
พลพรรคลูกหนังทีมชาติเยอรมนี เตรียมบอกลาชุดแข่งของ อาดิดาส แบรนด์คู่ชีวิตที่อยู่ร่วมกันมายาวนานกว่า 7 ทศวรรษ ก่อนหันมาใส่ชุดแข่งที่ผลิตโดยผู้สนับสนุนรายใหม่นั่นคือ ไนกี้ ตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป
มีการประกาศจากสมาคมฟุตบอลเยอรมนี (DFB) อย่างเป็นทางการว่า ไนกี้ จะเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนชุดแข่งให้กับพวกเขา หลังจับมือเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันเรียบร้อย ภายใต้สัญญา 7 ปีด้วยกัน คือปี 2027-2034
ขณะที่ อาดิดาส ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งให้กับ "อินทรีเหล็ก" มายาวนานกว่า 70 ปี จะหมดสัญญากับสมาคมในปี 2026 ซึ่งนั่นหมายความว่า อาดิดาส จะผลิตชุดแข่งของเยอรมนีตัวสุดท้ายให้กับเยอรมนี คือชุดแข่งสำหรับลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 ที่แคนาดา, เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา
โฮลเกอร์ บลาสก์ หนึ่งในคณะกรรมการบริหารของ DFB เผยถึงการร่วมงานกับพันธมิตรรายใหม่จากอเมริกาว่า "การเซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนชุดแข่งของ ไนกี้ กับพวกเราในอนาคตนั้น เป็นผลมาจากขั้นตอนการประกวดราคาที่โปร่งใสและไม่เลือกปฏิบัติ ไนกี้ ได้ยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุด และเราประทับใจกับวิสัยทัศน์ของพวกเขา รวมถึงความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการสนับสนุนวงการกีฬาสมัครเล่นและระดับรากหญ้า ตลอดจนการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงในเยอรมนี"
เป็นที่รู้กันดีว่า อาดิดาส กับ เยอรมนี คือพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์กันมาเนิ่นนาน ผ่านชุดแข่งต่างๆ ที่แบรนด์สามแถบดีไซน์ให้นักเตะสวมใส่มาตลอดทุกยุคทุกสมัย จนเป็นภาพจำของแฟนบอลเสมอมา โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ เยอรมนี คว้าแชมป์โลก 4 สมัย และแชมป์ยุโรป 3 สมัย ซึ่งมีชุดแข่งของ อาดิดาส โดดเด่นเป็นสง่าไปทั่วโลก แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายก็กำลังจะสิ้นสุดลงในปี 2026 นี้
จากการเปิดเผยของ Bild สื่อของเยอรมนี ระบุว่าในสัญญาปัจจุบัน อาดิดาส เป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งและมอบเงินสนับสนุน DFB ปีละ 50 ล้านยูโร (ประมาณ 1,957 ล้านบาท) แต่การมาของ ไนกี้ มีการวิเคราะห์ว่าแบรนด์คู่แข่งจากอเมริการายนี้ จ่ายให้มากกว่าที่ปีละ 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,915 ล้านบาท)
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ อาดิดาส ต้องเผชิญกับความผิดหวังและรายได้ที่ลดลงยิ่งกว่าเดิม หลังจากก่อนหน้านี้พวกเขาได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการสะบั้นสัมพันธ์กับ คานเย่ เวสต์ นักร้องฮิปฮอปชื่อดัง เจ้าของไอเดียรองเท้า Yeezy ที่ทำเงินให้กับ อาดิดาส อย่างมหาศาลตั้งแต่ปี 2015 แต่หลังจากแยกทางกันไปเมื่อปี 2022 ก็ทำให้ อาดิดาส สูญเสียรายได้อย่างหนักทีเดียว