เซร์คิโอ รามอส เปิดใจผ่านแถลงการณ์ส่วนตัวถึงเรื่องนี้ว่า "ถึงเวลาแล้วที่ผมต้องบอกลาทีมชาติสเปน เช้านี้ ผมได้รับโทรศัพท์จากเฮดโค้ชคนปัจจุบัน (หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้) ที่แจ้งว่าผมจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการทำทีมของเขา ไม่ว่าผมจะมีผลงานเป็นอย่างไรในอาชีพการงานก็ตาม หัวใจผมหนักอึ้ง มันคือจุดจบของเส้นทางผมคิดว่ามันน่าจะทอดยาวออกไป และจบลงด้วยรสชาติอันยอดเยี่ยมที่อยู่ในปากของผม"
"ผมเชื่ออย่างตรงไปตรงมาว่าผมควรจบเส้นทางนี้ด้วยตัวเอง หรือเพราะฟอร์มการเล่นของผมไม่เข้ากับทีมชาติ หรือเพราะอายุที่ไม่ควรเป็นข้อบกพร่อง มันก็แค่ตัวเลขที่ไม่น่าเกี่ยวข้องกันกับเรื่องผลงานหรือความสามารถ"
"ผมชื่นชมและอิจฉานักเตะอย่าง ลูก้า โมดริช, ลิโอเนล เมสซี่ หรือ เปเป้ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นสำหรับผม เพราะมันไม่มีความยุติธรรมในโลกฟุตบอลเสมอไป และฟุตบอลก็ไม่ใช่เป็นเรื่องแค่ฟุตบอล"
"ผมออกจากตรงนั้นพร้อมกับความทรงจำที่ยากลืมเลือน ถ้วยแชมป์ทั้งหมดที่เราต่อสู้มาได้และฉลองไปด้วยกัน ด้วยความภาคภูมิใจอย่างยิ่งใหญ่ที่ผมรู้สึกในฐานะนักฟุตบอลทีมชาติสเปนที่ติดทีมชาติมากที่สุดตลอดกาล ตราทีมชาตินี้ เสื้อตัวนี้ และแฟนบอลทุกคนทำให้ผมมีความสุข ขอบคุณจากใจจริงสำหรับทุกคนที่เชื่อมั่นใจตัวผม"
สำหรับ เซร์คิโอ รามอส ติดทีมชาตั้งแต่อายุ 18 ปี รับใช้ชาติบ้านเกิดทั้งสิ้น 180 นัด รับตำแหน่งกัปตันทีมชาติ มีเกียรติประวัติคว้าแชมป์ ยูโร ปี 2008 กับ 2012 และคว้าแชมป์โลกปี 2010 และเขาคือหนึ่งในกองหลังที่แฟนบอล "ลา โรฆา" รักมากที่สุดตลอดกาล