News

จากพรีเมียร์ลีกสู่ทะเลทราย จอนโจ้ เชลวี่ย์ กับชีวิตใหม่ที่ดูไบในลีกระดับ 3 ยูเออี

จอนโจ้ เชลวี่ย์ เคยยิงจุดโทษพลาดมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งล่าสุดกลับกลายเป็นไวรัล ไม่ใช่เพราะฝีเท้าโดดเด่น แต่เพราะมันพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ

 

คลิปจากเกมดิวิชั่น 2 ซึ่งถือเป็นลีกระดับสามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ลีกสูงสุดของที่นั่นใช้ชื่อว่า โปรลีก) ระหว่าง อาระเบียน ฟอลคอนส์ กับ อัล ฟาเตห์ กลายเป็นที่พูดถึงทั่วโลก เมื่ออดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษยิงลูกจุดโทษไม่เข้า ทั้งที่ในสนามมีแฟนบอลเพียงแค่ราว 75 คนเท่านั้น 

สำหรับชายที่เคยเล่นต่อหน้าแฟนบอลกว่า 50,000 คนในพรีเมียร์ลีก มันคือความเปลี่ยนแปลงระดับฟ้ากับเหว แต่เจ้าตัวกลับหัวเราะให้กับมัน "ผมไม่สนใจเลยนะ" เชลวี่ย์บอก "บางคนบอกว่าผมมาเล่นที่นี่เพราะเงิน  เงินอะไรล่ะ ? ลีกดิวิชั่นสองของยูเออีไม่ได้มีเงินแบบนั้น !"

ค่าจ้างเฉลี่ยของนักเตะในลีกอยู่ที่ราว 2,000 ปอนด์ต่อเดือน ซึ่งน้อยกว่าพี่ชายของเขาซึ่งทำงานในโรงแรมที่กรุงลอนดอนเสียอีก "ผมไม่ได้มาที่นี่เพราะเงิน ผมมาเพราะอยากกลับมาสนุกกับฟุตบอลอีกครั้ง"

 

จากความว่างเปล่าสู่โอกาสใหม่ในทะเลทราย

หลังบาดเจ็บแฮมสตริง และทดสอบฝีเท้ากับ ฮัลล์ ซิตี้ ไม่ผ่าน เชลวี่ย์กลายเป็นนักเตะไร้สังกัดอยู่สองเดือนเต็ม จนเพื่อนเก่าสมัยเด็ก แฮร์รี่ อากอมบาร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีม อาระเบียน ฟอลคอนส์ โทรมาชวนให้ย้ายมาดูไบเพื่อ "ช่วยสร้างทีม"
มันเป็นคำเชิญที่ทำให้ชีวิตของเขาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

"ผมมีช่วงเวลาของผมแล้ว" เชลวี่ย์เล่า "ตอนนี้ผมแค่อยากสนุกกับฟุตบอลอีกครั้ง ตื่นเช้ามา ฝึกซ้อม ใช้เวลากับครอบครัว แค่นั้นก็พอ"

แม้ครอบครัวของเขาจะยังอยู่ที่ไทน์ไซด์ ทั้งที่นักเตะวัย 33 ปีผู้นี้ย้ายออกจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 2023 แต่เขามองว่าชีวิตในอังกฤษไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 

"ผมไม่อยากให้ลูก ๆ โตในอังกฤษแล้ว" เขายอมรับ "คุณไม่สามารถใส่นาฬิกาเดินในลอนดอนได้อีกต่อไป ทุกวันนี้ขนาดถือโทรศัพท์ยังต้องระวัง"

ข้อมูลจากตำรวจนครบาลกรุงลอนดอนระบุว่า มีโทรศัพท์มือถือกว่า 80,000 เครื่องถูกขโมยในปีที่ผ่านมา และถึงคุณจะเป็นคนดังก็ไม่รอดพ้นจากเรื่องนี้ เพราะขนาดแชมป์โลก F1 ปี 2009 เจนสัน บัตตัน ยังถูกชิงทรัพย์เลย

ถึงอย่างนั้น เชลวี่ย์ก็ไม่พูดโจมตีประเทศบ้านเกิดตรง ๆ "ผมไม่ใช่คนเข้าใจการเมืองมากนัก แต่ผมแค่รู้สึกว่าสหราชอาณาจักรเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อ 10-15 ปีก่อนแล้ว"

 

หัวใจที่ยังอยู่ที่นิวคาสเซิ่ล

แม้จะย้ายออกจากอังกฤษ แต่หัวใจของเชลวี่ย์ยังคงอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรที่เขาค้าแข้งยาวนานที่สุดในชีวิต 7 ปีเต็มตั้งแต่ย้ายมาจาก สวอนซี ซิตี้ เมื่อปี 2016

"ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือที่เดียวที่ผมอยากอยู่จริง ๆ" เขากล่าว "บางคนบอกว่านิวคาสเซิ่ลสู้ทีมใหญ่จากแมนเชสเตอร์หรือจากลอนดอนไม่ได้ แต่ใครที่ไม่เคยอยู่ที่นั่นจะไม่มีวันเข้าใจว่ามันมีเสน่ห์ขนาดไหน"

เขาพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "คุณจะไม่มีวันเจอความรักในสโมสรฟุตบอลแบบที่ผมได้รับจากที่นั่น  ทั้งจากแฟนบอล เพื่อนร่วมทีม และสโมสรเอง"

เชลวี่ย์ยังจำได้ดีถึงประตูสำคัญที่เขายิงใส่ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนมกราคม 2022 ซึ่งช่วยให้ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ในยุคที่กลุ่มทุนจากประเทศซาอุดีอาระเบียเพิ่งเข้ามาถือหุ้นใหม่ ๆ พลิกสถานการณ์จากทีมหนีตกชั้น กลายเป็นทีมหัวแถวในปัจจุบัน 

"ถ้าผมไม่ยิงลูกนั้น สโมสรอาจตกชั้นไปแล้วก็ได้" เขาพูดพร้อมหัวเราะ "จริง ๆ แล้วผู้รักษาประตูเขาพลาดมากกว่า แต่ก็เถอะ มันคือโมเมนต์ที่ผมจะไม่มีวันลืม"

 

บทเรียนสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอล

ตอนนี้ เชลวี่ย์แบ่งเวลาระหว่างการซ้อมตอนเช้ากับการเรียนโค้ชตอนเย็น เพื่อคว้าใบอนุญาต UEFA A Licence

เขายังไม่กล้าติดต่อ เอ็ดดี้ ฮาว เพื่อขอเข้าชมการฝึกซ้อมหรือไปช่วยสอนเด็กในอะคาเดมี่ของนิวคาสเซิ่ล แม้หลายคนที่นั่นอยากให้ไป เพราะอยากเดินไปถึงจุดนั้นด้วยความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่เพราะรู้จักใคร

ในทีม อาระเบียน ฟอลคอนส์ มีอดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง ราเวล มอร์ริสัน อยู่ด้วย และเขาเชื่อว่านักเตะหลายคนที่นี่ดีพอจะกลับไปเล่นในอังกฤษได้หากได้รับโอกาส

แต่เวลาย่อมทิ้งร่องรอยไว้ "ร่างกายของผมไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว" เขายอมรับ "ทุกครั้งที่ซ้อม ผมมักคิดว่า 'นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายไหม ?' ถ้าเจ็บหนักอีกที ผมคงเลิกจริง ๆ"

อย่างไรก็ตาม เสียงหัวเราะของเขาตอนพูดประโยคสุดท้ายนั้นบอกชัด เชลวี่ย์ยังรักเกมฟุตบอลเหมือนเดิม

แค่วันนี้ … เขาเลือกจะเล่นมันด้วยหัวใจ ไม่ใช่เพื่อชื่อเสียงหรือเงินทองอีกต่อไป

 

ภาพข่าว: Arabian Falcons 

ที่มา: https://www.bbc.com/sport/football/articles/cx2n8wd2znzo

Author

เจษฎา บุญประสม

EAT, SLEEP, TRAVEL, RACE, MAKE LOVE, REPEAT