ไทยลีก มีนักเตะอาเซียน 20 คน “ฟิลิปปินส์” เยอะสุด 8 ราย แต่ไม่มีใครอยู่สุขุมวิท 11

#โควตาอาเซียน กลายเป็นประเด็นถกเถียงในวงการฟุตบอลไทย หลังจากที่พรีเซนเตอร์ สภ.บ้านกรวด ท่านหนึ่งเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมาจากความหวังดีที่อยากเห็นการพัฒนาและโอกาสการลงเล่นของนักเตะไทย

โดยระเบียบว่าด้วยการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ได้ระบุเอาไว้ว่าแต่ละสโมสรสามารถส่งชื่อนักเตะอาเซียนได้ไม่จำกัด และลงสนามแต่ละเกมไม่เกิน คน

#รู้หรือไม่ ว่าฤดูกาลนี้ 2023/24 ในบรรดา 16 ทีม มีเพียง 3 ทีม ที่ไม่ใช้โควตาอาเซียน ประกอบด้วย เมืองทอง ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, สุโขทัย ส่วนอีก 13 ทีม ลงทะเบียนโควตาอาเซียนมากน้อยแตกต่างกันไป รวม 20 คน ดังนี้

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คน : อิรฟาน ฟานดี้ (สิงคโปร์), อินซาน (สิงคโปร์), ไรฮาน สจ๊วต (สิงคโปร์)
ลำพูน วอริเออร์ คน : กีกี้ ลินาเรส (ฟิลิปปินส์), ออสคารี เคคโคเนน (ฟิลิปินส์), หม่อง หม่อง ลวิน (เมียนมาร์)
ราชบุรี คน : ไฮน์ เพียว วิน (เมียนมาร์), เจสซีย์ เคอร์แรน (ฟิลิปปินส์), ฟาอิก โบลเกียห์ (บรูไน)
บุรีรัมย์ คน : ดิออน คูลส์ (มาเลเซีย), เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส ฟิลิปปินส์)
ชลบุรี คน : แพทริก เดโต้ (ฟิลิปปินส์)
เชียงราย คน : ริซัล สจ็วต (สิงคโปร์)
การท่าเรือ คน : อัสนาวี (อินโดนีเซีย)
โปลิศ เทโร คน : เดนนิส วิลลานูเอวา (ฟิลิปปินส์)
พีทีประจวบ คน : รูโดลอฟ บาสนา (อินโดนีเซีย)
ขอนแก่น คน : โจชัวร์ กรอมเมน (ฟิลิปปินส์)
อุทัยธานี คน : อ่อง ทู (เมียนมาร์)
นครปฐม คน : ซอ มิน ตุน (เมียนมาร์)
ตราด คน : อมานี อะกรีนัลโด (ฟิลิปปินส์)

ทั้งนี้ เมื่อแยกเป็นประเทศ พบว่า #ฟิลิปปินส์ คือนักเตะอาเซียนที่หากินในเมืองไทยมากที่สุดถึง 8 คน และไม่มีหลักฐานปรากฎพบว่าพำนักพักพิงอยู่ที่สุขุมวิท 11 เพราะส่วนใหญ่ #ค้าแข้ง อยู่ที่ต่างจังหวัด

ฟิลิปปินส์ : แพทริก เดย์โต (ชลบุรี), เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส (บุรีรัมย์), เดนนิส วิลลานูเอวา (โปลิศ เทโร), กีกี้ ลินาเรส (ลำพูน), ออสคารี่ เคคโคเนน (ลำพูน), เจสซีย์ เคอร์แรน (ราชบุรี), โจชัวร์ กรอมเมน (ขอนแก่น ยูไนเต็ด), อมานี อะกรีนัลโด (ตราด)

สิงคโปร์ : อิคซาน ฟานดี (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), อิรฟาน ฟานดี้ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), ไรฮาน สจ๊วต (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), ริซัล สจ๊วต (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

เมียนมาร์ : หม่อง หม่อง ลวิน (ลำพูน), ซอ มิน ตุน (นครปฐม), อ่อง ทู (อุทัยธานี), ไฮน์ เพียว วิน (ราชบุรี)

อินโดนีเซีย : อัสนาวี (การท่าเรือ), รูโดลอฟ บาสนา (พีที ประจวบ)

มาเลเซีย : ดิออน คูลส์ (บุรีรัมย์)

บรูไน : ฟาอิก โบลเกียห์ (ราชบุรี)