ย้อนกลับไปวันที่ 12 เมษายน 2024 ในเกม โคปา ลิเบอตาโดเรส รอบแบ่งกลุ่ม พัลไมรัส มีโปรแกรมต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งไม่ใช่ ลิเวอร์พูล จากแคว้นเมอร์ซี่ย์ไซด์ ประเทศอังกฤษ แต่เป็น Liverpool Fútbol Club ทีมฟุตบอลจากกรุงมอนเตวิเดโอ้ ประเทศอุรุกวัย
นัดนั้น พัลไมรัส เลือกให้โอกาส เอสเตเวา วิลเลี่ยน ปีกดาวรุ่งที่ตอนนั้นอายุเพิ่งเพียงแค่ 17 ย่าง 18 ปีลงสนามเป็นตัวจริงในตำแหน่งริมเส้นฝั่งขวา
ประตูที่เขาทำได้เกิดขึ้นในนาทีที่ 66 เป็นจังหวะที่ ราฟาเอล เวก้า เพลย์เมกเกอร์ของ พัลไมรัส เปิดบอลจากมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่ เอสเตเวา วิลเลียน จะวิ่งมาโหม่งให้ทีมนำ ลิเวอร์พูล มอนเตวิเดโอ้ ไป 3-1 และเกมจบลงด้วยสกอร์นี้
ซึ่งการที่ เอสเตเวา วิลเลียน ทำประตูในนัดนั้น มันได้สร้างสถิติให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุต่ำกว่า 17 ปีคนที่ 3 ที่ยิงได้ในรายการ โคปา ลิเบอตาโดเรส ต่อจาก อังเชโล่ กาเบรียล และ เอนดริค
ตัดภาพมาที่เกมพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ปี 2025 คู่ระหว่าง เชลซี ที่เปิดบ้านเจอกับ ลิเวอร์พูล เอสเตเวา วิลเลี่ยน เป็นตัวสำรอง ก่อนจะถูกเปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 75
และเจ้าหนูรายนี้ใช้เวลาอยู่ในสนามเพียงแค่ 20 นาทีก็สามารถยิงประตูได้ในนาทีที่ 90+6 กลายเป็นประตูชัยที่ช่วยให้ เชลซี เฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 พร้อมกับเป็นประตูแรกในพรีเมียร์ลีกของ เอสเตเวา วิลเลี่ยน ด้วย
โดยหลังจบเกม เอสเตเวา วิลเลี่ยน ก็ได้สร้างสถิติใหม่กลายเป็นนักเตะบราซิลอายุน้อยสุดที่ยิงประตูชัยในเกมพรีเมียร์ลีกด้วยวัยเพียงแค่ 18 ปี กับอีก 163 วัน
นับเป็นอีกหนึ่งความบังเอิญ เอสเตเวา วิลเลี่ยน ที่ประตูแรกกับทั้ง พัลไมรัส และ เชลซี เกิดขึ้นกับการเจอคู่แข่งที่ชื่อเหมือนกันอย่าง ลิเวอร์พูล