ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา ได้มีข่าวฉาวเกี่ยวกับผู้ตัดสินพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คนหนึ่งเกิดขึ้น นั่นคือ เดวิด คูต หลังเจ้าตัวมีคลิปวิดีโอพูดจาดูหมิ่นสโมสรลิเวอร์พูล รวมถึง เยอร์เก้น คล็อปป์ อดีตผู้จัดการทีม
แถมในอีกไม่กี่วันถัดมาก็มีคลิปวิดีโอเผยให้เห็น เดวิด คูต กำลังสูดผงขาวปรากฏออกว่อนโลกออนไลน์ ส่งผลให้ Professional Game Match Officials Limited (PGMOL) ตัดสินใจไล่เขาออกในเดือนธันวาคม
โดยไทม์ไลน์ความพังพินาศของ เดวิด คูต เริ่มตั้งแต่
- วันที่ 9 พฤศจิกายน 2024 : ลงตัดสินในเกมที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0
- วันที่ 11 พฤศจิกายน : มีวิดีโอพูดจาดูหมิ่นสโมสรลิเวอร์พูล รวมถึง เยอร์เก้น คล็อปป์ ปรากฏออกมาบนโลกออนไลน์, PGMOL สั่งพักงาน เดวิด คูต และเริ่มต้นการสอบสวน
- วันที่ 12 พฤศจิกายน : สมาคมฟุตบอลอังกฤษ เริ่มดำเนินการสอบสวน เดวิด คูต เกี่ยวกับวิดีโอพูดดูหมิ่น ลิเวอร์พูล, ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ หัวหน้าคณะผู้ตัดสินขององค์กร PGMOL กล่าวในรายการ Match Officials Mic'd Up ของ Sky Sports ว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก
- วันที่ 14 พฤศจิกายน : PGMOL รับทราบเกี่ยวกับวิดีโอใหม่ที่แสดงให้เห็น เดวิด คูต สูดผงสีขาวขณะอยู่ในระหว่างการทำหน้าตัดสินยูโร 2024
- วันที่ 27 พฤศจิกายน : FA สอบสวนข้อกล่าวหาที่ คูต ล็อกการให้ใบเหลืองก่อนเกม (ในเกม ลีดส์ ยูไนเต็ดพบกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เมื่อเดือนตุลาคม 2019) แต่ คูต ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
- วันที่ 9 ธันวาคม: PGMOL ไล่ เดวิด คูต ออก
อย่างไรก็ตามล่าสุด เดวิด คูต ได้ออกมาขอโทษและรู้สึกเสียใจกับทุกเรื่องที่ทำลงไป และเขายังได้บอกอีกว่าที่ชอบเล่นปาร์ตีจมูกขาวนั่นเป็นเพราะอยากปกปิดตัวตนจากโลกภายนอกว่าตนเองเป็น "เกย์"
โดย เดวิด คูต ได้เริ่มต้นเปิดใจกับ The Sun สื่อจอมแฉประจำแดนผู้ดีว่า "ผมรู้สึกละอายใจอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ผมไม่เคยเปิดเผยตัวตนกับพ่อแม่จนกระทั่งอายุ 21 ปี และผมก็ไม่เคยเปิดเผยตัวตนกับเพื่อนว่าตัวเองชอบผู้ชายจนกระทั่งอายุ 25 ปี"
"รสนิยมทางเพศไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ผมตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น แต่ผมจะยอมรับว่าตัวเองเป็นเกย์ และมีปัญหาเกี่ยวกับการปกปิดเรื่องนั้นมากพอสมควร ผมซ่อนอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไว้ตั้งแต่ยังเป็นผู้ตัดสินอายุน้อย ซึ่งผมมองว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีในฐานะผู้ตัดสินแต่คุณสมบัติที่แย่มากในฐานะมนุษย์ และนั่นส่งผลให้ผมมีพฤติกรรมแปลก ๆ มากมาย"
"และแล้วผมก็ตกอยู่ในสถานการณ์อันมืดมนอย่างไม่น่าเชื่อ ผมไม่แน่ใจว่าตนเองจะใช้ชีวิตให้จนมาถึงวันนี้ได้หรือไม่" อนึ่งช่วงที่มีคลิป ขณะ ยูโร 2024 หลุดออกมา เดวิด คูต แทบจะไม่ได้รับความช่วยเหลือแม้กระทั่งจากเพื่อน ครอบครัว หรือคนรอบข้าง
และ เดวิด คูต ยังได้พูดเพิ่มเติมถึงเรื่องที่ตัวเองเป็นเกย์ว่าเขามีปัญหาเกี่ยวกับประเด็นกำแพงทางเพศมาโดยตลอด โดยเฉพาะในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ "ผมมีปัญหาเรื่องความนับถือตนเอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับรสนิยมทางเพศของผม ผมเป็นเกย์ และผมพยายามดิ้นรนที่จะรู้สึกภูมิใจในความเป็นตัวเองมาเป็นเวลานาน"
"ผมได้รับการดูถูกเหยียดหยามอย่างไม่น่าให้อภัยอย่างมากตลอดอาชีพการงานในฐานะผู้ตัดสิน และการผลักดันรสนิยมทางเพศของผมเข้าไปด้วยนั้นคงเป็นเรื่องยากมาก มีหลายอย่างที่ต้องปรับในวงการฟุตบอลและในสังคมโดยรวมเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ ผมไม่อยากเป็นคนที่จะออกไปเสี่ยงโดนลงดาบ เพราะการดูถูกเหยียดหยามที่เราทุกคนได้รับในฐานะผู้ตัดสิน"
นั่นทำให้ เดวิด คูต หันหน้าไปพึ่งสารสีขาว "มันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องใช้พึ่งพาในแต่ละวัน สัปดาห์ต่อสัปดาห์ หรือเดือนต่อเดือน ผมมีช่วงระยะห่างยาวนานในการใช้สารสีขาว แต่ผมยอมรับว่ามันเป็นหนทางหลีกหนีอย่างหนึ่งที่ผมมี เพียงแค่หลีกหนีจากความเครียด ความซ้ำซากจำเจของงาน มันทำให้ผมรู้สึกละอายใจมากที่ต้องบอกว่าผมเลือกที่จะเดินเส้นทางเดินนั้น"
"เมื่อปี 2023 ผมสูญเสียแม่ไปอย่างกะทันหัน ในเวลาเดียวกันลุงของผมก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการนำ VAR มาใช้ จู่ ๆ ก็ต้องมีกรรมการถึง 6 คนในแต่ละเกม ซึ่งผมได้รับเลือกจากฟีฟ่าให้ทำหน้าที่ตัดสินในฟุตบอลโลก U17 ณ อินโดนีเซีย รวมถึงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป และโอลิมปิก"
"มันหมายถึงตลอดฤดูกาล 2023-24 ผมมีส่วนร่วมกับเกมมากกว่า 90 เกม ซึ่งมักจะเป็นเกมติดต่อกัน โดยเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว ผมลงทำหน้าที่ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปทันที ซึ่งกดดันมาก แถมผมมีทัวร์นาเมนต์อื่นจ่อคิวอีกคือโอลิมปิกที่ปารีส"
"ผมจำตัวเองในวิดีโอไม่ได้ ผมไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกตอนนั้น แต่นั่นคือตัวผม ผมดิ้นรน ทุกข์ทรมานกับตารางการแข่งขัน และไม่มีโอกาสที่จะได้หยุดพัก และผมก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์อยากหลบหนีจากโลกความจริง"
"ผมเลยแสดงออกอย่างแข็งกร้าว ฟุตบอลกลายเป็นสถานที่ที่ผมสามารถตัดสินและจดจ่ออยู่กับเกมได้ แต่พอผมกลับบ้าน สิ่งต่าง ๆ จะยากขึ้นเพราะผมมีความรู้สึกสองด้าน"
อย่างไรก็ตามอดีตผู้ตัดสินพรีเมียร์ ลีก ได้เปิดเผยว่าตนเองเลิกยาเรียบร้อย หลังเข้ารับการบำบัด พร้อมกับฝากคำเตือนไปยังผู้ที่มีปัญหาในชีวิต ดังนี้
"สำหรับคนอื่น ๆ ที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับผม ผมแนะนำให้หาความช่วยเหลือและคุยกับใครสักคน เพราะถ้าคุณเก็บความรู้สึกนั้นไว้เหมือนที่ผมทำ มันจะต้องออกมาเลวร้ายไม่รูปแบบใดก็รูปแบบหนึ่ง"