ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2023 แฟนบอล แอตเลติโก มาดริด แขวนหุ่นจำลองของ วินิซิอุส จูเนียร์ จากเรอัล มาดริด บนสะพานใกล้สนามซ้อมของทีมเป็นหนึ่งในกรณีสะเทือนใจที่สะท้อนปัญหาความเกลียดชังและการเหยียดผิวในวงการฟุตบอลสเปนอย่างชัดเจน
เหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงออกของความเป็นคู่แข่งในสนามฟุตบอล แต่เป็นการกระทำที่ข้ามเส้นความเป็นมนุษย์อย่างรุนแรง เมื่อหุ่นผิวดำสวมเสื้อหมายเลข 20 ของวินิซิอุสถูกแขวนคอพร้อมป้ายข้อความ “Madrid hates Real” บนสะพานก่อนเกมโคปา เดล เรย์ ระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่ของเมืองหลวงสเปน แอตเลติโก มาดริดและเรอัล
กระทั่งล่าสุดศาลได้ตัดสินแฟนบอลของ แอตเลติโก้ มาดริด 4 คนรอลงอาญา หลังมีส่วนร่วมในเหตุการณ์นี้
ศาลตัดสินให้จำเลยหนึ่งราย ได้รับโทษจำคุก 14 เดือนในข้อหาอาชญากรรมความเกลียดชัง และอีก 7 เดือนในข้อหาข่มขู่ เนื่องจากเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวทางออนไลน์ ส่วนอีกสามคนถูกตัดสินจำคุก 7 เดือนในข้อหาอาชญากรรมความเกลียดชัง และ 7 เดือนในข้อหาข่มขู่เช่นกัน
แต่ทั้ง 4 คนส่งจดหมายขอโทษถึง วินิซิอุส สโมสรเรอัล มาดริด ,ลาลีกา และสมาคมฟุตบอลสเปน เป็นที่เรียบร้อย พร้อมต้องเข้าอบรมเรื่องการเคารพความเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ
นอกจากนี้ ทั้ง 4 คน ถูกปรับเงินและถูกแบนจากการทำงานในสถานศึกษา กีฬา หรือกิจกรรมเยาวชนเป็นเวลา 4 ปี 3 เดือน และยังถูกสั่งห้ามเข้าใกล้ วินิซิอุส หรือสนามฟุตบอลในระยะ 1 กิโลเมตร เป็นเวลานานกว่า 5ปี
ลาลีกา และ เรอัล มาดริด ต่างแสดงจุดยืนชัดเจนในการต่อต้านการเหยียดผิวและความเกลียดชังในวงการฟุตบอลโดย ลาลีกาเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเข้มงวดและลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด ขณะที่แอตเลติโก้ มาดริด ย้ำว่าความเป็นคู่เเข่งในสนามไม่ควรทำลายความเคารพและความสามัคคีระหว่างแฟนบอล
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าฟุตบอลไม่ได้เป็นเพียงเกมกีฬา แต่ยังเป็นสนามรบทางสังคมที่ต้องเผชิญกับปัญหาความรุนแรงทางวัฒนธรรมและการเลือกปฏิบัติที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน