วันนี้ (30 กันยายน พ.ศ. 2568) นาย เซลแมน คาเรกา ประธานภูมิภาคอาเชียนและแปซิฟิกตอนใต้ เดอะ โคคา-โคล่า คัมปะนี่ และ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกันแถลงข่าว พร้อมกับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง "โคคา-โคล่า" ร่วมกับ "สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์" ในการนำการจัดการแข่งขัน "โค้ก คัพ" กลับมาอีกครั้ง
ภายในงานยังมี "ตอง" กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติไทย และ "ตั้ม" ธนบูรณ์ เกษารัตน์ นักเตะดีกรีทีมชาติไทย มาร่วมแชร์ประสบการณ์ความประทับใจ สมัยเป็นนักเตะเยาวชน ที่ผ่านสังเวียนแข้ง "โค้ก คัพ" มาก่อน
"โค้ก คัพ" จะกลับมาสร้างปรากฏการณ์ใน พ.ศ. 2569 ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันในลีกเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี หรือ U17 เปิดโอกาสให้นักฟุตบอลไทยรุ่นใหม่ได้มีโอกาสฝึกฝนและแข่งขัน เพื่อสานฝันสู่การเป็นตัวแทนนักกีฬาฟุตบอลไทยในการแข่งขันระดับโลก
"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำชา นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า "ความร่วมมือระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กับโคคา-โคล่า ประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของวงการฟุตบอลไทย โดยเฉพาะในระดับเยาวชน อย่างรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เป็นหนึ่งในรุ่นที่สมาคมฯ ให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะนอกจากเป็นช่วงอายุที่นักกีฬามีโอกาสเข้าสู่เส้นทางความฝันในการเป็นนักกีฬาอาชีพแล้ว ยังสอดคล้องกับในระดับนานาชาติ หลังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ปรับให้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ขึ้นต่อเนื่องในทุกปี ดังนั้น การกลับมาของ 'โค้ก คัพ' ในรูปแบบใหม่ จึงถือเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญ ในเรื่องทรัพยากรนักกีฬา และเป็นประตูสู่โอกาสไปฟุตบอลโลก ของทีมชาติไทย U17 มากยิ่งขึ้น"
โครงการนี้มีระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2569 ถึง พ.ศ. 2571 สำหรับ พ.ศ. 2569 สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะจัดการแข่งขันรวม 195 นัด ประกอบด้วยทีมที่ผ่านการคัดเลือก 192 ทีม จาก 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งคัดเลือกจากโรงเรียนและสถาบันที่ได้รับการรับรองจากสมาคมฯ เพื่อให้มั่นใจว่าเยาวชนที่มีความสามารถจะเข้าถึงการแข่งขันได้อย่างทั่วถึง
"โค้ก คัพ" โฉมใหม่จะเริ่มจัดการแข่งขันระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2569 ทีมชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท ส่วนทีมรองชนะเลิศอันดับหนึ่งจะได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท นอกจากนี้ ตลอดทั้งการแข่งขันจะมีการเฟ้นหานักเตะฝีเท้าดีเพื่อคัดเลือกเข้าทีมชาติ ซึ่งกระบวนการคัดเลือกจะใช้โมเดล T+MASC ของสมาคมฯ เพื่อติดตามผลงานและสนับสนุนการพัฒนาผู้เล่น ซึ่งเป้าหมายของโครงการ คือ การพาทีมชาติไทยเข้ารอบในการแข่งขันเอเชียนคัพ และฟุตบอลโลก U17 ในที่สุด