News

Nazi Salute! เมื่อ ทีมชาติอังกฤษ ต้องฝืนเคารพนาซี ที่สนาม โอลิมปิก สตาดิโอน

โอลิมปิก สตาดิโอน สังเวียนแข้งนัดชิงศึกยูโร 2024 นับเป็นสนามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะกับขุนพลทีมชาติอังกฤษ ที่ครั้งหนึ่งถึงขนาดต้องยอมฝืนใจทำท่าสดุดีให้แก่กองทัพนาซีที่สนามแห่งนี้

 

 

ย้อนกลับไปช่วงทศวรรษ 1930's อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำสูงสุดแห่งจักรวรรดิเยอรมัน ได้กลายเป็นผู้ทรงอำนาจที่ทั่วยุโรปหวาดเกรง

ในระหว่างที่กำลังแผ่อิทธิพลอยู่นั้น สิ่งหนึ่งที่เจ้าตัวได้ทำคือการสร้างสนามกีฬาโอลิมปิก สตาดิโอน ขึ้นในกรุงเบอร์ลิน เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 1936 ซึ่งเยอรมันได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพตั้งแต่ปี 1931 หรือ 2 ปีก่อนหน้าที่เจ้าตัวจะครองอำนาจ

ฮิตเลอร์ต้องการให้โอลิมปิกเกมส์และสนามแห่งนี้เป็นสื่อกลางในการโฆษณาชวนเชื่อเรื่อง "เผ่าพันธุ์อารยัน" พร้อมศักยภาพความยิ่งใหญ่ของนาซีให้ทั่วโลกได้เห็นนอกเหนือจากด้านการเมืองและการทหาร

จากเดิมที่ถูกวางไว้เป็นเพียงสนามกีฬาทั่วไปสำหรับพิธีเปิด แต่ฮิตเลอร์ต้องการให้ที่นี่เป็นศูนย์กีฬาเต็มรูปแบบเพื่อแสดงแสนยานุภาพ โดยนอกจากตัวสนามแล้วยังมีอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับกีฬาอีกหลากหลายประเภท

พร้อมยังมอบหมายให้สถาปนิกส่วนตัว อัลเบิร์ต สเปียร์ เป็นผู้ควบคุมการออกแบบทั้งหมด (ต่อมาขึ้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงคลังสรรพาวุธ และได้รับโทษจำคุก 20 ปี จากข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ)

สนามกีฬาแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 2 ปี บนพื้นที่ 330 เอเคอร์ หรือราว 835 ไร่ โดยสามารถรองรับแฟนบอลได้มากถึง 110,000 คน รวมทั้งยังมีอัฒจันทร์พิเศษสำหรับฮิตเลอร์และกองบัญชาการระดับสูงของนาซีด้วย

บรรยากาศในสนามจึงถูกปกคลุมไปด้วยธงสวัสดิกะอันเป็นสัญลักษณ์ของพรรคนาซี รวมถึงผู้ชมที่พร้อมใจกันแสดงท่าสดุดีนาซี หรือ Nazi Salute ตอนร้องเพลงชาติทุกครั้ง

โอลิมปิกที่เบอร์ลินหรือที่ถูกขนานนามว่า “นาซีเกมส์” ถือเป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของพลพรรคนาซีจุดหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากนั้นฮิตเลอร์ก็ขยายอิทธิพลต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการบุกยึดครองประเทศเพื่อนบ้านหรือสร้างพันธมิตรกับชาติอื่นที่มีอุดมการณ์เดียวกัน

กระทั่งวันที่ 14 พฤษภาคม 1938 เมื่อทีมชาติอังกฤษ ต้องยกทัพมาเตะอุ่นเครื่องกับทีมชาติเยอรมัน ที่สังเวียนโอลิมปิก สเตเดียม ซึ่งเกิดขึ้นให้หลังจากที่เยอรมันบุกยึดครองออสเตรีย เพียง 2 เดือน

เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อขุนพลทรีไลออนส์ พร้อมใจกันทำท่าสดุดีนาซีให้กับเจ้าบ้านระหว่างที่เพลงชาติเยอรมันกำลังบรรเลงต่อหน้าแฟนบอลนับแสนคน จนกลายเป็นหนึ่งในภาพประวัติศาสตร์

ช่วงเวลานั้นประเทศอังกฤษภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เนวิลล์ เชมเบอร์เลน มีนโยบายทางการทูตที่อ่อนข้อให้กับเยอรมันและพรรคนาซีเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงคราม จึงมีความร่วมมือในการจัดเกมอุ่นเครื่องดังกล่าวขึ้น

พร้อมกันนี้รัฐบาลยังส่งจดหมายถึงสมาคมฟุตบอล (FA) ให้แจ้งต่อผู้เล่นอังกฤษก่อนเริ่มเกมว่าให้พวกเขาทำความเคารพแบบนาซีเมื่อเพลงชาติเจ้าบ้านเริ่มขึ้น แม้ว่าฮิตเลอร์จะไม่ได้เข้าเข้ามาชมเกมในสนามด้วยซ้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่กี่รายอยู่เท่านั้น

ทำให้ในห้องแต่งตัวก่อนเกมจึงเต็มไปด้วยความโกลาหล นักเตะต่างไม่พอใจเมื่อได้รับข้อความดังกล่าว ทว่าท้ายที่สุดทางสมาคมได้พยายามเกลี้ยกล่อมโดยเตือนให้นึกถึงเรื่อง “ผลกระทบทางการเมืองในวงกว้าง” จนแทบทุกคนยอมที่จะเล่นบทไปตามน้ำ

ยกเว้นเพียงรายเดียว ... สแตน คัลลิส ดาวเตะวัย 21 ปีจากวูล์ฟแฮมป์ตัน เป็นผู้เล่นคนเดียวในทีมวันนั้นที่เลือกปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม และนั่นทำให้เขาต้องถูกตัดชื่อออกจากทีม

ท้ายที่สุดแล้วแม้จบเกมผลการแข่งขันทีมชาติอังกฤษจะเป็นฝ่ายชนะ 6-3 พร้อมหยุดสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันของเจ้าบ้านไว้ที่ 16 นัด ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนและสื่อเมืองผู้ดีอย่างหนัก

ที่สำคัญแม้จะพยายามรักษาความสัมพันธ์ถึงขั้นยอมสยบให้ก็ตาม แต่หนึ่งปีให้หลังทั้งคู่ก็ประกาศสงครามใส่กันอยู่ดี หลังจากที่กองทัพนาซีเปิดฉากบุกโปแลนด์ซึ่งผิดข้อตกลงที่ให้ไว้กับอังกฤษ ก่อนจะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในเวลาต่อมา

Author

ชมณัฐ รัตตะสุข

Chommanat

Graphic

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ