน WWE ถือว่าน้อยกว่า แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเมื่อ "แชมป์มหาชน" ในวัย 51 ปี ยังมีแพชชั่นให้กับมวยปล้ำอย่างเต็มเปี่ยม และทำได้อย่างน่าประทับใจสำหรับการรีเทิร์นช่วยงานของ WWE สมาคมที่ปลุกปั้นเขาให้โด่งดังไปทั่วโลก
ทั้งนี้ เดอะ ร็อก ยังแย้มว่าเขาอาจจะกลับมาขึ้นเวทีมวยปล้ำให้ WWE อีกครั้งหลังจบศึก WrestleMania 40 ซึ่งแฟนๆ ก็คาดว่าอาจจะเป็นแมตช์ที่ เดอะ ร็อก เผชิญหน้ากับ โรมัน เรนส์ ในศึกสายเลือด Bloodline ชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูลตามแผนที่วางไว้ในปีหน้า