ในที่สุด ซาอุดีอาระเบีย ก็ได้เป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2034 แบบสมความปรารถนา หลังได้รับการรับรองจากองค์กรลูกหนังโลก FIFA อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนักสำหรับคนที่ติดตามข่าวสารวงการฟุตบอล เพราะในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเกมลูกหนังโลก ปี 2034 มองจากมุมไหนหลายคนก็รู้ว่า ซาอุดีอาระเบีย คือผู้ชนะแบบ "แบเบอร์" แทบไม่ต้องลุ้นด้วยซ้ำ เพราะไม่มีคู่แข่งชาติไหนมาแย่งชิงตำแหน่งเจ้าภาพบอลโลกกับพวกเขาแม้แต่ชาติเดียว
แล้วทำไมถึงมีแค่ ซาอุดีอาระเบีย เสนอตัวชิงเจ้าภาพบอลโลก 2034 เพียงชาติเดียว คำตอบอยู่ตรงนี้...
หลายคนคงสงสัยว่าชาติจากทวีปเอเชีย เพิ่งจะได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกไปหมาดๆ ที่กาตาร์ เมื่อปี 2022 แต่แล้ว ทวีปเอเชีย ก็ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกอีกครั้งในอีก 12 ปีถัดมา นั่นก็คือ ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือว่ามาเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้
เดิมที FIFA มีแผนการมอบตำแหน่งเจ้าภาพฟุตบอลโลก ให้แก่ทวีปต่างๆ แบบหมุนเวียนกันไป นั่นคือ ยุโรป (UEFA), อเมริกาใต้ (CONMEBOL), เอเชีย (AFC), แอฟริกา (CAF), โอเชียเนีย (OFC) และ อเมริกา (Concacef) โดยในปี 2026 เจ้าภาพบอลโลกก็คือ สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และ แคนาดา ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่ม Concacef ที่ได้รับงานนี้
ถัดมาปี 2030 ก็มีประกาศแล้วว่า สเปน, โปรตุเกส, โมร็อกโก รวมถึง อุรุกวัย, อาร์เจนติน่า, ปารากวัย ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกร่วมกันด้วย นั่นเลยทำให้องค์กรลูกหนังจาก 3 ทวีป UEFA, CONMEBOL และ CAF ได้เป็นเจ้าภาพร่วมกันหมดเลยในปี 2030 (แม้ อุรุกวัย, อาร์เจนติน่า, ปารากวัย จะได้เป็นเจ้าภาพแค่ชาติละ 1 เกม เพื่อฉลองวาระ 100 ปีของทัวร์นาเมนต์ แต่ก็นับว่าเป็นเจ้าภาพด้วยเช่นกัน)
ดังนั้น FIFA มองว่าชาติที่จะได้จัดฟุตบอลโลก 2034 จะต้องเป็นชาติที่มาจากฝั่ง เอเชีย (AFC) หรือ โอเชียเนีย (OFC) เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ออสเตรเลีย จะร่วมมือกับ นิวซีแลนด์ เพื่อเป็นเจ้าภาพร่วมกัน แต่ นิวซีแลนด์ บอกปัดเพราะคิดว่าไม่มีสนามฟุตบอลที่สามารถรองรับงานระดับโลกได้ ส่วน ออสเตรเลีย หลังพิจารณาอย่างถี่ถ้วน พวกเขาก็ไม่ได้เสนอตัวกับ FIFA เพื่อยื่นข้อเสนอการเป็นเจ้าภาพบอลโลก ในเวลาต่อมา
หากจำกันได้ เคยมีข่าวว่า 10 ชาติอาเซียน จะร่วมมือเสนอตัวกับทาง FIFA เพื่อเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 อาทิ ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม ฯลฯ แต่ด้วยการพูดคุยกันที่ไม่ลงตัว ประกอบกับ อินโดนีเซีย ที่นำโดยนายกสมาคมลูกหนังของประเทศอย่าง เอริค ธอเฮียร์ ยกมือสนับสนุนให้ ซาอุดีอาระเบีย เสนอตัวเป็นเจ้าภาพบอลโลก 2034 ทำให้แผนการจัดฟุตบอลโลกในแผ่นดินอาเซียนที่เคยเป็นข่าว จึงไม่เกิดขึ้น
ตัดภาพไปดูชาติอื่นในทวีปเอเชีย อย่างประเทศจีน ที่แม้จะเคยแสดงความสนใจอยากเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 แต่พวกเขาก็ไม่ได้เดินหน้าในเรื่องนี้แบบจริงจัง และฝั่ง ญี่ปุ่น มหาอำนาจลูกหนังระดับแนวหน้าแห่งเอเชีย ก็ไม่ได้ยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพบอลโลก 2034 เพราะพวกเขามีแผนว่าจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพสำหรับการแข่งขันในปี 2050 มากกว่า
ส่วนฝั่ง ซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีแรงปรารถนาอย่างยิ่งยวดในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพทัวร์นาเมนต์ลูกหนังโลก 2034 และขอเป็นเจ้าภาพเดี่ยวๆ ด้วย ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ FIFA เปิดให้ยื่นข้อเสนอ และพรีเซนต์ความเพียบพร้อมต่างๆ ของตัวเอง ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2023 ซาอุดีอาระเบีย ก็ไม่รอช้าเสนอแผนการต่างๆ ให้ทาง FIFA พิจารณา แล้วเมื่อพบว่าไม่มีชาติใดยกมือเสนอตัวเพิ่มแล้ว FIFA ก็ปิดป้ายหน้าประตู ไม่รับสมัครชาติใดเพิ่มแล้วในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2023 เรียกว่าเปิดรับสมัครในระยะเวลาที่สั้นมาก แค่ 25 วันเท่านั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ ซาอุดีอาระเบีย กลายเป็นชาติเดียวที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 และด้วยแผนการเตรียมความพร้อมต่างๆ ที่นำเสนอออกมาอย่างสมบูรณ์เรียบร้อย บวกกับแรงสนับสนุนของชาติสมาชิกทั้งหมด 37 ประเทศ จาก 47 ประเทศในกลุ่ม AFC ทำให้ จิอันนี อินฟานติโน่ ประธาน FIFA ประกาศมอบตำแหน่งเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 ให้แก่มหาอำนาจแห่งดินแดนทางตะวันออกกลางไปครอง และเป็นครั้งแรกที่ ซาอุดีอาระเบีย ได้ขีดเขียนประวัติศาสตร์ชาติ จัดฟุตบอลโลกในบ้านตัวเองด้วย
แน่นอนว่าสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ซาอุดีอาระเบีย ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วทุกสารทิศ ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่พวกเขาได้เป็นเจ้าภาพบอลโลก ท่ามกลางข้อกังขามากมายโดยเฉพาะการได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างมาก ไม่ว่าผู้หญิงหรือชุมชม LGBTQ+ อย่างไรก็ตาม ซาอุดีอาระเบีย ย่อมรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาต้องทำอย่างไรเพื่อจะให้ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ เปิดกว้างรับทุกความหลากหลายในสังคมโลก และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นแก่ประเทศด้วย สังเกตได้จากการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาต่างๆ ดึงกีฬาระดับโลกมาแข่งในประเทศช่วงหลัง ถึงจะมีเสียงวิจารณ์ว่าใช้ "กีฬาฟอกขาว" ประเทศตัวเองก็ตาม
ส่วนเรื่องการแข่งขันฟุตบอลโลก 2034 ที่ซาอุดีอาระเบีย ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะจัดขึ้นในช่วงไหน ฤดูร้อนหรือฤดูหนาว หรือแข่งกันสนามใดบ้าง ต้องรอติดตามการอัพเดทจากทางการ ซาอุดีอาระเบีย หลังจากนี้