News

รอบชิงฯ UCL 2018 ฝันร้ายที่ไม่เคยหายไปของ ลอริส คาริอุส

ย้อนกลับไปในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2018 ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ให้แก่ เรอัล มาดริด ด้วยสกอร์ 1-3 ซึ่งส่วนใหญ่การเสียประตูในเกมดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของ ลอริส คาริอุส ผู้รักษาประตูชาวเยอรมัน ที่ปัจจุบันไร้สังกัด แถม โม ซาลาห์ ยังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

 

จากนั้น ลอริส คาริอุส ก็โดน "หงส์แดง" ปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวกับ เบซิคตัส รวมถึง อูนิโอน เบอร์ลิน และย้ายมาเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในระหว่างปี 2022-2024 ก่อนที่จะกลายเป็นแข้งไร้สังกัดในเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ชีวิตค้าแข้งของ ลอริส คาริอุส เป๋ได้ขนาดนี้ คงหนีไม่พ้นค่ำคืนที่กรุงเคียฟ เพราะล่าสุดเขาได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกภายในจิตใจที่ไม่สามารถลบภาพความผิดพลาดในเกมนั้นได้

หลังจบเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รองชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล แพ้ เรอัล มาดริด 1-3 ลอริส คาริอุส ต้องเข้ารับการสแกนที่โรงพยาบาลแมสซาชูเซตส์ ทันที โดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สรุปว่า อาการบาดเจ็บที่ศีรษะที่เขาได้รับจากเหตุการณ์กับ เซร์คิโอ รามอส ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของเขา ถึงกระนั้นก็ยังมีคำด่าทอมากมายที่ถาโถมเล่นงาน ลอริส คาริอุส แม้เวลาจะผ่านมานานหลายเดือน

ทำให้ ลอริส คาริอุส ยอมรับว่ายากมาก ๆ ที่จะลบภาพจำอันเลวร้ายในคืนนั้น "ผมรู้สึกว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าผมจะทำอะไรก็ตาม หรือพยายามฝึกซ้อมมากเพียงใด  มันก็ยังไม่ดีพอ มันยากที่จะฟื้นตัวจากสถานการณ์นี้ ผมไม่ได้เล่นได้ดีที่สุด แต่ผมก็ยังเล่นได้ดีในฤดูกาลที่สอง ทุกอย่างกำลังดี จากนั้นนัดชิงชนะเลิศมาถึง ... ทุกอย่างก็แย่ลง"

"มันยากที่จะสลัดทิ้ง แม้แต่กับสโมสรอื่น ๆ เมื่อผมพยายามได้รับความไว้วางใจจากผู้จัดการทีมหรือได้รับเวลาลงเล่น ซึ่งในความเห็นของผม ผมรู้สึกว่าผมสมควรได้รับมัน … มีช่วงเวลาที่ผมคิดว่าความผิดพลาดในเกมนั้นคือข้อเสียของผม ความมั่นใจของผมลดลงในช่วงไม่กี่วันหลังจากนั้นรวมถึงในช่วงปรีซีซั่น ทุกอย่างที่ผมทำถูกมองข้ามไป มันสุดโต่งมาก ทุกอย่างมันมากเกินไป"

ลอริส คาริอุส ได้ลงเล่นเพียงหกนัดตลอดช่วงสามปีครึ่งที่ผ่านมา ทำให้เขามีความสนใจในการทำกิจกรรมอื่น ๆ มากขึ้น เช่น ดนตรี การใช้เวลาอยู่กับครอบครัว แต่คำถามยังคงอยู่ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

"ผมพยายามไม่สนใจ แต่คุณก็หนีจากมันไม่ได้ คุณยังคงตระหนักได้อยู่เสมอ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมจึงอยากเริ่มต้นใหม่มากกว่าที่จะอยู่กับลิเวอร์พูล ซึ่งผมสามารถอยู่ข้างหลัง อลิสซอน และยังคงได้ลงเล่น บางทีในท้ายที่สุดแล้วนั่นอาจเป็นก้าวที่ดีกว่า แต่พูดได้ยากในช่วงเวลานั้น"

"อย่างไรก็ตามประสบการณ์นี้ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นในฐานะคนคนหนึ่ง มันเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของผม มันเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของผม ในท้ายที่สุดแล้ว ผมเป็นผู้เล่นของลิเวอร์พูล ผมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก มันไม่ได้เป็นไปตามที่ผมต้องการ แต่มีนักฟุตบอลอาชีพน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่ได้เล่นในรอบชิงชนะเลิศของแชมเปี้ยนส์ ลีก เราทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้"

ทั้งนี้ ลอริส คาริอุส มีความคิดเรื่องที่จะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ และมีความเห็นว่ามีอีกหลายสิ่งอย่างที่ตนเองสามารถทำได้ "ถ้าคุณไม่ได้เล่นมานานเท่าผมแล้ว แสดงว่าคุณต้องคิดถึงการเลิกเล่นแล้วล่ะ แต่ผมยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร เพราะไม่จำเป็นต้องทำ ผมยังฟิต ผมยังมีศักยภาพและความสามารถครบถ้วน"

“แต่ถ้าประตูบานใดบานหนึ่งไม่เปิด ผมก็ต้องซื่อสัตย์และบอกกับตัวเองว่า 'ฟังนะ ผมยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่ผมสามารถทำตามได้และทำให้ผมตื่นเต้น ที่ผมสนุกและทุ่มเทความพยายาม ผมไม่คิดว่ามันจะกระทบตัวเองมากนักเพราะผมได้ผ่านกระบวนการนี้มาแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา"

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวของ ลอริส คาริอุส และวิธีการคิดของเขาจะสามารถช่วยให้ผู้ที่พบเจอความผิดหวังใหญ่ ๆ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและผ่านมันมาได้เหมือนอย่างที่อดีตนายด่าน ลิเวอร์พูล รายนี้ออกมาเล่า

Author

รณกฤต ตุลยะปรีชา

วัยรุ่นคู้บอน