เกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโร 2024 ระหว่าง สเปน กับ อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฏาคม ไม่เพียงแต่เป็นการแย่งชิงตำแหน่งแชมป์ยุโรป แต่ยังเป็นการแย่งชิงตำแหน่งดาวซัลโวของ ดานี่ โอลโม่ กับ แฮร์รี่ เคน ด้วย
เคน กับ โอลโม่ เวลานี้ยิงได้เท่ากันที่ 3 ประตู ดังนั้นหากใครคนใดคนหนึ่งยิงประตูได้มากกว่าอีกฝ่ายในเกมนัดชิง เขาก็จะได้รางวัลดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง
แต่หากไม่มีใครยิงได้เลย เคน กับ โอลโม่ ก็จะได้รางวัลดาวซัลโวร่วมกับเพื่อนอีก 4 คนที่ยิงได้ 3 ลูกเท่ากัน แต่ตกรอบไปก่อนอย่าง จอร์จ มิเคาตัดเซ่ (จอร์เจีย), จามาล มูเซียล่า (เยอรมนี), อิวาน ชรานซ์ (สโลวาเกีย) และ โคดี้ กั๊กโป (เนเธอร์แลนด์)
เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะทาง UEFA ประกาศก่อนเกมว่าหากสุดท้ายแล้ว เคน กับ โอลโม่ ยิงเพิ่มไม่ได้ ก็จะมอบรางวัลดาวซัลโวในศึก ยูโร 2024 ให้กับนักเตะทั้ง 6 คนไปเลย ถือเป็นการเปลี่ยนกฏใหม่ จากเดิมทีที่เคยระบุว่าหากมีคนยิงประตูได้เท่ากัน ก็จะมาตัดสินกันที่จำนวนลูกแอสซิสต์ที่ส่งให้เพื่อนยิงว่าใครแอสซิสต์ได้มากกว่ากัน
อย่างไรก็ตาม สมมติว่าหาก UEFA ยังใช้กฏเดิม ดานี่ โอลโม่ ของสเปน ก็จะได้รางวัลดาวซัลโวของปีนี้ไป เพราะเขาทำแอสซิสต์ให้เพื่อนได้ 2 ลูก ส่วน แฮร์รี่ เคน ไม่มีแอสซิสต์แม้แต่ลูกเดียว
ทั้งนี้ กฏการมอบรางวัลดาวซัลโวแบบเก่าของ UEFA เคยใช้ตัดสินใน ยูโร 2020 มาแล้ว โดยครั้งนั้น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของโปรตุเกส กับ พาทริค ชีค ของเช็ก ยิงได้ 5 ลูกเท่ากัน แต่ CR7 ได้รางวัลดาวซัลโวเพราะแอสซิสต์ให้เพื่อนได้ 1 ลูก ส่วน ชีค ทำไม่ได้
นั่นเท่ากับว่าหาก เคน หรือ โอลโม่ คนใดคนหนึ่งพลาดหวังจากการพาชาติบ้านเกิดคว้าแชมป์ยุโรป พวกเขาก็ยังมีรางวัลดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ เป็นรางวัลปลอบใจติดไม้ติดมือกลับบ้านไป
