ในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อคืนนี้ อิตาลี โดน เยอรมนี รัวสามลูกรวดในช่วงครึ่งเวลาแรกจากการทำประตูของ โจชัว คิมมิช, จามาล มูเซียล่า และ ทิม ไคลน์ดีนส์ต ก่อนที่ในช่วงครึ่งหลังทัพ "อัซซูรี่" จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจนสามารถกลับมาจบเกมด้วยสกอร์เสมอกัน 3-3
แต่สุดท้ายแล้วทีมชาติอิตาลี ก็ต้องตกรอบด้วยสกอร์รวม 4-5 (แพ้นัดแรก 1-2) และทำให้พวกเขาโดนจับไปอยู่ในกลุ่ม I ของศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่มี 5 ทีมแต่เอาผ่านเข้ารอบเพียงแค่ทีมเดียว โดยประกอบด้วย นอร์เวย์, อิสราเอล, อิตาลี, เอสโตเนีย รวมถึง มอลโดวา
หลังจบเกมนักข่าวจึงไม่พลาดที่จะสอบถามถึงเกมครึ่งแรกอันแสนย่ำแย่ ซึ่ง ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ ร่ายยาวว่าผู้เล่นบางคนเกิดอาจอาการกลัวเมื่ออยู่ในสนาม รวมถึงอาจเป็นเพราะตัวเขาเองที่เลือก 11 ตัวจริงผิดพลาด "ผู้จัดการทีมจะสังเกตเห็นได้ว่านักเตะไม่ได้สัมผัสถึงความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พวกเขาจะได้รับ"
"โอกาสที่จะได้ลงเล่นในแมตช์เหล่านี้เป็นเรื่องยาก เพราะนั่นคือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง หากคุณกลัว คุณก็กำลังทุกข์ทรมานตั้งแต่ยังไม่เกิดเรื่องขึ้นด้วยซ้ำ เราทำผิดพลาดหลายครั้งในการจ่ายบอลจากแนวหลัง มีหลายอย่างเกินไปที่เราสามารถทำได้ดีกว่านี้"
"การเสียประตูที่สองทำให้เราตื้อไปเลย แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นักเตะของผมคือพวกเขา และผมจะอยู่เคียงข้างพวกเขาเสมอ แม้จะมีคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ถูกต้องอยู่บ้างก็ตาม"
ส่วนเรื่องการจัด 11 ผู้เล่นตัวจริง ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ ยอมรับว่า "เป็นเรื่องจริงเช่นกันที่บางทีผมอาจทำผิดพลาดในการเลือกผู้เล่นตัวจริง แนวคิดคือต้องยืนหยัดและทำทุกอย่างที่เราทำได้ในครึ่งหลัง แต่มันก็พังทลายในครึ่งแรก เราไม่สามารถครองบอลได้ ไม่สามารถสร้างโมเมนตัมใด ๆ เพื่อลดแรงกดดัน"
"เมื่อผมกับนักเตะเข้าไปในห้องแต่งตัวในช่วงพักครึ่ง ผมทำให้พวกเขาตระหนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นน่าอายขนาดไหน และพวกเขาก็แสดงปฏิกิริยากลับมาแบบมืออาชีพ ... ผมอาจเลือกผู้เล่นคนอื่น 2 หรือ 3 คนลงเล่นเป็น 11 ตัวจริงแทนบางตำแหน่ง แต่ผมเชื่อว่าผลลัพธ์จะออกมาคล้ายกัน"
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทีมชาติอิตาลี เมื่อคืนนี้ ระบบ 3-5-2 ประกอบด้วย : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (ผู้รักษาประตู), อเลสซานโดร บาสโตนี่ , อเลสซานโดร บูออนจอร์โน่, เฟเดริโก้ กัตติ, เดสตินี่ อูโดกี้, ซานโดร โตนาลี, ซามูเอเล่ ริชชี่, นิโคโล่ บาเรลล่า, จิโอวานนี่ อิ ลอเรนโซ่, ดาเนียล มัลดินี่ และ มอยเซ่ คีน
