เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับ กระนั้นการพึ่งพายานอนหลับนั้น ไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป ดังที่ คริสเตียน นอร์การ์ด ดาวเตะของ เบรนท์ฟอร์ด ออกมาเปิดใจเรื่องนี้
แข้งวัย 31 ปี พูดคุยกับ BBC Radio 5 เรื่องการใช้ยานอนหลับ โดยบอกว่าสมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ บรอนด์บี้ ที่เดนมาร์ก เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องไปเล่นเกมเยือน เขาจะรู้สึกตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ก่อนได้รับคำแนะนำจากคนในสโมสรว่าให้ทานยานอนหลับเพื่อแก้ปัญหา
ด้วยความกังวลว่าจะนอนไม่พอ แล้วทำผลงานในสนามไม่ดี นอร์การ์ด เลยทานยานอนหลับ ซึ่งก็ทำให้เขานอนหลับสนิท ตื่นมาเตะฟุตบอลต่อได้ ก่อนจะทานแบบต่อเนื่องจนวันหนึ่งเขารู้สึกว่ามันมากเกินไปแล้ว และกังวลว่าตัวเองจะเสพติดการใช้ยานอนหลับมากเกินไป จนต้องหาทางเลิก
"ผมจำได้เลยว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่" นอร์การ์ด เล่าเรื่องการใช้ยานอนหลับ "ก่อนเกมบอลถ้วยนัดสำคัญที่เดนมาร์ก จิตใจผมอยู่ไม่สุข นอนไม่หลับตอนกลางคืน ผมคิดถึงเกมนั้นแล้วคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมเล่นไม่ดีเพราะว่านอนไม่พอ? มันเลยกลายเป็นความคิดของผมทุกครั้งในเกมถัดไปว่า ผมต้องนอนให้พอ ไม่งั้นจะทำผลงานได้ไม่ดี"
กระนั้นเมื่อย้ายมาเล่นกับ เบรนท์ฟอร์ด กองกลางชาวเดนมาร์ก ก็ยกเครดิตให้ แอนนา เวสต์ โค้ชผู้เชี่ยวชาญประจำสโมสร ที่ให้ความรู้เรื่องการนอนหลับอย่างถูกต้องจนไม่ต้องพึ่งยานอนหลับ รวมถึง เดเล่ อัลลี่ ดาวเตะชาวอังกฤษ ที่เขายกให้เป็นตัวอย่างในการปรับปรุงตัวเอง เนื่องจากอีกฝ่ายก็เคยมีอาการติดยานอนหลับ แต่ปัจจุบันก็เลิกได้แล้วทั้งคู่
"ผมส่งข้อความหา แอนนา โค้ชด้านการนอนหลับของเรา เพื่อขอบคุณสำหรบสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เป็นภาพที่ชัดเจนว่ามันอาจย่ำแย่ขนาดไหน แม้ว่าจะเป็นประเด็นที่คนไม่ค่อยสนใจนัก แต่ตอนนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องเน้นย้ำให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่ในวงการฟุตบอล แต่ถึงวงการอื่นด้วย"
ทั้งนี้ นอร์การ์ด ยืนยันว่าตอนนี้เขาเลิกใช้ยานอนหลับแล้ว และช่วยให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุข "นั่นคือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากเมื่อผมเลิกใช้ยาแล้ว ผมไม่ได้ติดยานอนหลับแล้ว เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเลิกเล่นฟุตบอล มันก็จะกลายเป็นสิ่งที่คุณต้องสู้กับมันต่อ"
สำหรับผลข้างเคียงของการใช้ยานอนหลับ หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยงเรื่องภาวะสมองเสื่อม, อาการซึมเศร้า, ตัดสินใจช้า และส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจที่อาจทำให้เสียชีวิตได้