News

จอห์น เทอร์รี เผยยังลืมฝันร้าย แพ้ดวลจุดโทษนัดชิงฯ UCL 2008 ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้

ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2008 รอบชิงชนะเลิศ ที่มอสโก ระหว่าง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นครั้งแรกที่ทีมจากอังกฤษต้องมาชิงดำกันเอง อย่างไรก็ตามสำหรับ จอห์น เทอร์รี ปราการหลังกัปตัน “สิงห์บลูส์” ตอนนั้น การชวดแชมป์ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว จากความผิดพลาดส่วนตัว ยังตามหลอกหลอนไม่หาย

 


เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอกันในเวลาปกติรวมถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-1 ส่งผลให้ทั้งสองทีมต้องตัดสินด้วยการดวลลูกโทษ และเป็น “ปีศาจแดง” ที่แม่นกว่า ปราบพยศ เชลซี 6-5 คว้าแชมป์ยุโรปไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่

ขณะเดียวกันแฟนบอลเชลซี หรือแม้กระทั่งทีมอื่น ๆ คงมีภาพจำ จอห์น เทอร์รี ผู้ซึ่งยิงคนที่ 5 แต่ลื่นจนสังหารจุดโทษพลาด เพราะหาก เทอร์รี ยิงเข้า เชลซี คงคว้าแชมป์ไปแล้ว

กระทั่งปัจจุบัน จอห์น เทอร์รี่ เองก็ยังรู้สึกเจ็บปวดกับความผิดพลาดของตนเองไม่หาย พร้อมเผยผ่าน FourFourTwo นิตยสารชื่อดัง ว่าเขายังมีภาพความผิดพลาดในคืนนั้นผุดขึ้นมาในหัวเป็นประจำ

“แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นถ้วยที่ยากที่สุดที่จะคว้ามาได้ และแค่การได้เข้าชิงชนะเลิศก็มีความหมายกับทุกคนมากแล้ว”

“การได้เล่นรอบชิงฯกับทีมจากอังกฤษด้วยกันเองมันก็รู้สึกแปลก ๆ อยู่ แต่พวกเขา (แมนฯ ยูไนเต็ด) เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม และเกมก็หนักมากจริง ๆ”

“จริง ๆ แล้ว ผมไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่จะยิงจุดโทษ 5 คนแรกด้วยซ้ำ แต่เพราะ ดิดิเยร์ ดร็อกบา โดนใบแดงไล่ออกไป ผมเลยต้องรับหน้าที่นั้นแทน”

“ผมยังคงคิดถึงความผิดพลาดของตัวเองจนถึงทุกวันนี้ จริง ๆ มันไม่ได้บ่อยเหมือนแต่ก่อน แต่ผมก็ยังมีอาการสะดุ้งตื่นขึ้น แล้วภาพนั้นก็ลอยมาอยู่ในหัวผมเสมอ ผมเห็นมันชัดเจนเลย”

“เมื่อคุณมองย้อนกลับไปในอาชีพค้าแข้งของตัวเอง ถ้วยแชมป์มีความหมายมากก็จริง แต่ถ้วยที่คุณพลาดไปต่างหากคือสิ่งที่มันสามารถตามหลอกหลอนคุณได้ และผมจะไม่มีวันลืม ผมไม่คิดว่าผมจะก้าวผ่านไปได้เลย”

“เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจผมหนักเอาการ แล้วผมก็มาเจอเรื่องหนักสุด ๆ ตอนไปเข้าแคมป์ทีมชาติอังกฤษ เพราะผมต้องเจอหน้าพวกนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดอีกครั้ง ซึ่งต้องบอกว่า พวกเขานิสัยดีมากจริง ๆ ไม่มีใครซ้ำเติมผมเลย”

“หลังจากนั้น เราก็มีเกมอุ่นเครื่องกับสหรัฐฯ ที่เวมบลีย์ และผมก็โหม่งทำประตูได้ ซึ่งเป็นประตูที่สวยด้วยนะ”

“แต่คืนนั้นผมนั่งอยู่คนเดียว แล้วคิดว่า ‘ทำไมเกมก่อนหน้านี้ต้องเจ็บปวดขนาดนั้น แล้วทำไมเกมนี้มันถึงไปได้สวย? ทำไมมันไม่สลับกันล่ะ? ทำไมฝนต้องเทลงมาที่มอสโก ไม่ใช่คืนนี้?’”

“ผมพังจริง ๆ อย่างไรเสียต้องขอบคุณพระเจ้าที่เราคว้าแชมป์ UCL ได้ในปี 2012 มันช่วยเยียวยาผมได้เยอะมากเลย”

 

Author

รณกฤต ตุลยะปรีชา

วัยรุ่นคู้บอน

Graphic

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1