ทัพนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ลงสนามพบ ทีมชาติญี่ปุ่น ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สนามดีวาย พาทิล สเตเดียม ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 30 มกราคม 65 โดยเกมนี้หาก “ชบาแก้ว” สามารถคว้าชัยชนะได้จะคว้าตั๋วไปลุยศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 ทันที แต่ถ้าแพ้จะต้องไปลุ้นต่อในแก้ตัว
ก่อนเกมนี้ ทีมไทยมีนักเตะติดโควิด-19 จนเหลือผู้เล่นในใบรายชื่อเพียงแค่ 14 คน (ตัวจริง 11 คน สำรอง 3 คน) และ 1 ใน 3 ตัวสำรองอย่าง พิกุล เขื่อนเพ็ชร กองกลางยังมีอาการบาดเจ็บติดตัวจนไม่สามารถลงสนามได้อย่างแน่นอนด้วยเช่นกัน
เปิดฉากมา ญี่ปุ่น ทีมอันดับ 3 ของเอเชียและอันดับ 13 ของโลก เป็นฝ่ายเดินเกมรุกเข้าใส่และมาได้ลูกจุดโทษตั้งแต่นาทีที่ 15 ทว่า มานะ อิวาบูชิ แนวรุกตัวเก่งยิงไปติดเซฟ วราภรณ์ บุญสิงห์ แต่ถัดมานาที 27 ทัพสาว “ซามูไร” ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ฮินาตะ มิยาซาวะ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายให้ ยูอิกะ ซูกาซาวะ ตัวสำรองจิ้มในกรอบเข้าไป
หลังจากนั้น เจ้าของแชมป์โลกปี 2011 และแชมป์เก่ารายการนี้ 2 สมัย (2014, 2018) ยังคงเป็นฝ่ายคุมเกมขึงต่อเนื่องและมาได้ประตูเพิ่ม 2-0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากการเข้าชาร์จหน้าปากประตูของ ฮินาตะ มิยาซาวะ และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง ญี่ปุ่นยังร้อนแรงต่อเนื่องโดยใช้การโจมตีจากด้านข้างแล้วตบเข้ากลางเป็นทีเด็ด ก่อนที่นาที 48 จะมาหนีห่าง 3-0 จากรูปแบบการโจมตีดังกล่าวและเป็น ริน ซูมิดะ ที่ยิงโล่ง ๆ ในกรอบเข้าไป จากนั้นนาที 65 ญี่ปุ่นมาได้จุดโทษอีกครั้ง คราวนี้เปลี่ยนคนยิงมาเป็น ยูอิกะ ซูกาซาวะ และสังหารไม่พลาด ทิ้งขาด 4-0
ถัดมานาที 76 ญี่ปุ่นมาบวกสกอร์ 5-0 จากการลากขึ้นมายิงของ ริโกะ ยูอิกิ ต่อด้วย 6-0 ในนาที 80 จาก ยูอิกะ ซูกาซาวะ คนเดิมซึ่งเป็นการทำแฮตทริกของเจ้าตัว และกองหน้าวัย 31 ปี ยังมาบวกสกอร์ 7-0 ได้อีกในนาที 83
จบเกม ทีมชาติญี่ปุ่น เป็นฝ่ายชนะขาดลอย 7-0 ทำให้ทีมชาติไทยต้องยุติเส้นทางศึกชิงแชมป์เอเชียเพียงรอบนี้ แต่ยังได้ลุ้นตั๋วไปลุยฟุตบอลโลก 2023 ต่อในรอบแก้ตัว
โดยผลอีกคู่ ออสเตรเลีย (เจ้าภาพร่วมฟุตบอลโลก) แพ้ เกาหลีใต้ 0-1 ทำให้ “ชบาแก้ว” ต้องลงเล่นรอบแก้ตัวแบบพบกันหมดร่วมกับอีก 3 ทีมที่ตกรอบมาเช่นกัน ได้แก่ ผู้แพ้คู่ จีน-เวียดนาม และ ไต้หวัน-ฟิลิปปินส์
ในรอบนี้ทีมที่มีคะแนนดีที่สุดเพียงทีมเดียวจะได้ไปฟุตบอลโลก (ส่วน 2 ทีมที่เหลือ จะยังได้โอกาสไปลุ้นต่อในรอบเพลย์ออฟกับทีมจากทวีปอื่นอีก 9 ทีม เพื่อโควตาอีก 3 ที่นั่งสุดท้าย)