เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง ได้ทีมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมเป็นที่เรียบร้อย โดย ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สามารถเอาชนะ เรอัล โซเซียดาด ไปด้วยสกอร์ 2-1 จากฝีเท้าของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ส่วนทาง เรอัล โซเซียดาด ได้ มิเกล เมริโน่ ยิงตีตื้นในช่วงท้ายเกม (สกอร์รวม เปแอชเช ชนะ เรอัล โซเซียดาด 4-1)
อย่างไรก็ตามนอกจากบรรยากาศการแข่งขันที่ฟาดแข้งกันอย่างดุเดือดแล้ว เกมนี้ยังถูกหลายฝ่ายให้ความสนใจ เนื่องจากถือว่าเป็น "Mini Korea-Japan match" หรือการโคจรมาพบกับระหว่างสองแข้งระดับซูเปอร์สตาร์เอเชีย อย่าง ทาเคฟุสะ คุโบะ และ อี คัง-อิน ที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติญี่ปุ่นและทีมชาติเกาหลีใต้ตามลำดับ
แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าทั้งคู่รู้จักกันมานานเกินทศวรรษตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชนที่เพิ่งย้ายมาลุยเส้นทางค้าแข้ง ณ แดนกระทิงดุ แถมยังเป็นเพื่อนรักกันอีกด้วย
ในโพสต์นี้ Main Stand จะพาทุกท่านไปรับชมมิตรภาพเกิน 10 ปี ของ ทาเคฟุสะ คุโบะ และ อี คัง-อิน ที่โคจรมาพบกันอีกครั้งในค่ำคืน UCL
เรื่องราวความสัมพันธ์ของ ทาเคฟุสะ คุโบะ และ อี คัง-อิน เริ่มต้นขึ้นเมื่อพวกเขาทั้งคู่ต่างเข้าร่วมอะคาเดมี่ของสโมสรชั้นนำในประเทศสเปน โดย ทาเคฟุสะ คุโบะ เข้าร่วม บาร์เซโลน่า ในปี 2011 หลังจากที่ทางสโมสรไปพบตัวเขาเข้าที่ค่ายฟุตบอลเยาวชนของ "เจ้าบุญทุ่ม" ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ณ ตอนนั้น ทาเคฟุสะ คุโบะ ศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมต้นและเป็นเด็กปั้นของ โตเกียว แวร์ดี ทีมดังของแดนปลาดิบ ขณะที่ อี คัง-อิน ก็ได้รับเสนอจาก "ค้างคาว" บาเลนเซีย ในปีเดียวกัน
จนทำให้ในปี 2013 ทาเคฟุสะ คุโบะ และ อี คัง-อิน ได้พบเจอกันเป็นครั้งแรกในปี 2013 ในการแข่งขันฟุตบอลระดับเยาวชนของสเปน ที่ บาร์เซโลน่า มีคิวต้องดวลกับ บาเลนเซีย หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเดินบนเส้นทางลูกหนังของตนเองและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา อย่างไรก็ดีเส้นทางของ อี คัง-อิน นั้นราบรื่นกว่า ทาเคฟุสะ คุโบะ อยู่ไม่น้อย เพราะดาวเตะชาวเกาหลีใต้ไต่เต้าจนสามารถขึ้นชุดใหญ่ของ บาเลนเซีย ได้สำเร็จ
ส่วนกรณีของ ทาเคฟุสะ คุโบะ นั้นดูเหมือนจะมีอุปสรรคมากกว่าเนื่องจากในปี 2015 บาร์เซโลน่า ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ลงโทษทางวินัยว่าด้วยความผิดเรื่องละเมิดคำสั่งห้ามโอนผู้เล่นอายุต่ำกว่า 18 ปีไปยังสโมสรในต่างประเทศ ส่งผลให้ คุโบะ ต้องกลับมายังบ้านเกิดเพื่อสวมยูนิฟอร์มเอฟซี โตเกียว และต่อด้วยไปเล่นแบบยืมตัวกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ปี 2018
ซีซั่นถัดมา ทาเคฟุสะ คุโบะ ได้ถูก เรอัล มาดริด กระชากตัวเข้าทีมด้วยสัญญายาว 5 ปี ทว่าเขาต้องเริ่มเก็บประสบการณ์ก่อนเป็นลำดับแรก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ทีมสำรอง รวมถึงถูกปล่อยยืมตัวไปกับหลายสโมสร อาทิ มายอร์ก้า (ฤดูกาล 2019-20), บียาร์เรอัล (ครึ่งแรกของฤดูกาล 2020-21) หรือ เกตาเฟ่ (ครึ่งหลังของฤดูกาล 2020-21) ซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่ อี คัง-อิน เริ่มโดนลดบทบาทกับ บาเลนเซีย ชุดใหญ่ ก่อนจะโดนปล่อยตัวในฐานะแข้งฟรีเอเย่นต์
กระทั่งเดือนสิงหาคม ปี 2021 ทาเคฟุสะ คุโบะ และ อี คัง-อิน ก็ได้เล่นฟุตบอลทีมเดียวกันแบบจริงจังครั้งแรก ภายใต้สีเสื้อของ มายอร์ก้า และประสานงานกันพาต้นสังกัดรอดตกชั้นได้อย่างหวุดหวิด โดยเก็บได้ 39 คะแนนจาก 38 เกม มีแต้มมากกว่า กรานาด้า เพียง 1 คะแนน อย่างไรก็ดีนี่ถือเป็นการเล่นทีมเดียวกันฤดูกาลแรกและฤดูกาลสุดท้าย
เพราะฤดูกาลต่อมา (2022-23) ทาเคฟุสะ คุโบะ เลือกที่จะย้ายไปอยู่กับ เรอัล โซเซียดาด ส่วน อี คัง-อิน ปักหลักอยู่กับ มายอร์ก้า ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งกับ เปแอสเช เมื่อช่วงหน้าร้อนที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทาเคฟุสะ คุโบะ และ อี คัง-อิน ก็ค่อย ๆ สร้างชื่อของตนเองจนกลายเป็นแข้งแถวหน้าแห่งเอเชีย รวมถึงกำลังสำคัญของต้นสังกัด กระนั้นสายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนรักทั้งสองก็ไม่เคยลดลงเลยแม้แต่น้อย
อาจเพราะ ทาเคฟุสะ คุโบะ และ อี คัง-อิน มีวัยเด็กที่คล้ายคลึงกันในฐานะนักฟุตบอลส่งผลให้ผู้เล่นทั้งสองแสดงมิตรภาพที่ก้าวข้ามขอบเขตประเทศ อย่างเช่นการอวยพรผ่านอินสตาแกรมในวันเกิดของกันและกัน หรือในรายการสัมภาษณ์ เมื่อเดือนกันยายน 2022 เมื่อพิธีกรถาม คุโบะ ว่า "ใครคือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณในวงการฟุตบอล?"
ซึ่ง คุโบะ ได้ตอบดังนี้ "อี คัง-อิน อันที่จริงผมเพิ่งวางสายจากเขาเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว อี คัง-อิน กับ ผมอยากเล่นทีมเดียวกันในฤดูกาลนี้ ทุกคงทราบดีว่าเขาเล่นให้มายอร์ก้า แต่ผมว่าสไตล์ฟุตบอลของเรอัล โซเซียดาด เหมาะกับเขามากกว่า"
"ถึงแม้มันคล้ายกันมาก แต่ก็มีความแตกต่างเช่นกัน อี คัง-อิน มีความสามารถในการเล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมมากรวมถึงมีการแข่งขันอยู่ในระดับสูง ในฐานะบุคคลเขาได้คะแนน 10 เต็ม 10 เราเข้ากันได้ดีมาก บุคลิกของ อี คัง-อิน นั้นคล้ายคนสเปนมากกว่าคนเกาหลี"
นอกจากนี้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ อี คัง-อิน ได้กล่าวถึง คุโบะ หลังพาโสมขาว เอาชนะ โปรตุเกส และผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ว่า "เขาเป็นเพื่อนร่วมอาชีพและเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกับผม แม้ว่าเขาจะมีด้านที่อ่อนไหวแต่เขาก็เป็นเพื่อนที่ช่วยเหลือผมได้เยอะ ผมแค่หวังว่า คุโบะ จะสบายดี เมื่อตอนเช้า (ก่อนเกม) ผมติดต่อ คุโบะ หลังได้เห็นผลของทีมชาติญี่ปุ่น เขาบอกว่าเกาหลีใต้ จะเป็นฝ่ายชนะ โปรตุเกส และเราจะได้พบกันในรอบก่อนรองชนะเลิศ"
และในเอเชียน คัพ 2023 ที่ กาตาร์ ที่เพิ่งปิดฉากไปเมื่อต้นปี Soccer Digest สื่อฟุตบอลประเทศญี่ปุ่น ก็ได้เผยว่า ทาเคฟุสะ คุโบะ มักติดตามการแข่งขันของทีมชาติเกาหลีใต้ในรอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงคุยกับ อี คัง-อิน ว่าให้พาทีมชาติเกาหลีใต้คว้าแชมป์กลุ่มให้ได้ และเจอกันในรอบชิงชนะเลิศ
สุดท้ายนี้ต้องคอยติดตามกันให้ดีว่าในอนาคตสองเพื่อนซี้ชาวเอเชีย อย่าง ทาเคฟุสะ คุโบะ และ อี คัง-อิน จะใช้มิตรภาพจารึกประวัติศาสตร์ใดบ้างให้กับวงการลูกหนัง