ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 เกมแรกของ ฝรั่งเศส ปรากฏว่าพวกเขาไม่ได้เจองานง่ายอย่างที่คิด เฉือนเอาชนะ ออสเตรีย ไปแบบหืดจับด้วยสกอร์ 1-0 จากการที่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เปิดบอลเข้ากลาง แต่ มักซิมิเลียน โวเบอร์ โหม่งสกัดพลาดเข้าประตูตัวเองไปในนาทีที่ 38
หลังจากนั้น ออสเตรีย ก็เริ่มโหมเกมมากขึ้นหวังบุกยิงประตูคืน แต่กลับกลายเป็นว่า เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ อัล-อิตติฮัด แห่งศึกซาอุดีโปรลีก คอยวิ่งเก็บกวาดและทำลายจังหวะคู่แข่งตลอดทั้งเกม จนจบลงด้วยชัยชนะของทัพ "ตราไก่" แถมเจ้าตัวยังได้รับรางวัลแมนออฟเดอะแมตช์อีกด้วย
กว่าที่จะคัมแบ็กทีมชาติฝรั่งเศส ในรอบ 2 ปี ก็องเต้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ... ติดตามได้ที่ Main Stand
ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2022-23 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ตอนนั้นยังอยู่กับ เชลซี นั้นมีอาการบาดเจ็บรวบกวนแทบตลอดเวลา ทำให้ทั้งซีซั่น ก็องเต้ ได้เล่นไปเพียง 9 เกม คิดเป็นเวลา 686 นาทีรวมทุกรายการให้กับต้นสังกัด ส่วนในนามทีมชาติ เขาไม่ได้รับใช้ "ตราไก่" เลยตั้งแต่เกมที่แพ้ เดนมาร์ก เมื่อกลางปี 2022
เมื่อจบฤดูกาลข้างต้น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ก็ได้ย้ายไปหาประสบการณ์ใหม่ที่ซาอุดีอาระเบีย กับ อัล-อิตติฮัด ในซีซัน 2023-24 ซึ่งต้องยอมรับว่าการย้ายลีกครั้งนี้เปรียบเสมือนการทำให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เกิดใหม่อีกครั้งในวัย 33 ปี เพราะเขาไม่มีอาการบาดเจ็บรวบกวนเหมือนตอนอยู่กับ "สิงห์บลูส์" เลย
โดย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลงสนามให้ อัล-อิตติฮัด มากถึง 44 เกมรวมทุกรายการ มีผลงาน 4 ประตู 6 แอสซิสต์ พาทีมจบอันดับที่ 5 ของลีก ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ จึงตัดสินใจเรียกมิดฟิลด์ตัวขยันรายนี้กลับมาติดทีมอีกครั้ง ในรอบ 2 ปี
"การถูกเรียกติดทีมชาติเป็นรางวัลจากฤดูกาลที่ดี มันสมควรแล้วที่จะได้รับสิ่งนั้น เมื่อผู้จัดการทีมเลือกใครสักคน เขาจะเลือกผู้เล่นและบุคคลนั้น ถ้าเขาเลือกผม นั่นเป็นเพราะเขาคิดว่าผมสามารถช่วยทีมไปได้ไกลที่สุด"
"ผมไม่มีข้อสงสัยใด ๆ เลย ผมกำลังจะออกจากฤดูกาลที่มีการแข่งขันมากมาย ซึ่งเป็นการแข่งขันที่สูสีมาก ผมทำมาทั้งฤดูกาลแล้ว ผมมีความรู้สึกที่ดี ผมรู้สึกว่าสามารถมีส่วนร่วมในยูโร 2024 ได้" เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กล่าว
ขณะที่ ดิดิเยร์ เดสชองส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ได้อธิบายเหตุผลที่เรียก เอ็นโกโล่ ก็อง เต้ คัมแบ็กทัพ "ตราไก่" ว่าตนเองติดตามผลงานของก็องเต้ ในตะวันออกกลางมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 "เขาถูกเรียกตัวครั้งสุดท้ายในเดือนมิถุนายน 2022 และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น(ปัญหาอาการบาดเจ็บ) เป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะรับมือ"
"เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พลาดฟุตบอลโลกด้วยอาการบาดเจ็บ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ค้นพบความสามารถด้านกีฬาและฟุตบอลของเขาอีกครั้ง ... จริง ๆ แล้วเขาเล่นได้ตามที่เราพูดเลยแหละ สิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเขาในใจผมมันชัดเจนมาก ๆ ผมอยากให้เขากลับมาทำผลงานได้ดีที่สุดในสนาม"
"และในขณะเดียวกันก็ให้เวลาเล่นกับนักเตะอายุน้อยบ้าง ผมเชื่อว่าทีมชาติฝรั่งเศส จะดีกว่ากับเขา นั่นคือเหตุผลที่ผมตัดสินใจเรียก ก็องเต้ มาติดทีม เราสามารถถกเถียงกันเกี่ยวกับความเข้มข้นของการแข่งขันในซาอุดีอาระเบีย แต่เขาเล่นไปมากกว่า 4,000 นาทีในฤดูกาลนี้ นั่นคือมากกว่า 40 เกม ผมไม่สงสัยเกี่ยวกับความแข็งแกร่ง แข็งแรง และความฟิตของเขาเลย"
ปรากฏว่าเกมแรกของทีมชาติฝรั่งเศส ในยูโร 2024 ที่เอาชนะ เดนมาร์ก 1-0 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ นั้นสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นส่วนสำคัญในแดนกลางของฝรั่งเศส ดั่งคำพูดที่คอบอลหลายคนยกยอเขาว่า " 70% ของโลกปกคลุมด้วยน้ำ ที่เหลือถูกปกคลุมด้วยกองเต้ "
โดยสถิติของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ได้รับรางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ มีดังนี้
-ลงเล่น 90 นาที
-วิ่ง 11.77 กิโลเมตร
-ตัดบอล 2 ครั้ง
-ชนะการดวลภาคพื้น 5 ครั้ง
-แย่งบอลกลับมาครอง 6 ครั้ง
-สร้างโอกาสทำประตู 2 ครั้ง
-เป็นคนสุดท้ายที่สกัดบอล 1 ครั้ง
นอกจากนี้ภายในเกมกับ เดนมาร์ก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ก็ได้รับเกียรติสวมปลอกแขนกัปตันทีม หลัง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จมูกหักในช่วงท้ายเกม ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกว่า "ผมไม่ได้คาดหวังสิ่งนั้น(ปลอกแขนกัปตัน) มันเป็นเกียรติอย่างยิ่ง"
"เอาจริง ๆ ผมค่อนข้างวิตกกังวลเล็กน้อยในช่วงเริ่มต้นของการแข่งขัน แต่ผมก็สนุกกับความรู้สึกนั้นในสนามอีกครั้ง เราต้องการทำให้เกมนี้เป็นที่ยากสำหรับทีมชาติออสเตรีย และผมเชื่อว่ามันค่อนข้างออกมาดี ผมไม่เคยรู้สึกว่าฟอร์มของผมตอนที่เล่นอยู่ซาอุฯ จะตกลงไปเลยแม้แต่น้อย"
"ผมทุ่มเทอย่างเต็มที่ที่นั่นเสมอ และแค่อยากทำแบบเดียวกันที่นี่ กับทีมชาติฝรั่งเศส ในยูโร 2024"
อย่างไรก็ตาม เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะห่วง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่จมูกหักจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล "เขาอาการไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้ ตีลิยัน เอ็มบัปเป้ อยู่กับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์แล้ว จมูกของเขาถูกกระแทกอย่างรุนแรง และเราจำเป็นต้องตรวจสอบสิ่งนั้น และมันก็โชคร้ายมากสำหรับเรา"
“ทีมฝรั่งเศสจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อมี คีลิยัน เอ็มบัปเป้ แต่ถ้าเขาเล่นไม่ได้ เราก็จะอยู่ได้โดยไม่มีเขา พวกเราทุกคนกังวลที่ เอ็มบัปเป้ ออกจากสนามพร้อมสภาพแบบนั้น เรายังไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร … เราหวังว่ามันจะไม่รุนแรงเกินไปและเขาจะกลับมาอยู่กับเราตลอดการแข่งขันที่เหลือ"
สำหรับโปรแกรมต่อไปของทีมชาติฝรั่งเศส ในศึกยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาจะต้องพบกับ เนเธอร์แลนด์ คืนวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2024 เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
