News

Kings League ฟุตบอล 7 คนสุดบันเทิง โดย ปิเก้ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อต่อกร TikTok และ YouTube

ฟุตบอลถือเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก สามารถสร้างมูลค่าได้มหาศาลไม่ว่าจะจากค่าตั๋วเข้าชม, การจำหน่ายเสื้อและของที่ระลึก และที่สำคัญคือค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด จนมีบางคนมองว่าปัจจุบันการแข่งขันฟุตบอลก็ไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ความบันเทิงอย่างหนึ่ง

 


ซึ่ง เคราร์ด ปิเก้ ตำนานปราการหลังบาร์เซโลน่า และเป็นผู้ก่อตั้งการแข่งขันฟุตบอล 7 คนสุดมัน อย่าง "Kings League" ได้ให้คำแนะนำว่ากีฬาฟุตบอลจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย รวมถึงต้องให้ความสนใจกับพฤติกรรมการเสพสื่อของเด็กรุ่นใหม่ที่หลงใหลความบันเทิงอื่น ๆ มากกว่า อาทิ Netflix, Amazon, YouTube, TikTok เพื่อรักษาฐานคนดู

การเปลี่ยนแปลงกีฬาฟุตบอลในมุมมองของ เคราร์ด ปิเก้ เป็นอย่างไร ร่วมติดตามได้ในโพสต์นี้

 

หลังจากที่พา บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลา ลีกา สเปน ถึง 9 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย, โกปา เดล เรย์อีก 7 สมัย และประกาศแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2022 เคราร์ด ปิเก้ ก็กลายเป็นหัวหอกของการก่อตั้งลีกฟุตบอล 7 VS 7 หรือ "Kings League" ที่มีการสตรีมมิ่งไลฟ์สดทางแพลตฟอร์ม Twitch

โดยรายการ "Kings League" ของ เคราร์ด ปิเก้ มีรูปแบบการแข่งขันที่แหวกแนวแตกต่างจากฟุตบอล 11 คนปกติทั่วไป ไล่ตั้งแต่ระยะเวลาที่จะแข่งขันสองครึ่ง ครึ่งละ 20 นาที หรือรอบเก็บคะแนนที่ทั้ง 12 ทีมจะพบกันหมดหลังจากนั้นทีมแปดอันดับแรกจะได้ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก

และยังมีกฎอื่น ๆ อีกมากมายที่จะพบเจอไม่ได้ที่ไหนนอกจาก "Kings League" ยกตัวอย่างเช่น เปลี่ยนตัวสำรองไม่จำกัด, หากได้รับใบเหลืองต้องออกไปพักข้างสนาม 2 นาที, หากได้รับใบแดงออกไปพักข้างสนาม 5 นาที, เปลี่ยนรายชื่อผู้เล่นคนที่ 12 แต่ที่เป็นไฮไลต์คงหนีไม่พ้นสิ่งที่เรียกว่า "อาวุธลับ" ที่แต่ละทีมสามารถใช้ได้หนึ่งครั้งต่อเกมได้แก่ การกีดกันผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเป็นเวลา 2 นาที, ช่วงเวลาโบนัสที่ยิงเข้าจะได้รับ 2 ประตูเป็นเวลา 2 นาที หรือการขโมยอาวุธลับของทีมฝ่ายตรงข้าม ฯลฯ

อย่างไรก็ตามล่าสุด เคราร์ด ปิเก้ ได้ออกมาถึงอธิบายเหตุผลที่ก่อตั้งการแข่งขัน "Kings League" ว่าเป็นเพราะทุกวันนี้ผู้ชมในปัจจุบันโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุน้อย มีพฤติกรรมการรับชมความบันเทิงแตกต่างจากเดิม ซึ่งสิ่งที่เขาทำนั้นเพื่อการรักษาฐานการรับชมกีฬาฟุตบอลในกลุ่มคนอายุน้อย

"เหตุผลหนึ่งที่เราก่อตั้ง Kings League ขึ้นมาก็คือผมเห็นลูก ๆ ของผมดูการแข่งขันฟุตบอล และหลังจากนั้น 10 นาที พวกเขาก็เล่นโทรศัพท์และแท็บเล็ตและดูสิ่งอื่นๆ ในเวลาเดียวกัน"

"ฟุตบอลคือความบันเทิง ดังนั้นฟุตบอลจึงไม่ใช่แค่การแข่งขันกับกีฬาประเภทอื่นเท่านั้น แต่ตอนนี้เราแข่งขันกับ Netflix, Amazon, YouTube, TikTok ทุกคนมีเวลาจำกัด ฟุตบอล 90 นาทีมันคงไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่" เคราร์ด ปิเก้ บอกกับ The Times

และเมื่อ เคราร์ด ปิเก้ ถูกถามว่าแล้วคุณดูเต็มเกมฟุตบอลเต็ม 90 นาทีหรือไม่ ซึ่งอดีตตำนานปราการหลังสเปน ตอบว่า "ไม่เลย ผมดูเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดสำคัญ บาร์เซโลน่า-นาโปลี แต่หากเป็นการแข่งขันลา ลีกา สเปน นัดที่ 25 ของฤดูกาล ผมไม่ดูพวกเขา"

"ผมดูเกมการแข่งขันของบาร์เซโลน่า บ้าง แต่ไม่ใช่เต็มเกมหรือ 90 นาที ผมอาจจะรับชมแค่ 30 หรือ 40 นาที มันเป็นกระแสที่กำลังเกิดขึ้น และไม่สามารถหยุดยั้งได้ คุณต้องปรับตัว"

นอกจากนี้ เคราร์ด ปิเก้ ยังได้ยกตัวอย่างว่ากีฬาฟุตบอลควรเอาแบบอย่างกีฬาเบสบอลและกีฬาบาสเก็ตบอลที่จะไม่มีการเสมอกันในเกม และต่อเวลาพิเศษเพื่อหาผู้ชนะ "เรื่องที่ว่าฟุตบอลจะไม่มีผลเสมอ ทำไมจะเกิดขึ้นไม่ได้ล่ะ? ในกีฬาเบสบอลและบาสเก็ตบอลไม่มีการเสมอกัน เมื่อคุณไปดูเกมและจบลงด้วยการเสมอกัน คุณจะมีความรู้สึกคือใครชนะ?"

"ปัจจุบันฟุตบอลกลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะมันมีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และคงความดั้งเดิมไว้มาก แต่การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น มันจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน การจบเกม 90 นาทีด้วยสกอร์ 0-0 เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจสำหรับคนรุ่นใหม่"

และเมื่อถูกถามว่าจะมีโอกาสเข้าไปมีตำแหน่งในฝ่ายนิติบัญญัติของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) และยูฟ่า เพื่อเปลี่ยนแปลงวงการฟุตบอลหรือไม่ เคราร์ด ปิเก้ กล่าวว่า "น่าเบื่อมาก ด้วยกระบวนการและคณะกรรมการคุณแทบจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้เลย มันเหมือนเป็นฝันร้ายเลยแหละ"

 

Author

รณกฤต ตุลยะปรีชา

วัยรุ่นคู้บอน

Graphic

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1