โปรตุเกส ยุคใหม่ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เตรียมกรีฑาทัพสู่ เยอรมนี เจ้าของสังเวียนศึกชิงแชมป์ยุโรปปีนี้ ด้วยขุมกำลังที่แน่นปั๊ก พร้อมด้วยสถิติฟาดแข้ง 13 นัดหลังสุด ชนะ 12 แถมยิงประตูถล่มทลาย แพ้แค่เกมเดียว
ก่อนศึกยูโร 2024 จะฟาดแข้งวันที่ 14 มิถุนายน นี้ ลองมาเช็คกันหน่อยว่าพลพรรค "ฝอยทอง" ชุดนี้ มีดีแค่ไหน? แล้วดีพอจะไปถึงแชมป์สมัยที่ 2 หรือไม่?
เปิดรายชื่อมานักเตะ 26 คนออกมา เรียกว่าแน่นปึ๊กเพราะอุดมไปด้วยนักเตะชื่อดังมากมาย เช่น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์กัปตันทีม ที่แม้จะไปค้าแข้งในลีกซาอุดีอาระเบีย แต่ก็ยังยิงประตูถล่มทลาย ตามด้วยเหล่ารุ่นน้องที่ค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรปทั้ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ดิโอโก้ โชต้า, ฌูเอา เฟลิกซ์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฌูเอา กานเซโล่ และ รุย พาทริซิโอ เรียกว่าวางใจได้ มีประสบการณ์ฟาดแข้งในยุโรปมาโชกโชน
ขณะที่กุนซืออย่าง โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ แม้จะเสียรังวัดพอสมควรที่ไม่สามารถพา เบลเยี่ยม เป็นแชมป์รายการใหญ่ได้เลยทั้งที่เคยขึ้นเป็นทีมอันดับ 1 ของโลก แต่พอย้ายมาคุมทัพโปรตุเกส ทุกอย่างไปได้สวย เขาผสมผสานเกมรุกในสไตล์ของตัวเองกับนักเตะโปรตุเกสได้อย่างลงตัว พิสูจน์ได้จากการออกสตาร์ทสวยงาม 11 นัดชนะรวด โดยเฉพาะเกมคัดเลือกยูโรคือสถิติชนะ 100% แถมยิงคู่แข่งแบบไม่ปราณี เกิน 2 ลูกเกือบทุกนัด
ย้อนไปสมัยที่ โปรตุเกส ชุดคว้าแชมป์ยูโร 2016 ที่คุมโดย เฟร์นานโด ซานโตส แม้จะได้แชมป์ยุโรปสมัยแรกแต่แฟนบอล "เซเลเซา" ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่เพราะเน้นเล่นเกมรับแล้วสวนมากกว่า แต่กับ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เลือกที่จะให้นักเตะในทีมเดินเกมรุกเต็มที่ ผลที่ออกมากลายเป็น โปรตุเกส ในยุคของเขา เล่นฟุตบอลสนุก บุกเร้าใจ และพังประตูเป็นกอบเป็นกำ ได้ใจแฟนบอลอย่างมาก
นอกจากนักเตะดังๆ ที่มารายงานตัวกันครบ มีดาวรุ่งหนึ่งคนน่าสนใจคือ ฌูเอา เนเวส กองกลางวัย 19 จากเบนฟิก้า ที่ฉายฟอร์มโดดเด่นกับต้นสังกัดจนยึดตำแหน่งตัวจริงได้อยู่หมัด เล่นได้ทั้งกลางรุกและกลางรับ แถมพลังงานล้นเหลือ เป็นหนึ่งในคนที่สื่อให้การจับตามองว่าอาจเป็นดาวเด่นประจำทัวร์นาเมนต์ ถ้าหาก โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ให้โอกาสเด็กหนุ่มคนนี้ลงไปฉายฟอร์มบนฟลอร์หญ้า
แต่แน่นอนว่าหัวใจหลักของทีมก็ยังคงเป็น CR7 อยู่เช่นเคย ถึงแม้จะไปเล่นฟุตบอลในดินแดนที่ห่างไกลสายตาแฟนบอลยุโรปอย่าง ซาอุดีอาระเบีย แต่ โรนัลโด้ วัย 39 ปี ก็ยังซัดระเบิดระเบ้อ 44 ลูกทุกรายการ มาตรฐานในการพังประตูยังคงสม่ำเสมอไว้ใจได้ และเป็นลูกพี่ใหญ่ที่นักเตะรุ่นน้องทุกคนไว้ใจให้เป็นผู้นำทัพแบบ 100
อย่างไรก็ตาม โปรตุเกส ชุดนี้ยังน่าเป็นห่วงในเรื่องเกมรับ โดยเฉพาะตำแหน่งเซ็นเตอร์ รูเบน ดิอาซ ปักหลักจองพื้นที่แล้ว แต่ มาร์ติเนซ ต้องหาคู่หูที่เชื่อใจได้ให้กับเขา เปเป้ วัย 41 ปี ได้เก๋าแต่เชื่องช้าไปแล้ว อาจรับมือกับกองหน้าคู่แข่งที่อายุน้อยและแข็งแกร่งกว่าไม่ไหว
ดังนั้น มาร์ติเนซ อาจใช้เซ็นเตอร์อายุน้อยอย่าง อันโตนิโอ ซิลวา กับ กอนซาโล่ อินาซิโอ ที่สลับกันลงคู่ ดิอาซ มาหลายเกมก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ต้องดูว่าเขาจะเลือกใครเป็นตัวยืน และสองคนนี้ที่เพิ่งติดทีมชาติไม่ถึง 10 นัด จะเล่นได้ดีแค่ไหนกับทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ที่เยอรมนี
อีกอย่าง โปรตุเกส ถึงแม้จะทำผลงานสุดตราตรึง 13 นัดหลังสุด ชนะ 12 แพ้ 1 ซัดไป 45 ประตู แต่คู่แข่งระหว่างทางคือทีมระดับรองแบบ ลิกเทนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก, บอสเนีย, ไอซ์แลนด์, สโลวาเกีย, สวีเดน, ฟินแลนด์ ที่ไม่ค่อยท้าทายฝีมือพวกเขาสักเท่าไหร่ ต้องดูว่าเมื่อเจอคู่แข่งที่ท้าทายอย่าง เช็ก, ตุรกี หรือพวกทีมเต็งอย่าง เยอรมนี, ฝรั่งเศส หรืออังกฤษ โรนัลโด้ และผองเพื่อนจะสู้ได้แค่ไหน
กระนั้นเพื่อเป็นการเติมเต็มความมั่นใจ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือระดับโลกชาวโปรตุกีส ให้สัมภาษณ์อย่างเชื่อมั่นว่า โปรตุเกส จะมีโอกาสคว้าแชมป์ยุโรปในทัศนะของเขา "ผมไม่ได้จะแสดงความไม่เคารพต่อนักฟุตบอลรุ่นก่อนของเรา แต่ด้วยดีกรีความเข้มข้นและคุณภาพของขุมกำลังนักเตะ ตอนนี้เราอาจเป็นทีมชุดที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา และโปรตุเกส สามารถเป็นแชมป์ได้"
"มันเป็นเรื่องของความมั่นใจ ความเชื่อมั่นว่าพวกเขาสามารถเอาชนะทีมไหนก็ได้ ผมไม่อยากบอกว่าโปรตุเกส เป็นทีมที่ดีที่สุด แต่เมื่อดู สเปน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และเยอรมนี บอกเลยว่าพวกเขาไม่ได้เหนือกว่า"
สิ่งที่ "เดอะ สเปเชียล วัน" พูดนั้นไม่เกินจริงเพราะนี่น่าจะเป็น โปรตุเกส ชุดที่ดีที่สุดชุดหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติของพวกเขาแล้ว ที่เหลือขึ้นกับ โรนัลโด้, มาร์ติเนซ และนักเตะทุกคนว่าร่วมแรงร่วมใจกันพา "ฝอยทอง" ไปถึงแชมป์ยุโรปสมัยที่ 2 ได้หรือเปล่า?
สำหรับ โปรตุเกส ที่อยู่ในกลุ่ม F จะดวลกับ เช็ก (18 มิถุนายน), ตุรกี (22 มิถุนายน) และ จอร์เจีย (วันที่ 26 มิถุนายน) ซึ่งดูจากหน้าเสื่อ พวกเขามีโอกาสที่จะเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มได้ไม่ยาก แต่หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรต้องรอติดตาม
