News

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นราคาตั๋วปี 5% ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม แฟนบอลไม่พอใจ สะท้อนวิกฤติการเงินสโมสร

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศขึ้นราคาตั๋วปีสำหรับฤดูกาล 2025-26 เพิ่มขึ้น 5% ซึ่งนับเป็นปีที่สามติดต่อกันนับตั้งเเต่ปี 2024-25 เเละ 26 ที่จะมาถึง เฉลี่ยการเพิ่มของตั๋วปีจาก 551 ปอนด์ อาจทะยานสูงถึง 1,110 ปอนด์ ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากกลุ่มแฟนบอล Manchester United Supporters Trust (MUST) ที่เคยเรียกร้องให้สโมสรตรึงราคาตั๋วเพื่อช่วยบรรเทา ภาระของผู้ชม

 


แม้สโมสรจะยังคงตรึงราคาตั๋วสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี แต่กลับ ลดสิทธิ์ส่วนลดสำหรับผู้สูงอายุ และ ปรับเปลี่ยนที่นั่งบางส่วนในโอลด์ แทรฟฟอร์ดเป็นโซนต้อนรับพิเศษ (hospitality seats) เพื่อขายในราคาพรีเมียม

สิ่งที่ทำให้แฟนบอลไม่พอใจมากขึ้นคือการประกาศขึ้นราคาตั๋วนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ หนึ่งในเจ้าของร่วมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศแผนสร้างสนามใหม่มูลค่า 2 พันล้านปอนด์ พร้อมย้ำว่าสโมสรจะหมดเงินภายในคริสต์มาสหากไม่มีการลดต้นทุนและเพิ่มรายได้

ตลอดสามปีที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดทุนสะสมมากกว่า 300 ล้านปอนด์ ทำให้ฝ่ายบริหารต้องดำเนินมาตรการลดต้นทุนหลายด้าน ตั้งแต่ การปลดพนักงาน 450 ตำแหน่ง ไปจนถึง การเพิ่มค่าธรรมเนียมต่างๆ ในวันแข่งขัน

สำหรับฤดูกาล 2025-26 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายประการที่อาจส่งผลต่อประสบการณ์ของแฟนบอล อาทิเช่น

-การปรับราคาตั๋วปีขึ้น 5% เป็นปีที่สามติดต่อกัน
-การเปลี่ยนที่นั่งบริเวณหลังซุ้มม้านั่งสำรองเป็นโซนต้อนรับพิเศษ
-การลดส่วนลดสำหรับผู้สูงอายุ โดยอิงตามอายุรับบำนาญแห่งชาติที่ 66 ปี (ได้รับส่วนลด 25% จากราคาปกติ) จากเดิมที่บางคนได้รับส่วนลดสูงถึง 50%
-การกำหนดค่าธรรมเนียม 10 ปอนด์ หากแฟนบอลขายตั๋วคืนสโมสรล่าช้าภายใน 14 วันก่อนการแข่งขัน
-การเพิ่มค่าจอดรถขึ้น 15%
-การเพิ่มเงื่อนไขการใช้ตั๋วปี จากเดิมที่ต้องเข้าชมเกมเหย้าอย่างน้อย 15 นัด จาก 19 นัด เป็น 16 นัด เพื่อป้องกันการซื้อตั๋วแล้วไม่ใช้งาน

โอมาร์ เบอร์ราดา ซีอีโอของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อธิบายว่าการขึ้นราคานี้เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อความมั่นคงทางการเงินของสโมสร พร้อมชี้แจงว่าราคาตั๋วยังต่ำกว่าระดับเมื่อสิบปีก่อนเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อเบอร์ราดากล่าว เสริมว่า

"เราทำงานอย่างหนักเพื่อกำหนดราคาตั๋วให้เป็นธรรมและสมเหตุสมผล การตรึงราคาตั๋วมาอย่างยาวนานถึง 11 ปี ก่อนจะขึ้นราคา 5% ในสองฤดูกาลที่ผ่านมา และในฤดูกาลหน้านี้เราจำเป็นต้องทำเช่นเดียวกัน เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของสโมสร"

แม้สโมสรจะยืนยันว่าการขึ้นราคาตั๋วเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่แฟนบอลจำนวนมากมองว่านี่คือการผลักภาระให้พวกเขาต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งที่ทีมยังอยู่ในช่วงฟอร์มตก และยังไม่มีผลงานที่น่าพอใจในสนาม
Manchester United Supporters Trust (MUST) ออกแถลงการณ์แสดงความไม่พอใจต่อการขึ้นราคาตั๋ว โดยระบุว่า

"แนวคิดที่ว่าแฟนบอลต้องจ่ายค่าความผิดพลาดของเจ้าของทีมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งที่พวกเขาจ่ายเงินเป็นจำนวนมากอยู่แล้วเพื่อสนับสนุนทีมอย่างภักดีนั้น เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้"

MUST มองว่า เเมนฯ ยูไนเต็ด ควรตรึงราคาตั๋วเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างแฟนบอลและสโมสรในการกอบกู้ทีมจากสถานการณ์ปัจจุบัน แทนที่จะสร้างความแตกแยกผ่านมาตรการที่ไม่เป็นที่ยอมรับ

ขณะที่ เเมนฯ ยูไนเต็ด เลือกที่จะขึ้นราคาตั๋ว ทว่าทีมคู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล กลับประกาศ ตรึงราคาตั๋วปีสำหรับฤดูกาลหน้า เพื่อช่วยแฟนบอลที่กำลังเผชิญกับภาวะค่าครองชีพสูงขึ้น

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เองก็มีการขึ้นราคาตั๋วเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่แฟนบอลพอจะรับได้ เนื่องจากทีมมีผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องและมีเเบบเเผนการลงทุนในนักเตะอย่างชัดเจน

ตรงกันข้ามกับ เเมน ฯ ยูไนเต็ด แม้จะขึ้นราคาตั๋ว แต่แฟนบอลกลับไม่เห็นความคืบหน้าของพัฒนาการในแผนการพัฒนาทีมของพวกเขา และยังคงตั้งคำถามว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้จะถูกนำไปใช้ในการเสริมทัพอย่างมีประสิทธิภาพหรือการบริหารจัดการของสโมสรที่ดีหรือไม่

ตั้งแต่ INEOS และ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เข้ามาบริหารสโมสร พวกเขาพยายามปรับโครงสร้างทางการเงินของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อให้สโมสรสามารถแข่งขันได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หลายมาตรการที่นำมาใช้กลับสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอล และนำไปสู่กระแสการประท้วงของเเฟนๆ แรตคลิฟฟ์ถึงกลับต้องออกมากล่าวว่า

"ผมไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับรายละเอียดของราคาตั๋ว นั่นเป็นเรื่องของฝ่ายบริหารของสโมสร สิ่งสำคัญคือ ราคาตั๋วควรยุติธรรม และยังคงเป็นราคาที่คนในแมนเชสเตอร์สามารถจ่ายไหว"

"เราจำเป็นต้องดูแลแฟนบอลรุ่นเยาว์และผู้สูงอายุที่อาจมีข้อจำกัดด้านการเงิน แต่ในขณะเดียวกัน รายได้จากการขายตั๋วก็เป็นส่วนหนึ่งของรายได้หลักของสโมสร เช่นเดียวกับการขายสินค้าที่ระลึกและลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ซึ่งล้วนมีผลต่อจำนวนเงินที่เราสามารถใช้ซื้อนักเตะและพัฒนาทีม"

แม้ว่า เเมนฯ ยูไนเต็ดจะมองว่าการขึ้นราคาตั๋วเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความมั่นคงทางการเงินของตัวสโมสรของพวกเขา แต่หารู้ไม่ว่าในสายตาของแฟนบอล หลายคนเชื่อว่านี่คือการผลักภาระให้พวกเขาต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ในขณะที่ทีมยังคงไม่สามารถกลับสู่ความสำเร็จที่เคยทำมาในอดีตในยุคของเซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสันได้

สุดท้ายแมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของสโมสร ภายใต้การบริหารของ INEOS และ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ คำถามสำคัญคือ พวกเขาจะสามารถพาสโมสรกลับมายิ่งใหญ่ได้หรือไม่ โดยไม่สูญเสียจิตวิญญาณของแฟนบอลที่เป็นหัวใจสำคัญของสโมสร

 

Author

ทรงวุฒิ อุ่นบริบูรณ์

ผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายและหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของรถยนต์จากโมเดล

Graphic

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1