หลังจากที่ อังเดรย์ เชฟเชนโก้ อดีตกองหน้าของ เอซี มิลาน และ เชลซี ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานสมาคมฟุตบอลยูเครน เมื่อต้นปี 2024 ที่ผ่านมา ล่าสุดตัวเขาได้เตรียมเปลี่ยนแปลงวงการฟุตบอลภายในประเทศ โดยเริ่มจากการนำเครื่องจับเท็จมาใช้กับผู้ตัดสิน เพื่อลดปัญหาการทุตจริต อาทิ ล็อกผล ล้มบอล หรือ ติดสินบน
มีรายงานว่า อังเดรย์ เชฟเชนโก้ วัย 47 ปี ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมฟุตบอลยูเครน มีความหงุดหงิดไม่น้อยต่อการทำหน้าที่ของบรรดาผู้ตัดสินในลีกสูงสุดของประเทศ จึงได้ผุดแนวทางสุ่มผู้ตัดสินเข้าเครื่องจับเท็จ(polygraph tests) เพื่อตรวจสอบว่าผู้ตัดสินเหล่านั้นได้รับสินบน หรือถูกจ้างวานให้ทุจริตหรือไม่
โดยการทดสอบเครื่องจับเท็จ จะเผยถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่นำไปสู่การทุจริต ไม่ว่าจะเป็น ความดันโลหิต, การไหลเวียนเลือด, อัตราการหายใจ และการตอบสนองของต่อมเหงื่อ
ซึ่ง อังเดรย์ เชฟเชนโก้ ได้อธิบายถึงไอเดียนี้ว่า "เราเห็นเครื่องจับเท็จเป็นโอกาสที่จะได้รับข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้ตัดสินคนใดบ้างที่เราจะสามารถร่วมงานกันต่อไปได้ และคนไหนไม่ควรร่วมงานด้วย เราจะเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด"
และหากผู้ตัดสินคนใดที่ไม่ผ่านการทดสอบหรือถูกจับได้ว่ามีเอี่ยวกับการทุจริตเกมฟุตบอลในยูเครน จะได้รับบทลงโทษแบนจากการทำหน้าที่ชี้ขาดในสนาม
การทุจริตในวงการฟุตบอลยูเครนถือเป็นปัญหาฝังรากมาตั้งแต่อดีต เช่น ในปี 1995 ดินาโม เคียฟ ถูกตัดออกจากรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังถูกกล่าวหาว่าพยายามติดสนบนผู้ตัดสินชาวสเปน ก่อนเกมรอบแบ่งกลุ่มกับ พานาธิไนกอส
ส่วนในช่วงไม่กี่ปี่ที่ผ่านมา การล็อกผลการแข่งขันก็กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีแก๊งอาชญากรคอยปฏิบัติการอย่างกว้างขวาง ซึ่งในปี 2018 มี 35 สโมสรถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในแผนการดังกล่าว และว่ากันว่าได้รับค่าตอบแทนจากผู้ให้บริการในเอเชียเกือบ 4 ล้านยูโร (ราว 156,812,000 บาทไทย)
อย่างไรก็ตามแนวทางที่ อังเดรย์ เชฟเชนโก้ นำมาใช้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการลูกหนังโลก เพราะในปี 2012 ประเทศไทยของเรา ก็เคยมีการนำตัวผู้ตัดสินเกมบีอีซี เทโร ศาสน พบกับ ชัยนาท เอฟซี มาเข้าเครื่องจับเท็จ หลังถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีส่วนกับการล็อกผลการแข่งขัน