จบลงอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ "ภาค 2" ของ เอดู กาสปาร์ กับ อาร์เซน่อล หลังเขาลาออกจากการเป็นผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรเป็นที่เรียบร้อย
ช่วงเวลาในภาค 2 ระหว่างเอดูกับทีมปืนใหญ่อยู่ที่ราว 5 ปี เริ่มต้นจากการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิคคนแรกของสโมสรเมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 ก่อนได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการกีฬาคนแรกของสโมสรเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 มากกว่าภาคแรกของเขาในฐานะนักเตะ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างเดือนมกราคม 2001 ถึงเดือนมิถุนายน 2005 เล็กน้อย
และแม้อดีตนักเตะทีมชาติบราซิลยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ มิเกล อาร์เตต้า เฮดโค้ชทีมปืนใหญ่ยังเป็นไปด้วยดี และกล่าวขอบคุณไว้ด้วยในการอำลา นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเป็น "โซ่ข้อกลาง" ในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบอร์ดบริหารกับทีมโค้ชและนักเตะ
แต่ ซามี่ ม็อคเบล นักข่าว Daily Mail ผู้เป็นคนแรกที่เปิดเผยข่าวการออกจากทีมของเอดูรายงานว่า เรื่องนี้มีเบื้องหลัง
ม็อคเบลเผยว่า อำนาจในการบริหารและตัดสินใจของเอดูถูกลดทอนลงแบบเงียบ ๆ สวนทางกับ ทิม ลูอิส รองประธานสโมสร และคนสนิทของ สแตน โครนกี้ เจ้าของทีมอาร์เซน่อล ที่มีอำนาจในการบริหารเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การออกจากตำแหน่งซีอีโอของ วินัย เวนคาเตชาม เมื่อจบฤดูกาล 2023-24 รวมถึงการแต่งตั้ง ริชาร์ด การ์ลิค ขึ้นมารับงานซีอีโอคนใหม่ในฤดูกาล 2024-25 นี้ ยังมีผลกระทบต่อการทำงานของเอดูด้วยเช่นกัน
แต่ดูเหมือนเหตุผลที่สำคัญที่สุดในการลงจากตำแหน่งที่อาร์เซน่อลของเอดู ก็เหมือนกับคนทำงานทั่วไป นั่นคือ เขาได้รับข้อเสนองานใหม่จากใครคนหนึ่ง
เอวานเจลอส มารินาคิส มหาเศรษฐีชาวกรีซ คือคน ๆ นั้น มีรายงานว่า มารินาคิสพร้อมทุ่มเงินค่าจ้างให้เอดูมากกว่าที่เคยได้กับอาร์เซน่อลหลักเท่าตัว เพื่อให้มาร่วมงานกัน
และงานที่ว่า ไม่ใช่สโมสรเพียงสโมสรเดียว เพราะว่ากันว่าตำแหน่งที่มารินาคิสต้องการให้เอดูไปรับงาน คือการกุมบังเหียนการบริหารของ "กลุ่มสโมสร" ที่มารินาคิสเป็นเจ้าของ ทั้ง โอลิมเปียกอส ยักษ์ใหญ่ลีกกรีซ, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมร่วมพรีเมียร์ลีกเช่นเดียวกับอาร์เซน่อล และ ริโอ อาฟ ทีมในลีกสูงสุดโปรตุเกส
รอดูกันว่า บทบาทใหม่ของเอดูจะเป็นอย่างไร และอาร์เซน่อลจะหาใครมาเติมเต็มตำแหน่งของเอดูที่ว่างลง ไม่นานเกินรอ