เทคโนโลยีเช็คล้ำหน้า ถูกใช้เป็นครั้งแรก ในเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก จากจังหวะปฏิเสธประตูของเชลซี

ศึกชิงจ้าวสโมสรยุโรปอย่าง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2022/23 เปิดฉากขึ้นแล้ว นอกจากการขับเคี่ยวระหว่างสโมสรชั้นนำในยุโรป เชื่อว่า สิ่งที่แฟนบอลต้องการเห็นไม่แพ้กันก็คือ เทคโนโลยีจับล้ำหน้า (Semi-automated) ที่ถูกนำมาใช้ในเกมอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

 

สหพันธ์ลูกหนังยุโรป ประกาศตั้งแต่เดือนก่อนแล้วว่า จะมีการนำ Semi-automated มาใช้ในเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก หลังจากได้ทำการทดสอบและผลออกมาน่าพอใจ เพื่อเพิ่มความถูกต้องและแม่นยำในการตัดสินให้มีมากขึ้น เพราะลำพังแค่ VAR อย่างเดียว มันยังไม่พอ

และการใช้ Semi-automated ครั้งแรก เกิดขึ้นในเกมระหว่าง ดินาโม ซาเกร็บ พบ เชลซี โดย ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง ส่งบอลเข้าไปกองในก้นตาข่ายในช่วงต้นครึ่งหลัง ก่อนจะถูก Semi-automated ปฏิเสธ เพราะ เบน ชิลเวลล์ ที่เป็นคนแอสซิสต์ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า 

Semi-automated ได้สร้างภาพจำลอง 3 มิติของ เบน ชิลเวลล์ กับ กองหลังตัวสุดท้ายของ ดินาโม ซาเกร็บ แบบ 360% และมันก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า แบ็คซ้ายของสิงห์บลูอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าจริง ๆ ซึ่งทำเอาแฟนบอลหลายคนเอ่ยปากชมเทคโนโลยีตัวนี้เลยทีเดียว

เทคโนโลยี Semi-automated ทำงานโดยการสร้างภาพจำลอง 3 มิติ จากกล้องทั้งหมด 12 ตัวในสนาม โดยจะมีการติดเซ็นเซอร์ไว้ที่ลูกบอล Adidas Al Rihla ซึ่งสามารถบันทึกข้อมูลการกระแทกและสั่นสะเทือนได้ถึง 500 ครั้ง/วินาที แล้วส่งกลับไปยังผู้ตรวจสอบเกมให้เช็คอย่างละเอียด

ขณะเดียวกัน จะมีการนำระบบ AI เข้ามาติดตั้งแทน VAR ที่ตามเช็คไลน์ล้ำหน้าของนักเตะ เพื่อช่วยให้ตัดสินได้เร็วและถูกต้องมากขึ้น รวมถึงยังพัฒนาระบบภาพให้แฟนบอลดูได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่า Semi-automated offside technology จะใช้เวลาในการตัดสินจังหวะล้ำหน้าระหว่าง 25-70 วินาที

นอกจาก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แล้ว Semi-automated จะถูกนำไปใช้ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ในระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน - 18 ธันวาคมด้วย 

 

ที่มา :
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-11186415/New-semi-automated-VAR-used-time-rule-Chelsea-equaliser-Zagreb.html
https://www.givemesport.com/88056973-semi-automated-offside-chelsea-goal-disallowed-vs-dinamo-zagreb