ล้ำเส้น เนย์มาร์ เปิดใจแฟนบอลเปแอสเช ไม่ให้ความเคารพ แม้แต่ ลิโอเนล เมสซี่ ก็ยังโดน

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2017 โลกฟุตบอลได้เกิดหนึ่งดีลการย้ายทีมที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการ นั่นคือ เนย์มาร์ สตาร์ชาวบราซิล ตัดสินใจโบกมือลา บาร์เซโลน่า เพื่อไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยค่าตัวกว่า 222 ล้านยูโร ซึ่งตอนนั้นหลายฝ่ายประโคมข่าวว่าเขาอยากออกจากเงาของ ลิโอเนล เมสซี่

โดยในฤดูกาลแรกของ เนย์มาร์ กับ เปแอสเช เป็นไปอย่างไม่มีอะไรติดขัด ได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลอย่างอบอุ่น ขณะที่ตัวเขาเองก็ส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายได้ถึง 28 ประตู และมี 16 แอสซิสต์รวมทุกรายการ

อย่างไรก็ตามฤดูกาลต่อ ๆ มา ก็เริ่มมีภาพข่าวปรากฏให้เห็นว่า เนย์มาร์ รวมถึง ลิโอเนล เมสซี่ ที่ย้ายตามมาในปี 2021 โดนแฟนบอลโห่หรือมีการด่าแบบสาดเสียเทเสีย จนทำให้ในปี 2023 สตาร์ชาวบราซิล ทนไม่ไหว ตัดสินใจย้ายไปโกยเงินกับ อัล ฮิลาล ทีมดังในลีกซาอุดีอาระเบีย

กระทั่งล่าสุด เนย์มาร์ ในวัย 32 ปี ได้ไตร่ตรองถึงช่วงเวลาของเขาที่ เปแอสเช ก่อนจะให้สัมภาษณ์ผ่าน RMC Sport ว่าเหมือนไม่ได้รับความยุติธรรมตอนอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง โดยเริ่มเกริ่นว่า

"ปีแรกนั้นยอดเยี่ยมมาก ผมได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากชาวฝรั่งเศสและแฟนบอล แต่สองสามปีที่ผ่านมานี้มันไม่เหมือนเดิม"

"มันไม่น่าเชื่อเลยกับวิธีที่ผมถูกปฏิบัติ ลิโอเนล เมสซี่ ก็เหมือนกัน สำหรับผมแล้วมันมีความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้น เพราะผมทุ่มเทเต็มที่ในสนามเสมอ ผมไม่ได้รู้สึกเคียดแค้น แต่ผมรู้สึกเศร้าเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีที่ผมถูกแฟนบอลปฏิบัติ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขามาที่บ้านของผม"

"เมื่อพวกเขาต้องการบุกรุกบ้านของผม ดูถูกผม หรือต้องการทุบตีผม สำหรับผม พวกเขาทำเกินขอบเขต ความสัมพันธ์ของเราไม่เคารพกันอีกต่อไป ในขณะที่ผมเคารพพวกเขาเสมอ"

"... มันเป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนจริงๆ ผมเสียใจเกี่ยวกับวิธีที่ผมถูกปฏิบัติในตอนท้าย แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ผมเคารพสโมสรเปแอสเช และจะสนับสนุนพวกเขาเสมอเพื่อให้พวกเขาได้รับผลงานที่ดีที่สุด"

"ผมไม่ได้รู้สึกเคียดแค้นสโมสร ผมแค่รู้สึกติดใจเล็กน้อยต่อผู้จัดการสโมสรและแฟนบอลบางคน ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว เปแอสเช คือสโมสรที่ผมใช้เวลาอยู่มากที่สุดในอาชีพค้าแข้งของผมถึง 6 ปี ผมมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมบ้าง แต่ก็มีช่วงเวลาที่น่าเศร้าบ้าง"

"และความสัมพันธ์ของผมกับแฟนบอลก็เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาที่น่าเศร้าเช่นกัน แต่ในระดับกีฬา นี่คือฟุตบอลที่ดีที่สุดที่ผมเคยเล่น ดังนั้น ผมจึงมีความสุขและรู้สึกสบายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้"